พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 5
4
คติ1(ภพที่สัตว์ไปเกิด) 5
1. นิรยะ (นรก)
2. ติรัจฉานโยนิ (กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน)
3. เปตติวิสัย (แดนเปรต)
4. มนุสสะ (มนุษย์)
5. เทวะ (เทวดา)
5
มัจฉริยะ2(ความตระหนี่) 5
1. อาวาสมัจฉริยะ (ความตระหนี่อาวาส)
2. กุลมัจฉริยะ (ความตระหนี่ตระกูล)
3. ลาภมัจฉริยะ (ความตระหนี่ลาภ)
4. วัณณมัจฉริยะ (ความตระหนี่วรรณะ)
5. ธัมมมัจฉริยะ (ความตระหนี่ธรรม)
6
นิวรณ์3(สิ่งที่ขัดขวางจิตไม่ให้บรรลุความดี) 5
1. กามฉันทนิวรณ์ (นิวรณ์คือความพอใจในกาม)
2. พยาบาทนิวรณ์ (นิวรณ์คือความคิดร้าย)
3. ถีนมิทธนิวรณ์ (นิวรณ์คือความหดหู่และเซื่องซึม)
4. อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์ (นิวรณ์คือความฟุ้งซ่านและร้อนใจ)
5. วิจิกิจฉานิวรณ์ (นิวรณ์คือความลังเลสงสัย)
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 5
7
โอรัมภาคิยสังโยชน์1(ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์เบื้องต่ำ) 5
1. สักกายทิฏฐิ (ความเห็นว่าเป็นตัวของตน)
2. วิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัย)
3. สีลัพพตปรามาส (ความถือมั่นศีลพรต)
4. กามฉันทะ (ความกำหนัดในกามคุณ)
5. พยาบาท (ความคิดร้าย)
8
อุทธัมภาคิยสังโยชน์2(ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์เบื้องสูง) 5
1. รูปราคะ (ความติดใจในอารมณ์แห่งรูปฌาน)
2. อรูปราคะ (ความติดใจในอารมณ์แห่งอรูปฌาน)
3. มานะ (ความถือตัว)
4. อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน)
5. อวิชชา (ความไม่รู้แจ้ง)
9
สิกขาบท3 5
1. ปาณาติปาตา เวรมณี (เจตนางดเว้นจากการฆ่าสัตว์)
2. อทินนาทานา เวรมณี (เจตนางดเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่
เจ้าของเขามิได้ให้)