เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [3. โอปัมมวรรค] 4. รถวินีตสูตร

ตนเองเป็นผู้สันโดษ1 และกล่าวสันตุฏฐิกถา(เรื่องความสันโดษ)แก่ภิกษุทั้งหลาย
ตนเองเป็นผู้สงัด2 และกล่าวปวิเวกกถา(เรื่องความสงัด)แก่ภิกษุทั้งหลาย
ตนเองเป็นผู้ไม่คลุกคลี3 และกล่าวอสังสัคคกถา(เรื่องความไม่คลุกคลี)แก่ภิกษุ
ทั้งหลาย
ตนเองเป็นผู้ปรารภความเพียร4 และกล่าววิริยารัมภกถา(เรื่องการปรารภความ
เพียร)แก่ภิกษุทั้งหลาย
ตนเองเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล5 และกล่าวสีลสัมปทากถา(เรื่องความสมบูรณ์
ด้วยศีล)แก่ภิกษุทั้งหลาย
ตนเองเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยสมาธิ6 และกล่าวสมาธิสัมปทากถา(เรื่องความสมบูรณ์
ด้วยสมาธิ)แก่ภิกษุทั้งหลาย

เชิงอรรถ :
1 เป็นผู้สันโดษ หมายถึงความสันโดษ 3 ประการ คือ (1) ยถาลาภสันโดษ เป็นผู้สันโดษตามมีตามได้
ทั้งดีและไม่ดี (2) ยถาพลสันโดษ เป็นผู้สันโดษตามกำลังทั้งกำลังของตนและของทายก (3) ยถาสารุปป-
สันโดษ เป็นผู้สันโดษตามสมควรแก่สมณภาวะ
สันโดษ 3 ประการ ในปัจจัย 4 คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร จึงเป็น
สันโดษ 12 (ม.มู.อ. 2/252/48-50)
2 เป็นผู้สงัด หมายถึงมีวิเวก 3 ประการ คือ (1) กายวิเวก สงัดกาย ได้แก่ อยู่ผู้เดียวทุกอิริยาบถ
(2) จิตตวิเวก ได้แก่ ได้สมาบัติ 8 (3) อุปธิวิเวก ได้แก่ บรรลุนิพพาน (ม.มู.อ. 2/252/50)
3 เป็นผู้ไม่คลุกคลี หมายถึงไม่คลุกคลีด้วยการคลุกคลี 5 ประการ คือ (1) การคลุกคลีด้วยการฟัง
(2) การคลุกคลีด้วยการเห็น (3) การคลุกคลีด้วยการสนทนาปราศรัย (4) การคลุกคลีด้วยการอยู่ร่วมกัน
(5) การคลุกคลีทางกาย (ม.มู.อ. 2/252/51)
4 เป็นผู้ปรารภความเพียร หมายถึงการทำความเพียรทางกายและทางจิตให้บริบูรณ์ (ม.มู.อ. 2/252/54)
5 เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล คำว่า ศีล ในที่นี้หมายถึงปาริสุทธิศีล 4 ประการ [คือ (1) ศีลคือการสังวรในพระ
ปาติโมกข์ (2) ศีลคือการสำรวมอินทรีย์ 6 (3) ศีลคือการพิจารณาใช้สอยปัจจัย 4 (4) ศีลคือการเลี้ยง
ชีวิตด้วยความบริสุทธิ์] (ม.มู.อ. 2/252/54)
6 เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยสมาธิ คำว่า สมาธิ ในที่นี้หมายถึงสมาบัติ 8 คือ รูปฌาน 4 และอรูปฌาน 4
อันเป็นบาทแห่งวิปัสสนา (ม.มู.อ. 2/252/54)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :274 }