เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [6. ปาสาทิกสูตร] เรื่องที่ไม่ทรงพยากรณ์

พยากรณ์ไว้แม้อย่างนี้ว่า ‘หลังจากตายแล้ว ตถาคตไม่เกิดอีก นี้เท่านั้นจริง
อย่างอื่นไม่จริง’
เป็นไปได้ที่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ‘หลังจากตายแล้ว
ตถาคตเกิดอีกและไม่เกิดอีก นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นไม่จริง กระนั้นหรือ’ เธอทั้งหลาย
พึงกล่าวอย่างนี้กับอัญเดียรถีย์ปริพาชกผู้มีวาทะอย่างนั้นว่า ‘พระผู้มีพระภาคมิได้
ทรงพยากรณ์ไว้แม้อย่างนี้ว่า ‘หลังจากตายแล้ว ตถาคตเกิดอีกและไม่เกิดอีก นี้
เท่านั้นจริง อย่างอื่นไม่จริง’
เป็นไปได้ที่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ‘หลังจากตายแล้ว
ตถาคตจะว่าเกิดอีกก็มิใช่ จะว่าไม่เกิดอีกก็มิใช่ นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นไม่จริง กระนั้น
หรือ’ เธอทั้งหลายพึงกล่าวอย่างนี้กับอัญเดียรถีย์ปริพาชกผู้มีวาทะอย่างนั้นว่า
‘พระผู้มีพระภาคมิได้ทรงพยากรณ์ไว้แม้อย่างนี้ว่า ‘หลังจากตายแล้ว ตถาคตจะว่า
เกิดอีกก็มิใช่ จะว่าไม่เกิดอีกก็มิใช่ นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นไม่จริง’
เป็นไปได้ที่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ‘เพราะเหตุไร พระ
สมณโคดมจึงไม่ทรงพยากรณ์เรื่องนั้น’ เธอทั้งหลายพึงกล่าวอย่างนี้กับอัญเดียรถีย์
ปริพาชกผู้มีวาทะอย่างนั้นว่า ‘เพราะเรื่องนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์1 ไม่ประกอบ
ด้วยธรรม2 ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของพรหมจรรย์3 ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ไม่เป็น

เชิงอรรถ :
1 ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ในที่นี้หมายถึงไม่ประกอบด้วยประโยชน์ 2 อย่าง คือ (1) ทิฏฐธัมมิกัตถะ
(ประโยชน์ในโลกนี้) (2) สัมปรายิกัตถะ(ประโยชน์ในโลกหน้า) (ที.ปา.อ. 189/105)
2 ไม่ประกอบด้วยธรรม ในที่นี้หมายถึงไม่ประกอบด้วยโลกุตตรธรรม 9 (ที.ปา.อ. 189/105)
3 ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของพรหมจรรย์ คือ ไม่ใช่เบื้องต้นแห่งศาสนพรหมจรรย์ทั้งสิ้นที่รวบรวมไตรสิกขา
(ที.ปา.อ. 189/105)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :148 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [6. ปาสาทิกสูตร]
ทิฎฐินิสัยที่สหรคตด้วยขันธ์ส่วนอดีต

ไปเพื่อคลายกำหนัด ไม่เป็นไปเพื่อดับ ไม่เป็นไปเพื่อสงบระงับ ไม่เป็นไปเพื่อรู้ยิ่ง
ไม่เป็นไปเพื่อตรัสรู้ ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคจึงมิได้ทรง
พยากรณ์เรื่องนั้นไว้

เรื่องที่ทรงพยากรณ์

[190] จุนทะ เป็นไปได้ที่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชก พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ก็พระ
สมณโคดมทรงพยากรณ์เรื่องอะไรเล่า’ เธอทั้งหลายพึงกล่าวอย่างนี้กับอัญเดียรถีย์
ปริพาชกผู้มีวาทะอย่างนั้นว่า ‘พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ว่า ‘นี้ทุกข์’ พระผู้มี
พระภาคทรงพยากรณ์ว่า ‘นี้ทุกขสมุทัย’ พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ว่า ‘นี้ทุกขนิโรธ’
พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์ว่า ‘นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา’
เป็นไปได้ที่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ‘เพราะเหตุไร พระ
สมณโคดมจึงทรงพยากรณ์เรื่องนั้นไว้’ เธอทั้งหลายพึงกล่าวอย่างนี้กับพวกอัญเดียรถีย์
ปริพาชกผู้มีวาทะอย่างนั้นว่า ‘เพราะเรื่องนั้นประกอบด้วยประโยชน์ ประกอบด้วย
ธรรม เป็นจุดเริ่มต้นของพรหมจรรย์ เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด
เพื่อดับ เพื่อสงบระงับ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน ฉะนั้น พระผู้มีพระภาค
จึงทรงพยากรณ์เรื่องนั้นไว้’

ทิฏฐินิสัยที่สหรคตด้วยขันธ์ส่วนอดีต

[191] จุนทะ เราได้พยากรณ์ทิฏฐินิสัยที่สหรคตด้วยขันธ์ส่วนอดีต1แก่เธอ
ทั้งหลาย ทั้งที่ควรพยากรณ์และไม่ควรพยากรณ์ ในเรื่องนั้นยังมีอะไรอีกเล่าที่เรา
ไม่ได้พยากรณ์แก่เธอทั้งหลาย เราได้พยากรณ์ทิฏฐินิสัยที่สหรคตด้วยขันธ์ส่วนอนาคต
แก่เธอทั้งหลาย ทั้งที่ควรพยากรณ์และไม่ควรพยากรณ์ ในเรื่องนั้นยังมีอะไรอีกเล่า
ที่เราไม่ได้พยากรณ์แก่เธอทั้งหลาย

เชิงอรรถ :
1 ทิฏฐินิสัยที่สหรคตด้วยขันธ์ส่วนอดีต ได้แก่ ปุพพันตกัปปิกทิฏฐิ 18 ดูเทียบ ที.สี. (แปล) 9/28-73/
11-30

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :149 }