เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [1. ปาฎิกสูตร]
เรื่องนักบวชเปลือยชื่อกฬารมัชฌกะ

‘โมฆบุรุษ ถึงอย่างนี้ เธอยังจะกล่าวกับเราผู้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือ
ธรรมดาของมนุษย์ว่า ‘พระผู้มีพระภาคไม่ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดา
ของมนุษย์แก่ข้าพระองค์’ อยู่อีกหรือ เธอจงดูเถิดว่า ‘การพูดเช่นนี้เป็นความผิด
ของเธอมากเพียงไร’ ภัคควะ สุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร เมื่อถูกเราว่ากล่าวอย่างนี้
ได้หนีไปจากธรรมวินัยนี้แล้ว เหมือนผู้ควรเกิดในอบายกลับไปตกนรก ฉะนั้น

เรื่องนักบวชเปลือยชื่อกฬารมัชฌกะ

[11] ภัคควะ สมัยหนึ่ง เราอยู่ที่กูฏาคารศาลา ในป่ามหาวัน เขตกรุงเวสาลี
ขณะนั้น นักบวชเปลือยชื่อกฬารมัชฌกะอยู่ที่วัชชีคาม เขตกรุงเวสาลี ถึงความเป็นผู้
เลิศด้วยลาภ1และถึงความเป็นผู้เลิศด้วยยศ2 เขาถือสมาทานวัตรบท 7 ประการ คือ
1. เราพึงเป็นคนเปลือย ไม่นุ่งห่มผ้าตลอดชีวิต
2. เราพึงประพฤติพรหมจรรย์ ไม่เสพเมถุนตลอดชีวิต
3. เราพึงดำรงชีพด้วยสุราและเนื้อสัตว์ ไม่กินข้าวและขนมกุมมาส
(ขนมสด) ตลอดชีวิต
4. เราไม่พึงล่วงเกินอุเทนเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกแห่งกรุงเวสาลี
5. เราไม่พึงล่วงเกินโคตมกเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้แห่งกรุงเวสาลี
6. เราไม่พึงล่วงเกินสัตตัมพเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกแห่งกรุงเวสาลี
7. เราไม่พึงล่วงเกินพหุปุตตกเจดีย์ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือแห่งกรุงเวสาลี
ดังนี้
เพราะการสมาทานวัตรบทครบ 7 ประการนี้ เขาจึงถึงความเป็นผู้เลิศด้วยลาภ
และถึงความเป็นผู้เลิศด้วยยศที่วัชชีคาม

เชิงอรรถ :
1 ถึงความเป็นผู้เลิศด้วยลาภ หมายถึงได้รับการนับถือว่าเป็นสมณะชั้นดี จึงได้รับของถวายแต่ที่ดี ๆ (ที.ปา.
ฏีกา 11/7)
2 ถึงความเป็นผู้เลิศด้วยยศ หมายถึงมีนักบวชเปลือยจำนวนมากห้อมล้อมและมีคฤหัสถ์ผู้มั่งคั่งมาเยี่ยมเยือน
อยู่เป็นประจำ (ที.ปา.ฏีกา 11/7)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 11 หน้า :10 }