เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [4. อัคคัญญสูตร]
เรื่องสามเณรชื่อวาเสฏฐะและสามเณรชื่อภารทวาชะ

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกพราหมณ์ด่า1 บริภาษข้าพระองค์ทั้งสองด้วยคำ
เหยียดหยามอย่างสมใจ เต็มรูปแบบ2 ไม่ใช่ไม่เต็มรูปแบบ”
“ก็พวกพราหมณ์ด่าบริภาษเธอทั้งสองด้วยคำเหยียดหยามอย่างสมใจ เต็มรูปแบบ
ไม่ใช่ไม่เต็มรูปแบบอย่างไร”
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกพราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า ‘วรรณะที่ประเสริฐที่สุด
คือพราหมณ์เท่านั้น วรรณะอื่นเลว วรรณะที่ขาวคือพราหมณ์เท่านั้น วรรณะอื่นดำ
พราหมณ์เท่านั้นบริสุทธิ์ ผู้ที่ไม่ใช่พราหมณ์ไม่บริสุทธิ์ พราหมณ์เท่านั้นเป็นบุตร
เป็นโอรส เกิดจากโอษฐ์ของพระพรหม เกิดจากพระพรหม เป็นผู้ที่พระพรหม
สร้างขึ้น เป็นทายาทของพระพรหม เจ้าทั้งสองมาละวรรณะที่ประสริฐที่สุด เข้าไปอยู่
ในวรรณะที่เลวทราม คือ สมณะโล้น เป็นคนรับใช้3 เป็นคนวรรณะต่ำ (กัณหโคตร)
เป็นเผ่าของมาร เกิดจากพระบาทของพระพรหม4 เธอทั้งสองมาละวรรณะที่ประเสริฐ
ที่สุด เข้าไปอยู่ในวรรณะที่เลวทราม คือ สมณะโล้น เป็นคนรับใช้ เป็นคนวรรณะต่ำ
เป็นเผ่าของมาร เกิดจากพระบาทของพระพรหมนี้ ไม่เป็นความดี ไม่เป็นการ
สมควรเลย’ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกพราหมณ์ได้พากันด่า บริภาษข้าพระองค์
ทั้งสองด้วยถ้อยคำเหยียดหยามอย่างสมใจ เต็มรูปแบบ ไม่ใช่ไม่เต็มรูปแบบอย่างนี้”
[114] “วาเสฏฐะและภารทวาชะ พวกพราหมณ์ระลึกถึงเรื่องเก่าของตนไม่ได้5
จึงกล่าวอย่างนี้ว่า ‘วรรณะที่ประเสริฐที่สุด คือพราหมณ์เท่านั้น วรรณะอื่นเลว
วรรณะที่ขาวคือพราหมณ์เท่านั้น วรรณะอื่นดำ พราหมณ์เท่านั้นบริสุทธิ์ ผู้ที่ไม่ใช่

เชิงอรรถ :
1 ด่า ในที่นี้หมายถึงด่าด้วยอักโกสวัตถุ 10 อย่าง คือ (1) เจ้าเป็นโจร (2) เจ้าเป็นคนพาล (3) เจ้าเป็น
คนหลง (4) เจ้าเป็นอูฐ (5) เจ้าเป็นโค (6) เจ้าเป็นลา (7) เจ้าเป็นสัตว์นรก (8) เจ้าเป็นสัตว์ดิรัจฉาน
(9) เจ้าไม่ได้สุคติ (10) เจ้าหวังได้แต่ทุคติเท่านั้น (ที.ปา.อ. 113/46)
2 เต็มรูปแบบ ในที่นี้หมายถึงยกอักโกสวัตถุทั้ง 10 อย่างมาด่า (ที.ปา.อ. 113/46)
3 เป็นคนรับใช้ ในที่นี้หมายถึงคหบดีซึ่งพวกวรรณะพราหมณ์ถือว่าเป็นคนชั้นต่ำ เพราะยังถูกเครื่องผูกคือ
เรือนผูกไว้ (ที.ปา.อ. 113/47, ที.ปา.ฏีกา 113/46)
4 เป็นเผ่าของมาร เกิดจากพระบาทของพระพรหม แปลจากบาลีว่า “พนฺธุปาทาปจฺเจ” ตามนัย ที.ปา.อ.
113/47 ส่วน ที.สี.อ. 263/229 ให้ความหมายว่าเกิดจากพระบาทของพระพรหมเท่านั้น
5 ระลึกถึงเรื่องเก่าของตนไม่ได้ หมายถึงไม่รู้จักกำเนิดและความเป็นไปของโลก ที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีว่า
ด้วยต้นกำเนิดของโลกอันมีมาแต่โบราณ (ที.ปา.อ. 114/47)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :84 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [4. อัคคัญญสูตร] ความบริสุทธิ์แห่งวรรณะ 4

