เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [4. มหายมกวรรค] 8. มหาตัณหาสัขยสูตร

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ดีละ ดีละ เธอทั้งหลายรู้ทั่วถึง
ธรรมตามที่เราแสดงแล้ว วิญญาณอาศัยปัจจัยจึงเกิดขึ้น เรากล่าวไว้แล้วโดย
ปริยายเป็นอเนกว่า 'ปราศจากปัจจัย ก็ไม่มีความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณ' แต่สาติภิกษุ
บุตรชาวประมงนี้กล่าวตู่เรา ขุดตนเองและจะประสบสิ่งที่มิใช่บุญเป็นอันมากด้วย
เพราะทิฏฐิที่ตนถือผิด ความเห็นอย่างนั้นของโมฆบุรุษนั้น จักเป็นไปเพื่อ
สิ่งมิใช่ประโยชน์ และเพื่อความทุกข์ตลอดกาลนาน
[400] ภิกษุทั้งหลาย วิญญาณที่เกิดขึ้น เพราะอาศัยปัจจัยใด ๆ ก็
นับว่า 'วิญญาณ' ตามปัจจัยนั้น ๆ วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยจักขุและรูปารมณ์
ก็นับว่า 'จักขุวิญญาณ' วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยโสตะและสัททารมณ์ก็นับว่า
'โสตวิญญาณ' วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยฆานะและคันธารมณ์ก็นับว่า 'ฆาน-
วิญญาณ' วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยชิวหาและรสารมณ์ก็นับว่า 'ชิวหาวิญญาณ'
วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยกายและโผฏฐัพพารมณ์ก็นับว่า 'กายวิญญาณ'
วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยมโนและธรรมารมณ์ก็นับว่า 'มโนวิญญาณ'
ภิกษุทั้งหลาย ไฟที่ติดขึ้นเพราะอาศัยเชื้อใด ๆ ก็นับว่า 'ไฟ' ตามเชื้อนั้น ๆ
ไฟที่ติดขึ้นเพราะอาศัยไม้ก็นับว่า 'ไฟไม้' ไฟที่ติดขึ้นเพราะอาศัยป่าก็นับว่า
'ไฟป่า' ไฟที่ติดขึ้นเพราะอาศัยหญ้าก็นับว่า 'ไฟหญ้า' ไฟที่ติดขึ้นเพราะอาศัยมูลโค
ก็นับว่า 'ไฟมูลโค' ไฟที่ติดขึ้นเพราะอาศัยแกลบก็นับว่า 'ไฟแกลบ' ไฟที่ติดขึ้น
เพราะอาศัยหยากเยื่อก็นับว่า 'ไฟหยากเยื่อ' แม้ฉันใด วิญญาณก็ฉันนั้นเหมือนกัน
เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัยใด ๆ ก็นับว่า 'วิญญาณ' ตามปัจจัยนั้น ๆ วิญญาณที่
เกิดขึ้นเพราะอาศัยจักขุและรูปารมณ์ก็นับว่า 'จักขุวิญญาณ' วิญญาณที่เกิดขึ้น
เพราะอาศัยโสตะและสัททารมณ์ก็นับว่า 'โสตวิญญาณ' วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะ
อาศัยฆานะและคันธารมณ์ก็นับว่า 'ฆานวิญญาณ' วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะอาศัย
ชิวหาและรสารมณ์ก็นับว่า 'ชิวหาวิญญาณ' วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยกายและ
โผฏฐัพพารมณ์ก็นับว่า 'กายวิญญาณ' วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยมโนและ
ธรรมารมณ์ก็นับว่า 'มโนวิญญาณ'

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :431 }


พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [4. มหายมกวรรค] 8. มหาตัณหาสัขยสูตร

ปัจจัยเป็นเหตุเกิดแห่งขันธ์ 5

[401] ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายเห็นว่า 'ขันธ์ 5 เกิดขึ้นแล้วหรือ"
"เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า"
"เธอทั้งหลายเห็นว่า 'ขันธ์ 5 นั้นเกิดขึ้นเพราะอาหารหรือ"
"เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า"
"เธอทั้งหลายเห็นว่า 'ขันธ์ 5 นั้นมีความดับเป็นธรรมดาเพราะความดับ
แห่งอาหารนั้นหรือ"
"เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า"
"ความสงสัยเกิดขึ้นเพราะความเคลือบแคลงว่า 'ขันธ์ 5 นี้มีหรือไม่"
"เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า"
"ความสงสัยเกิดขึ้นเพราะความเคลือบแคลงว่า 'ขันธ์ 5 เกิดขึ้นเพราะ
อาหารนั้นมีหรือไม่"
"เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า"
"ความสงสัยเกิดขึ้นเพราะความเคลือบแคลงว่า 'ขันธ์ 5 นั้นมีความดับเป็น
ธรรมดา เพราะความดับแห่งอาหารนั้นมีหรือไม่"
"เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า"
"บุคคลเห็นตามความเป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบว่า 'ขันธ์ 5 นี้เกิดขึ้นแล้ว
ย่อมละความสงสัยที่เกิดขึ้นได้หรือ"
"เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า"
"บุคคลเห็นตามความเป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบว่า 'ขันธ์ 5 เกิดขึ้นเพราะ
อาหารนั้น' ย่อมละความสงสัยที่เกิดขึ้นได้หรือ"
"เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า"

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :432 }