เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [5. จูฬยมกวรรค] 4. จูฬเวทัลลสูตร

"พระผู้มีพระภาคตรัสว่า 'สักกายนิโรธ สักกายนิโรธ' ธรรมอะไรที่พระผู้มี
พระภาคตรัสเรียกว่า 'สักกายนิโรธ"
"ความดับตัณหาไม่เหลือด้วยวิราคะ ความสละ ความสละคืน ความพ้น
ความไม่อาลัยในตัณหานั้น นี้พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกว่า 'สักกายนิโรธ"
"พระผู้มีพระภาคตรัสว่า 'สักกายนิโรธคามินีปฏิปทา สักกายนิโรธคามินี-
ปฏิปทา' ธรรมอะไรที่พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกว่า 'สักกายนิโรธคามินีปฏิปทา"
"อริยมรรคมีองค์ 8 ได้แก่

1. สัมมาทิฏฐิ (เห็นชอบ) 2. สัมมาสังกัปปะ (ดำริชอบ)
3. สัมมาวาจา (เจรจาชอบ) 4. สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ)
5. สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ) 6. สัมมาวายามะ (พยายามชอบ)
7. สัมมาสติ (ระลึกชอบ) 8. สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ)

นี้พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกว่า 'สักกายนิโรธคามินีปฏิปทา"
"แม่เจ้าขอรับ อุปาทานกับอุปาทานขันธ์ 5 เป็นอันเดียวกัน หรือต่างกัน"
"ท่านวิสาขะ อุปาทานกับอุปาทานขันธ์ 5 ทั้งไม่เป็นอันเดียวกัน ทั้งไม่ต่างกัน
ความกำหนัดพอใจในอุปาทานขันธ์ 5 ก็คืออุปาทานนั้นเอง"
[461] "แม่เจ้าขอรับ สักกายทิฏฐิมีได้อย่างไร"
"ท่านวิสาขะ ปุถุชนในโลกนี้ผู้ยังไม่ได้สดับ ไม่ได้พบพระอริยะทั้งหลาย ไม่
ฉลาดในธรรมของพระอริยะ ไม่ได้รับคำแนะนำในธรรมของพระอริยะ ไม่ได้พบ
สัตบุรุษทั้งหลาย ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ไม่ได้รับคำแนะนำในธรรมของ
สัตบุรุษ พิจารณาเห็นรูปโดยความเป็นอัตตาบ้าง พิจารณาเห็นอัตตาว่ามีรูปบ้าง
พิจารณาเห็นรูปในอัตตาบ้าง พิจารณาเห็นอัตตาในรูปบ้าง พิจารณาเห็นเวทนา
ฯลฯ พิจารณาเห็นสัญญา ฯลฯ พิจารณาเห็นสังขารทั้งหลาย ฯลฯ พิจารณา
เห็นวิญญาณโดยความเป็นอัตตาบ้าง พิจารณาเห็นอัตตาว่ามีวิญญาณบ้าง
พิจารณาเห็นวิญญาณในอัตตาบ้าง พิจารณาเห็นอัตตาในวิญญาณบ้าง สักกายทิฏฐิ
มีได้ อย่างนี้แล"

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :501 }