เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 4

42
อริยโวหาร(วิธีการพูดของผู้เป็นอริยะ) 4

1. มุสาวาทา เวรมณี (เจตนางดเว้นจากการพูดเท็จ)
2. ปิสุณาย วาจาย เวรมณี (เจตนางดเว้นจากการพูดส่อเสียด)
3. ผรุสาย วาจาย เวรมณี (เจตนางดเว้นจากการพูดคำหยาบ)
4. สัมผัปปลาปา เวรมณี (เจตนางดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ)

43
อนริยโวหาร1 4 อีกนัยหนึ่ง

1. การกล่าวสิ่งที่ไม่ได้เห็นว่าได้เห็น
2. การกล่าวสิ่งที่ไม่ได้ฟังว่าได้ฟัง
3. การกล่าวสิ่งที่ไม่ได้ทราบว่าได้ทราบ
4. การกล่าวสิ่งที่ไม่ได้รู้ว่าได้รู้

44
อริยโวหาร2 4 อีกนัยหนึ่ง

1. การกล่าวสิ่งที่ไม่ได้เห็นว่าไม่ได้เห็น
2. การกล่าวสิ่งที่ไม่ได้ฟังว่าไม่ได้ฟัง
3. การกล่าวสิ่งที่ไม่ได้ทราบว่าไม่ได้ทราบ
4. การกล่าวสิ่งที่ไม่ได้รู้ว่าไม่ได้รู้

เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ องฺ.จตุกฺก. (แปล) 21/250/368
2 ดูเทียบ องฺ.จตุกฺก. (แปล) 21/251/369

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :296 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [10. สังคีติสูตร] สังคีติหมวด 4

45
อนริยโวหาร1 4 อีกนัยหนึ่ง
1. การกล่าวสิ่งที่ได้เห็นว่าไม่ได้เห็น
2. การกล่าวสิ่งที่ได้ฟังว่าไม่ได้ฟัง
3. การกล่าวสิ่งที่ได้ทราบว่าไม่ได้ทราบ
4. การกล่าวสิ่งที่ได้รู้ว่าไม่ได้รู้

46
อริยโวหาร2 4 อีกนัยหนึ่ง
1. การกล่าวสิ่งที่ได้เห็นว่าได้เห็น
2. การกล่าวสิ่งที่ได้ฟังว่าได้ฟัง
3. การกล่าวสิ่งที่ได้ทราบว่าได้ทราบ
4. การกล่าวสิ่งที่ได้รู้ว่าได้รู้

47
[314] บุคคล3 4
1. เป็นผู้ทำตนให้เดือดร้อน หมั่นประกอบในการทำตนให้เดือดร้อน
2. เป็นผู้ทำผู้อื่นให้เดือดร้อน หมั่นประกอบในการทำผู้อื่นให้เดือดร้อน
3. เป็นผู้ทำตนให้เดือดร้อน หมั่นประกอบในการทำตนให้เดือดร้อน
และเป็นผู้ทำผู้อื่นให้เดือดร้อน หมั่นประกอบในการทำผู้อื่นให้เดือดร้อน
4. เป็นผู้ไม่ทำตนให้เดือดร้อน ไม่หมั่นประกอบในการทำตนให้เดือดร้อน
และเป็นผู้ไม่ทำผู้อื่นให้เดือดร้อน ไม่หมั่นประกอบในการทำผู้อื่นให้
เดือดร้อน เขาผู้ไม่ทำตนให้เดือดร้อน ไม่ทำผู้อื่นให้เดือดร้อน เป็นผู้
ไม่หิว ดับร้อน เย็นใจ เสวยสุขมีตนอันประเสริฐอยู่ในปัจจุบันเทียว

เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ องฺ.จตุกฺก. (แปล) 21/252/369
2 ดูเทียบ องฺ.จตุกฺก. (แปล) 21/253/370
3 ดูเทียบ องฺ.จตุกฺก. (แปล) 21/198/303, อภิ.ปุ. (แปล) 36/174-177/206-209

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :297 }