พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 7
2. มีสัตว์ทั้งหลายมีกายต่างกัน แต่มีสัญญาอย่างเดียวกัน คือพวกเทพ
ชั้นพรหมกายิกา1 (เทพผู้นับเนื่องในหมู่พรหม) นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ 2
3. มีสัตว์ทั้งหลายผู้มีกายอย่างเดียวกัน แต่มีสัญญาต่างกัน คือ พวก
เทพชั้นอาภัสสระ นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ 3
4. มีสัตว์ทั้งหลายผู้มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน คือ พวก
เทพชั้นสุภกิณหะ (เทพผู้เต็มไปด้วยความงดงาม) นี้เป็นวิญญาณฐิติ ที่ 4
5. มีสัตว์ทั้งหลายบรรลุอากาสานัญจายตนฌาน2โดยกำหนดว่า อากาศ
หาที่สุดมิได้ เพราะล่วงรูปสัญญา ดับปฏิฆสัญญา ไม่กำหนดนานัตต-
สัญญาโดยประการทั้งปวง นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ 5
6. มีสัตว์ทั้งหลายล่วงอากาสานัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวง
บรรลุวิญญาณัญจายตนฌาน3โดยกำหนดว่า วิญญาณหาที่สุดมิได้
นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ 6
7. มีสัตว์ทั้งหลายล่วงวิญญาณัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวง บรรลุ
อากิญจัญญายตนฌาน4โดยกำหนดว่า ไม่มีอะไร นี้เป็นวิญญาณฐิติ
ที่ 7
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 7
11
ทักขิเณยยบุคคล (บุคคลผู้ควรแก่ทักษิณา) 7
1. อุภโตภาควิมุต1 (ผู้หลุดพ้นทั้ง 2 ส่วน)
2. ปัญญาวิมุต2 (ผู้หลุดพ้นด้วยปัญญา)
3. กายสักขี3 (ผู้เป็นพยานในนามกายด้วยกาย)
4. ทิฏฐิปัตตะ4 (ผู้บรรลุสัมมาทิฏฐิ)
5. สัทธาวิมุต5 (ผู้หลุดพ้นด้วยศรัทธา)
6. ธัมมานุสารี6 (ผู้แล่นไปตามธรรม)
7. สัทธานุสารี7 (ผู้แล่นไปตามศรัทธา)
12
อนุสัย8 (กิเลสที่นอนเนื่องในสันดาน) 7
1. กามราคานุสัย (อนุสัยคือความกำหนัดในกาม)
2. ปฏิฆานุสัย (อนุสัยคือความยินร้าย)
3. ทิฏฐานุสัย (อนุสัยคือความเห็นผิด)
4. วิจิกิจฉานุสัย (อนุสัยคือความลังเลสงสัย)
5. มานานุสัย (อนุสัยคือความถือตัว)
6. ภวราคานุสัย (อนุสัยคือความติดใจในภพ)
7. อวิชชานุสัย (อนุสัยคือความไม่รู้แจ้ง)