เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [1. มูลปริยายวรรค] 3. ธัมมทายาทสูตร

ไม่ทอดธุระในปวิเวก บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุผู้เป็นเถระเป็นผู้ควรสรรเสริญโดย
ฐานะ 3 ประการ คือ เป็นผู้ควรสรรเสริญโดยฐานะที่ 1 ว่า 'เมื่อพระศาสดา
ประทับอยู่อย่างมีวิเวก สาวกทั้งหลายสนใจศึกษาวิเวก' เป็นผู้ควรสรรเสริญโดยฐานะ
ที่ 2 ว่า 'สาวกทั้งหลายละธรรมทั้งหลายที่พระศาสดาตรัสว่า ควรละ' เป็นผู้
ควรสรรเสริญโดยฐานะที่ 3 ว่า 'สาวกทั้งหลายไม่เป็นผู้มักมาก ไม่เป็นผู้ย่อหย่อน
ไม่เป็นผู้นำในโวกกมนธรรม ไม่ทอดธุระในปวิเวก' บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุผู้เป็น
มัชฌิมะ ฯลฯ ภิกษุผู้เป็นนวกะเป็นผู้ควรสรรเสริญโดยฐานะ 3 ประการ คือ
เป็นผู้ควรสรรเสริญโดยฐานะที่ 1 ว่า 'เมื่อพระศาสดาประทับอยู่อย่างมีวิเวก สาวก
ทั้งหลายสนใจศึกษาวิเวก' เป็นผู้ควรสรรเสริญโดยฐานะที่ 2 ว่า 'สาวกทั้งหลาย
ละธรรมทั้งหลาย ที่พระศาสดาตรัสว่า ควรละ' เป็นผู้ควรสรรเสริญโดยฐานะที่ 3
ว่า 'สาวกทั้งหลาย ไม่เป็นผู้มักมาก ไม่เป็นผู้ย่อหย่อน ไม่เป็นผู้นำในโวกกมนธรรม
ไม่ทอดธุระในปวิเวก' ภิกษุผู้เป็นนวกะเป็นผู้ควรสรรเสริญโดยฐานะ 3 ประการนี้
ด้วยเหตุเท่านี้แล เมื่อพระศาสดาประทับอยู่อย่างมีวิเวก สาวกทั้งหลายชื่อว่าสนใจ
ศึกษาวิเวก

มัชฌิมาปฏิปทา

[33] ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย บรรดาธรรมเหล่านั้น โลภะและโทสะเป็นบาป
มัชฌิมาปฏิปทามีอยู่เพื่อละโลภะและโทสะ เป็นปฏิปทาก่อให้เกิดจักษุ ก่อให้
เกิดญาณ เป็นไปเพื่อสงบระงับ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน1
มัชฌิมาปฏิปทาอันเป็นปฏิปทาก่อให้เกิดจักษุ ก่อให้เกิดญาณ เป็นไปเพื่อ
สงบระคือ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน คืออะไร
คือ อริยมรรคมีองค์ 8 ได้แก่

1. สัมมาทิฏฐิ (เห็นชอบ)
2. สัมมาสังกัปปะ (ดำริชอบ)
3. สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)

เชิงอรรถ :
1 วิ.ม. (แปล) 4/13/20

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :31 }