เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [3. โอปัมมวรรค] 1. กกจูปมสูตร

ด้วยศรัทธาเลย เพราะฉะนั้น แม้ถ้าภิกษุบางรูปจะพึงติเตียนภิกษุณีเหล่านั้นต่อ
หน้าเธอ แม้ในข้อนั้น เธอก็ควรละฉันทะและวิตกอันอาศัยเรือน1เสีย แม้ในข้อนั้น
เธอควรสำเหนียกอย่างนี้ว่า 'จิตของเราจักไม่แปรผัน เราจักไม่เปล่งวาจาชั่วหยาบ
และจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์อยู่อย่างผู้มีเมตตาจิต ไม่มีโทสะ' ผัคคุนะ
เธอควรสำเหนียกอย่างนี้แล
เพราะฉะนั้น ถ้าใคร ๆ จะพึงทำร้ายภิกษุณีเหล่านั้นด้วยฝ่ามือ ก้อนดิน
ท่อนไม้ และศัสตราต่อหน้าเธอ แม้ในข้อนั้น เธอก็ควรละฉันทะและวิตกอันอาศัย
เรือนเสีย เธอควรสำเหนียกอย่างนี้ว่า 'จิตของเราจักไม่แปรผัน เราจักไม่เปล่ง
วาจาชั่วหยาบ และจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์อยู่อย่างผู้มีเมตตาจิต ไม่มี
โทสะ' เธอควรสำเหนียกอย่างนี้แล
เพราะฉะนั้น ถ้าใคร ๆ ติเตียนต่อหน้าเธอ แม้ในข้อนั้น เธอควรละฉันทะ
และวิตกอันอาศัยเรือนเสีย เธอควรสำเหนียกอย่างนี้ว่า 'จิตของเราจักไม่แปรผัน
เราจักไม่เปล่งวาจาชั่วหยาบ และจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์อยู่อย่างผู้มี
เมตตาจิต ไม่มีโทสะ' เธอควรสำเหนียกอย่างนี้แล
ผัคคุนะ เพราะฉะนั้น ถ้าใคร ๆ จะพึงทำร้ายเธอด้วยฝ่ามือ ก้อนดิน ท่อนไม้
และศัสตรา แม้ในข้อนั้น เธอควรละฉันทะและวิตกอันอาศัยเรือนเสีย เธอควร
สำเหนียกอย่างนี้ว่า 'จิตของเราจักไม่แปรผัน เราจักไม่เปล่งวาจาชั่วหยาบ และ
จักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์อยู่อย่างผู้มีเมตตาจิต ไม่มีโทสะ' ผัคคุนะ
เธอควรสำเหนียกอย่างนี้แล"

เชิงอรรถ :
1 อาศัยเรือน หมายถึงอาศัยกามคุณ 5 (คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ) (ม.มู.อ. 2/224/3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :235 }