พราหมณ์ไม่บริสุทธิ์ พราหมณ์เท่านั้นเป็นบุตร เป็นโอรส เกิดจากโอษฐ์ของพระ-
พรหม เกิดจากพระพรหม เป็นผู้ที่พระพรหมสร้างขึ้น เป็นทายาทของพระพรหม’
วาเสฏฐะและภารทวาชะ ก็ปรากฏชัดอยู่ว่า นางพราหมณีของพราหมณ์ทั้งหลาย
มีระดูบ้าง มีครรภ์บ้าง คลอดอยู่บ้าง ให้ลูกดื่มนมบ้าง ก็พราหมณ์เหล่านั้นเป็น
ผู้เกิดทางช่องคลอดของนางพราหมณีทั้งนั้น ยังกล่าวอย่างนี้ว่า ‘วรรณะที่ประเสริฐ
ที่สุด คือพราหมณ์เท่านั้น ฯลฯ เป็นทายาทของพระพรหม’ ก็พราหมณ์เหล่านั้น
กล่าวตู่พรหมและพูดเท็จ พวกเขาจะต้องประสบสิ่งที่ไม่ใช่บุญเป็นอันมาก

ความบริสุทธิ์แห่งวรรณะ 4

[115] วาเสฏฐะและภารทวาชะ วรรณะ 4 เหล่านี้ คือ (1) กษัตริย์
(2) พราหมณ์ (3) แพศย์ (4) ศูทร
1. แม้กษัตริย์บางพระองค์ในโลกนี้เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของ
เขาไม่ได้ให้ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ
พูดเพ้อเจ้อ เพ่งเล็งอยากได้ของของเขา มีจิตพยาบาท เห็นผิด
ด้วยประการดังกล่าวมานี้ ธรรมเหล่าใดเป็นอกุศล นับว่าเป็น
อกุศล มีโทษ นับว่ามีโทษ ไม่ควรประพฤติ นับว่าไม่ควรประพฤติ
ไม่สามารถเป็นอริยธรรม นับว่าไม่สามารถเป็นอริยธรรม เป็น
ธรรมดำ1 มีวิบากดำ2 ที่วิญญูชนติเตียน ธรรมเหล่านั้นปรากฏ
อย่างชัดเจนในกษัตริย์บางพระองค์ในโลกนี้
2. แม้พราหมณ์ ...
3. แม้แพศย์ ...
4. แม้ศูทรบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้
ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
เพ่งเล็งอยากได้ของของเขา มีจิตพยาบาท เห็นผิด ด้วยประการ

เชิงอรรถ :
1 ธรรมดำ ในที่นี้หมายถึงธรรมที่ไม่บริสุทธิ์มาแต่เดิม (ที.ปา.ฏีกา 115/47)
2 มีวิบากดำ ในที่นี้หมายถึงมีผลเป็นทุกข์ (ที.ปา.อ. 115/48)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :85 }