พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [1. ปาฎิกสูตร]
เรื่องนักบวชเปลือยชื่อโกรักขัตติยะ
โกรักขัตติยะได้ตายด้วยโรคอลสกะ แล้วไปเกิดในหมู่อสูรชื่อกาลกัญชิกา ซึ่งต่ำต้อย
กว่าหมู่อสูรทุกประเภท และคนนำศพนั้นไปทิ้งที่ป่าช้าชื่อวีรณัตถัมภกะ
[9] ภัคควะ สุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ได้ฟังข่าวว่า นักบวชเปลือยโกรักขัตติยะ
ตายด้วยโรคอลสกะ ถูกเขานำไปทิ้งไว้ที่ป่าช้าชื่อวีรณัตถัมภกะ จึงเข้าไปหาศพนัก
บวชเปลือยโกรักขัตติยะถึงป่าช้าชื่อวีรณัตถัมภกะแล้ว ใช้มือตบศพนักบวชเปลือย
โกรักขัตติยะ 3 ครั้ง ถามว่า ท่านโกรักขัตติยะ ท่านทราบคติของท่านหรือ
ขณะนั้น ศพนักบวชเปลือยโกรักขัตติยะลุกขึ้นยืน เอามือลูบหลัง(ของเขา)แล้วตอบว่า
ท่านสุนักขัตตะ เราทราบคติของเรา เราไปเกิดในหมู่อสูรชื่อกาลกัญชิกา ซึ่งต่ำต้อย
กว่าหมู่อสูรทุกประเภท แล้วล้มลงนอนหงายอยู่ ณ ที่นั้นเอง
[10] ภัคควะ ครั้งนั้น สุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร เข้าไปหาเราถึงที่อยู่ ไหว้เรา
แล้วนั่ง ณ ที่สมควร เราได้กล่าวกับสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ดังนี้ว่า สุนักขัตตะ
เธอเข้าใจเรื่องนั้นว่าอย่างไร เราปรารภนักบวชเปลือยโกรักขัตติยะแล้วพยากรณ์แก่เธอ
ไว้อย่างไร ผลของการพยากรณ์เป็นอย่างนั้นหรือ หรือว่าเป็นอย่างอื่น
สุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ตอบว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรง
ปรารภนักบวชเปลือยโกรักขัตติยะแล้วพยากรณ์แก่ข้าพระองค์ไว้อย่างไร ผลของการ
พยากรณ์เป็นอย่างนั้น1 มิได้เป็นอย่างอื่นเลย
สุนักขัตตะ เธอเข้าใจเรื่องนั้นว่าอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนั้น เราได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์
อันเหนือธรรมดาของมนุษย์ หรือยังไม่ได้แสดง
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อัน
เหนือธรรมดาของมนุษย์แล้วแน่นอน มิใช่ไม่ได้ทรงแสดง
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [1. ปาฎิกสูตร]
เรื่องนักบวชเปลือยชื่อกฬารมัชฌกะ
โมฆบุรุษ ถึงอย่างนี้ เธอยังจะกล่าวกับเราผู้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือ
ธรรมดาของมนุษย์ว่า พระผู้มีพระภาคไม่ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดา
ของมนุษย์แก่ข้าพระองค์ อยู่อีกหรือ เธอจงดูเถิดว่า การพูดเช่นนี้เป็นความผิด
ของเธอมากเพียงไร ภัคควะ สุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร เมื่อถูกเราว่ากล่าวอย่างนี้
ได้หนีไปจากธรรมวินัยนี้แล้ว เหมือนผู้ควรเกิดในอบายกลับไปตกนรก ฉะนั้น
เรื่องนักบวชเปลือยชื่อกฬารมัชฌกะ
[11] ภัคควะ สมัยหนึ่ง เราอยู่ที่กูฏาคารศาลา ในป่ามหาวัน เขตกรุงเวสาลี
ขณะนั้น นักบวชเปลือยชื่อกฬารมัชฌกะอยู่ที่วัชชีคาม เขตกรุงเวสาลี ถึงความเป็นผู้
เลิศด้วยลาภ1และถึงความเป็นผู้เลิศด้วยยศ2 เขาถือสมาทานวัตรบท 7 ประการ คือ
1. เราพึงเป็นคนเปลือย ไม่นุ่งห่มผ้าตลอดชีวิต
2. เราพึงประพฤติพรหมจรรย์ ไม่เสพเมถุนตลอดชีวิต
3. เราพึงดำรงชีพด้วยสุราและเนื้อสัตว์ ไม่กินข้าวและขนมกุมมาส
(ขนมสด) ตลอดชีวิต
4. เราไม่พึงล่วงเกินอุเทนเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกแห่งกรุงเวสาลี
5. เราไม่พึงล่วงเกินโคตมกเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้แห่งกรุงเวสาลี
6. เราไม่พึงล่วงเกินสัตตัมพเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกแห่งกรุงเวสาลี
7. เราไม่พึงล่วงเกินพหุปุตตกเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือแห่งกรุงเวสาลี
ดังนี้
เพราะการสมาทานวัตรบทครบ 7 ประการนี้ เขาจึงถึงความเป็นผู้เลิศด้วยลาภ
และถึงความเป็นผู้เลิศด้วยยศที่วัชชีคาม