เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [4. มหายมกวรรค] 1. จูฬโคสิงคสูตร

ท่านพระอนุรุทธะ ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิมิละตามส่งเสด็จพระ
ผู้มีพระภาค ครั้นกลับจากที่นั้นแล้ว ท่านพระนันทิยะและท่านพระกิมิละได้กล่าว
กับท่านพระอนุรุทธะว่า "ท่านอนุรุทธะประกาศคุณวิเศษใดของพวกกระผม จนถึง
ความสิ้นอาสวะ ในที่เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาค พวกกระผมได้บอกคุณวิเศษ
นั้นแก่ท่านอนุรุทธะอย่างนั้นหรือว่า 'พวกเราได้วิหารสมาบัติเหล่านี้และเหล่านี้1"
ท่านพระอนุรุทธะกล่าวว่า "พวกท่านมิได้บอกแก่กระผมอย่างนี้ว่า 'พวกเราได้
วิหารสมาบัติเหล่านี้และเหล่านี้' แต่กระผมกำหนดจิตของพวกท่านด้วยจิตของ
กระผมแล้วรู้ได้ว่า 'ท่านเหล่านี้ได้วิหารสมาบัติเหล่านี้และเหล่านี้' แม้พวกเทวดา
ก็ได้บอกเนื้อความข้อนี้แก่กระผมว่า 'ท่านเหล่านี้ได้วิหารสมาบัติเหล่านี้และเหล่านี้'
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสถามปัญหา กระผมจึงทูลตอบเนื้อความนั้น"

เทวดาสรรเสริญพระเถระทั้ง 3 รูป

[331] ยักษ์ชื่อทีฆปรชนเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวาย
อภิวาทแล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เป็นลาภของชาววัชชี ประชาชนชาววัชชีได้ดีแล้ว
ที่พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาประทับอยู่ และกุลบุตร 3 ท่านนี้
คือ ท่านพระอนุรุทธะ ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิมิละก็มาพักอยู่"
เทพชั้นภุมมะได้ฟังเสียงของยักษ์ชื่อทีฆปรชนแล้วได้ประกาศ(ต่อไป)ว่า "ท่าน
ผู้เจริญทั้งหลาย เป็นลาภของชาววัชชี ประชาชนชาววัชชีได้ดีแล้ว ที่พระตถาคต
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาประทับอยู่ และกุลบุตร 3 ท่านนี้ คือ ท่าน
พระอนุรุทธะ ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิมิละก็มาพักอยู่"

เชิงอรรถ :
1 เหล่านี้และเหล่านี้ ในที่นี้หมายถึงโลกิยธรรมมีปฐมฌานเป็นต้น และโลกุตตรธรรม (ม.มู.อ. 2/330/151)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :363 }


พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [4. มหายมกวรรค] 1. จูฬโคสิงคสูตร

เทพชั้นจาตุมหาราชได้ฟังเสียงของเทพชั้นภุมมะแล้ว ... เทพชั้นดาวดึงส์ ...
เทพชั้นยามา ... เทพชั้นดุสิต ... เทพชั้นนิมมานรดี ... เทพชั้นปรนิมมิตวสวัตดี ...
เทพที่นับเข้าในหมู่พรหมได้ฟังเสียงของเทพชั้นปรนิมมิตวสวัตดีแล้ว ได้ประกาศ
(ต่อไป)ว่า "ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เป็นลาภของชาววัชชี ประชาชนชาววัชชีได้ดีแล้ว
ที่พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาประทับอยู่ และกุลบุตร 3 ท่านนี้
คือ ท่านพระอนุรุทธะ ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิมิละก็มาพักอยู่"
โดยขณะเพียงครู่หนึ่งนั้น ท่าน(พระเถระ)เหล่านั้นได้เป็นผู้ที่เทพทั้งหลาย
รู้จักกันจนถึงพรหมโลกด้วยประการอย่างนี้

การปฏิบัติดีของพระสงฆ์เป็นประโยชน์แก่มหาชน

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า "ทีฆะ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ทีฆะ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น
กุลบุตรทั้ง 3 นี้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตจากตระกูลใด ถ้าตระกูลนั้นมีจิต
เลื่อมใสระลึกถึงกุลบุตรทั้ง 3 นี้ ข้อนั้นจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
แก่ตระกูลนั้นตลอดกาลนาน
กุลบุตรทั้ง 3 นี้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตจากวงศ์ตระกูลใด ถ้าวงศ์
ตระกูลนั้นเลื่อมใสระลึกถึงกุลบุตรทั้ง 3 นี้ ข้อนั้นจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อ
ความสุขแก่วงศ์ตระกูลนั้นตลอดกาลนาน
กุลบุตรทั้ง 3 นี้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตจากหมู่บ้านใด ถ้าหมู่บ้าน
นั้นมีจิตเลื่อมใสระลึกถึงกุลบุตรทั้ง 3 นี้ ข้อนั้นจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อ
ความสุขแก่หมู่บ้านนั้นตลอดกาลนาน
กุลบุตรทั้ง 3 นี้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตจากนิคมใด ถ้านิคมนั้นมีจิต
เลื่อมใสระลึกถึงกุลบุตรทั้ง 3 นี้ ข้อนั้นจะพึงเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
แก่นิคมนั้นตลอดกาลนาน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :364 }