เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [1. ปาฎิกสูตร] เรื่องอิทธิปาฎิหาริย์

ต่าง ๆ ผู้มีชื่อเสียง ได้พูดกันว่า ‘ท่านผู้เจริญ ทราบข่าวว่า จักมีการแสดงอิทธิปาฏิหาริย์
อันเหนือธรรมดาของมนุษย์ ของพวกสมณะชั้นดี ฉะนั้น ขอให้พวกเราไป(ดู)กันเถิด’
ภัคควะ ครั้งนั้น พวกเจ้าลิจฉวีผู้มีชื่อเสียง พราหมณมหาศาล คหบดีผู้
มั่งคั่ง และสมณพราหมณ์ลัทธิต่าง ๆ ผู้มีชื่อเสียง ต่างพากันไปยังอารามของนักบวช
เปลือยปาฏิกบุตร บริษัทนั้น ๆ เป็นเรือนร้อย เรือนพัน
[21] ภัคควะ นักบวชเปลือยปาฏิกบุตรได้ฟังข่าวว่า ‘พวกเจ้าลิจฉวีผู้มี
ชื่อเสียง พราหมณมหาศาล คหบดีผู้มั่งคั่ง และสมณพราหมณ์ลัทธิต่าง ๆ ผู้มี
ชื่อเสียง ต่างพากันออกมาแล้ว แม้พระสมณโคดมก็ประทับพักกลางวันอยู่ที่อาราม
ของเรา’ จึงเกิดความกลัว ความสะดุ้ง ขนพองสยองเกล้า ครั้งนั้น นักบวชเปลือย
ปาฏิกบุตร กลัว ตัวสั่น ขนพองสยองเกล้า หนีไปยังอารามของตินทุกขาณุปริพาชก
บริษัทนั้นได้ฟังข่าวว่า ‘นักบวชเปลือยปาฏิกบุตร กลัว ตัวสั่น ขนพอง
สยองเกล้า หนีเข้าไปยังอารามของตินทุกขาณุปริพาชก’
ทันใดนั้น บริษัทนั้นได้เรียกบุรุษคนหนึ่งมาสั่งว่า ‘พ่อคุณ เธอจงเข้าไปหานัก
บวชเปลือยปาฏิกบุตรที่อารามของตินทุกขาณุปริพาชก แล้วจงบอกกับนักบวช
เปลือยปาฏิกบุตรอย่างนี้ว่า ‘ท่านปาฏิกบุตร ท่านจงกลับไปเถิด พวกเจ้าลิจฉวีผู้มีชื่อเสียง
พราหมณมหาศาล คหบดีผู้มั่งคั่ง และสมณพราหมณ์ลัทธิต่าง ๆ ผู้มีชื่อเสียง
ต่างพากันออกมาแล้ว แม้พระสมณโคดมก็ประทับพักกลางวันอยู่ที่อารามของท่าน
อนึ่ง ท่านได้พูดอวดไว้ในบริษัท ในกรุงเวสาลีอย่างนี้ว่า ‘พระสมณโคดมเป็น
ญาณวาท เราก็เป็นญาณวาทด้วย ผู้เป็นญาณวาทควรแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือ
ธรรมดาของมนุษย์กับผู้เป็นญาณวาทด้วยกัน ขอให้พระสมณโคดมเสด็จมาครึ่งทาง
แม้เราก็จะไปครึ่งทาง ณ ที่พบกันนั้น เราทั้งสองจะแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือ
ธรรมดาของมนุษย์ด้วยกัน ถ้าพระสมณโคดมจักทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือ
ธรรมดาของมนุษย์ 1 อย่าง เราจักแสดง 2 อย่าง ถ้าพระสมณโคดมจักทรงแสดง
อิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดาของมนุษย์ 2 อย่าง เราจักแสดง 4 อย่าง ถ้าพระ
สมณโคดมจักทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดาของมนุษย์ 4 อย่าง เราจัก
แสดง 8 อย่าง พระสมณโคดมจักทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดาของ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :17 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [1. ปาฎิกสูตร] เรื่องอิทธิปาฎิหาริย์

มนุษย์มากเท่าใด ๆ ก็ตาม เราจักแสดงให้มากกว่านั้นเป็นทวีคูณ’ ท่านปาฏิกบุตร
ท่านจงออกไปครึ่งทาง พระสมณโคดมเสด็จมาก่อนคนทั้งปวงทีเดียว ประทับพัก
กลางวันอยู่ที่อารามของท่าน’
[22] ‘ภัคควะ บุรุษนั้นรับคำสั่งแล้ว จึงเข้าไปหานักบวชเปลือยปาฏิกบุตร
ที่อารามของตินทุกขาณุปริพาชก แล้วบอกกับนักบวชเปลือยปาฏิกบุตรดังนี้ว่า
‘ท่านปาฏิกบุตร ท่านจงกลับไปเถิด พวกเจ้าลิจฉวีผู้มีชื่อเสียง พราหมณมหาศาล
คหบดีผู้มั่งคั่ง และสมณพราหมณ์ลัทธิต่าง ๆ ผู้มีชื่อเสียง ต่างพากันออกมาแล้ว
แม้พระสมณโคดมก็ประทับพักกลางวันอยู่ที่อารามของท่าน อนึ่ง ท่านได้พูดอวดไว้
ในบริษัท ในกรุงเวสาลีอย่างนี้ว่า ‘พระสมณโคดมเป็นญาณวาท เราก็เป็นญาณวาท
ด้วย อนึ่ง ผู้เป็นญาณวาทควรแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดาของมนุษย์กับผู้
เป็นญาณวาทด้วยกัน ฯลฯ เราจักแสดงให้มากกว่านั้นเป็นทวีคูณ’ ท่านปาฏิกบุตร
ท่านจงออกไปครึ่งทาง พระสมณโคดมเสด็จมาก่อนคนทั้งปวงทีเดียว ประทับพัก
กลางวันอยู่ที่อารามของท่าน’
ภัคควะ เมื่อบุรุษนั้นกล่าวอย่างนี้ นักบวชเปลือยปาฏิกบุตร จึงกล่าวตอบว่า
‘เราจะไป ๆ’ แล้วซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจากที่นั่งได้ ครั้งนั้น บุรุษนั้น
ได้กล่าวกับนักบวชเปลือยปาฏิกบุตรดังนี้ว่า ‘ท่านปาฏิกบุตร ท่านเป็นอะไรเล่า
ตะโพกของท่านติดกับตั่งหรือ หรือว่าตั่งติดกับตะโพกของท่าน ท่านกล่าวว่า ‘เรา
จะไป ๆ’ แต่กลับซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจากที่นั่งได้’ ภัคควะ นักบวช
เปลือยปาฏิกบุตร แม้ถูกบุรุษต่อว่าอยู่อย่างนี้ ก็ยังกล่าวว่า ‘เราจะไป ๆ’ แล้วก็
ซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจากที่นั่งได้
[23] ภัคควะ เมื่อบุรุษนั้นได้ทราบว่า ‘นักบวชเปลือยปาฏิกบุตรนี้แพ้แล้ว
ก็ยังกล่าวว่า ‘เราจะไป ๆ’ แล้วก็ซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจากที่นั่งได้’
จึงกลับมาหาบริษัทนั้นแล้วบอกอย่างนี้ว่า ‘ท่านผู้เจริญ นักบวชเปลือยปาฏิกบุตรนี้
แพ้แล้ว ก็ยังกล่าวว่า ‘เราจะไป ๆ’ แล้วก็ซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจาก
ที่นั่งได้’

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :18 }