พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [5. จูฬยมกวรรค] 4. จูฬเวทัลลสูตร
ปรารถนาในวิโมกข์ทั้งหลายอันเป็นอนุตตรธรรม1อย่างนี้ โทมนัสย่อมเกิดขึ้นเพราะ
ความปรารถนาเป็นปัจจัย ท่านละปฏิฆะได้ด้วยโทมนัสนั้น ปฏิฆานุสัยมิได้นอน
เนื่องอยู่ในโทมนัสนั้น อนึ่ง เพราะละสุขและทุกข์ได้ เพราะโสมนัสและโทมนัสดับ
ไปก่อนแล้ว ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้บรรลุจตุตถฌาน ที่ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีสติ
บริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่ ย่อมละอวิชชาได้ด้วยจตุตถฌานนั้น อวิชชานุสัยมิได้
นอนเนื่องอยู่ในจตุตถฌานนั้น"
[466] "แม่เจ้าขอรับ อะไรเป็นคู่เปรียบ2แห่งสุขเวทนา"
"ท่านวิสาขะ ทุกขเวทนาเป็นคู่เปรียบแห่งสุขเวทนา"
"อะไรเป็นคู่เปรียบแห่งทุกขเวทนา"
"สุขเวทนาเป็นคู่เปรียบแห่งทุกขเวทนา"
"อะไรเป็นคู่เปรียบแห่งอทุกขมสุขเวทนา"
"อวิชชาเป็นคู่เปรียบแห่งอทุกขมสุขเวทนา"
"อะไรเป็นคู่เปรียบแห่งอวิชชา"
"วิชชาเป็นคู่เปรียบแห่งอวิชชา"
"อะไรเป็นคู่เปรียบแห่งวิชชา"
"วิมุตติเป็นคู่เปรียบแห่งวิชชา"
"อะไรเป็นคู่เปรียบแห่งวิมุตติ"
"นิพพานเป็นคู่เปรียบแห่งวิมุตติ"
"แม่เจ้าขอรับ อะไรเป็นคู่เปรียบแห่งนิพพาน"
"ท่านวิสาขะ ท่านก้าวเลยปัญหาไปเสียแล้ว ไม่อาจกำหนดที่สุดแห่งปัญหาได้
เพราะพรหมจรรย์มีนิพพานเป็นที่หยั่งลง มีนิพพานเป็นจุดหมาย มีนิพพานเป็นที่สุด
ถ้าท่านยังหวังอยู่ก็ควรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ทูลถามเนื้อความนี้เถิด พระผู้มี-
พระภาคทรงตอบแก่ท่านอย่างไร ท่านควรทรงจำคำตอบไว้อย่างนั้นเถิด"