เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [6. ปาสาทิกสูตร] สุขัลลิกานุโยค

4. คนพาลบางคนในโลกนี้ เอิบอิ่ม พรั่งพร้อม ได้รับการบำเรออยู่ด้วย
กามคุณ 5 ประการ นี้เป็นสุขัลลิกานุโยคประการที่ 4
จุนทะ สุขัลลิกานุโยค 4 ประการนี้ เป็นธรรมต่ำทราม เป็นของชาวบ้าน
เป็นของปุถุชน มิใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นไปเพื่อความ
เบื่อหน่าย ไม่เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด ไม่เป็นไปเพื่อดับ ไม่เป็นไปเพื่อสงบระงับ
ไม่เป็นไปเพื่อรู้ยิ่ง ไม่เป็นไปเพื่อตรัสรู้ ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน
จุนทะ เป็นไปได้ที่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชก พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ‘พวกสมณะ
ศากยบุตร ยึดถือสุขัลลิกานุโยค 4 ประการนี้อยู่’ เธอทั้งหลายพึงกล่าวกับอัญเดียรถีย์
ปริพาชกเหล่านั้นว่า ‘พวกท่านอย่ากล่าวอย่างนี้เลย’ อัญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น
เมื่อกล่าวถึงเธอทั้งหลาย ก็ไม่กล่าวให้ถูกต้อง กลับกล่าวตู่ด้วยคำที่ไม่มีจริง ไม่เป็นจริง
[184] จุนทะ สุขัลลิกานุโยค 4 ประการนี้ เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายโดย
ส่วนเดียว เพื่อคลายกำหนัด เพื่อดับ เพื่อสงบระงับ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อ
นิพพาน
สุขัลลิกานุโยค 4 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ภิกษุในธรรมวินัยนี้สงัดแล้วจากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย บรรลุ
ปฐมฌานที่มีวิตก วิจาร ปีติ และสุขอันเกิดจากวิเวกอยู่ นี้เป็น
สุขัลลิกานุโยคประการที่ 1
2. เพราะวิตกวิจารสงบระงับไป ภิกษุบรรลุทุติยฌาน ฯลฯ อยู่ นี้เป็น
สุขัลลิกานุโยคประการที่ 2
3. เพราะปีติจางคลายไป ภิกษุมีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุข
ด้วยนามกาย บรรลุตติยฌาน ฯลฯ อยู่ นี้เป็นสุขัลลิกานุโยค
ประการที่ 3
4. เพราะละสุขและทุกข์ได้ เพราะโสมนัสและโทมนัสดับไปก่อนแล้ว ภิกษุ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ อยู่ นี้เป็นสุขัลลิกานุโยคประการที่ 4
สุขัลลิกานุโยค 4 ประการนี้ เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่ายโดยส่วนเดียว เพื่อคลาย
กำหนัด เพื่อดับ เพื่อสงบระงับ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพาน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :142 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [6. ปาสาทิกสูตร]
ว่าด้วยอานิสงส์ของสุขัลลิกานุโยค

จุนทะ เป็นไปได้ที่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชก พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ‘พวก
สมณะ ศากยบุตร ยึดถือสุขัลลิกานุโยค 4 ประการนี้อยู่’ เธอทั้งหลายพึงกล่าวกับ
อัญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นว่า ‘ท่านทั้งหลายพึงกล่าวอย่างนี้’ อัญเดียรถีย์ปริพาชก
เหล่านั้น เมื่อกล่าวถึงเธอทั้งหลายก็กล่าวได้ถูกต้อง มิใช่กล่าวตู่เธอทั้งหลาย
ด้วยคำที่ไม่มีจริง ไม่เป็นจริง

ว่าด้วยอานิสงส์ของสุขัลลิกานุโยค

[185] จุนทะ เป็นไปได้ที่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชก พึงกล่าวอย่างนี้ว่า
‘ก็ท่านทั้งหลายยึดถือสุขัลลิกานุโยค 4 ประการนี้อยู่ พึงหวังผลได้เท่าไหร่ พึงหวัง
อานิสงส์ได้เท่าไหร่’ เธอทั้งหลายควรกล่าวอย่างนี้กับอัญเดียรถีย์ปริพาชกผู้มีวาทะ
อย่างนั้นว่า ‘พวกเรายึดถือสุขัลลิกานุโยค 4 ประการนี้อยู่ พึงหวังได้ผล 4 ประการ
พึงหวังได้อานิสงส์ 4 ประการ
ผล 4 ประการ อานิสงส์ 4 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นพระโสดาบัน เพราะสังโยชน์ 3 ประการ
สิ้นไป ไม่มีทางตกต่ำ มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิในวันข้างหน้า
นี้เป็นผลประการที่ 1 อานิสงส์ประการที่ 1
2. ภิกษุเป็นพระสกทาคามี เพราะสังโยชน์ 3 ประการสิ้นไป และเพราะ
ราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง มาสู่โลกนี้อีกเพียงครั้งเดียว ก็จะทำที่สุด
แห่งทุกข์ได้ นี้เป็นผลประการที่ 2 อานิสงส์ประการที่ 2
3. ภิกษุเป็นโอปปาติกะ เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ประการสิ้นไป ปรินิพพาน
ในโลกนั้น ไม่หวนกลับมาจากโลกนั้นอีก นี้เป็นผลประการที่ 3 อานิสงส์
ประการที่ 3
4. ภิกษุทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติอันไม่มีอาสวะ เพราะอาสวะ
สิ้นไปด้วยปัญญาอันยิ่งเองเข้าถึงอยู่ในปัจจุบัน นี้เป็นผลประการที่ 4
อานิสงส์ประการที่ 4
ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย พวกเรายึดถือสุขัลลิกานุโยค 4 ประการนี้อยู่ พึงหวัง
ได้ผล 4 ประการ พึงหวังได้อานิสงส์ 4 ประการนี้แล’

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :143 }