เมนู

12. เทวทตฺตวตฺถุ

อิธ ตปฺปตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ

เทวทตฺตสฺส วตฺถุ ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺฐาย ยาว ปถวิปฺปเวสนา เทวทตฺตํ อารพฺภ ภาสิตานิ สพฺพานิ ชาตกานิ วิตฺถาเรตฺวา กถิตํฯ อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – สตฺถริ อนุปิยํ นาม มลฺลานํ นิคโม อตฺถิฯ ตํ นิสฺสาย อนุปิยมฺพวเน วิหรนฺเตเยว ตถาคตสฺส ลกฺขณปฏิคฺคหณทิวเสเยว อสีติสหสฺเสหิ ญาติกุเลหิ ‘‘ราชา วา โหตุ, พุทฺโธ วา, ขตฺติยปริวาโรว วิจริสฺสตี’’ติ อสีติสหสฺสปุตฺตา ปฏิญฺญาตาฯ เตสุ เยภุยฺเยน ปพฺพชิเตสุ ภทฺทิยํ นาม ราชานํ, อนุรุทฺธํ, อานนฺทํ, ภคุํ, กิมิลํ, เทวทตฺตนฺติ อิเม ฉ สกฺเย อปพฺพชนฺเต ทิสฺวา, ‘‘มยํ อตฺตโน ปุตฺเต ปพฺพาเชม, อิเม ฉ สกฺยา น ญาตกา มญฺเญ, กสฺมา น ปพฺพชนฺตี’’ติ? กถํ สมุฏฺฐาเปสุํฯ อถ โข มหานาโม สกฺโย อนุรุทฺธํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ตาต, อมฺหากํ กุลา ปพฺพชิโต นตฺถิ, ตฺวํ วา ปพฺพช, อหํ วา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาหฯ โส ปน สุขุมาโล โหติ สมฺปนฺนโภโค, ‘‘นตฺถี’’ติ วจนมฺปิ เตน น สุตปุพฺพํฯ เอกทิวสญฺหิ เตสุ ฉสุ ขตฺติเยสุ คุฬกีฬํ กีฬนฺเตสุ อนุรุทฺโธ ปูเวน ปราชิโต ปูวตฺถาย ปหิณิ, อถสฺส มาตา ปูเว สชฺเชตฺวา ปหิณิ ฯ เต ขาทิตฺวา ปุน กีฬิํสุฯ ปุนปฺปุนํ ตสฺเสว ปราชโย โหติฯ มาตา ปนสฺส ปหิเต ปหิเต ติกฺขตฺตุํ ปูเว ปหิณิตฺวา จตุตฺถวาเร ‘‘ปูวา นตฺถี’’ติ ปหิณิฯ โส ‘‘นตฺถี’’ติ วจนสฺส อสุกปุพฺพตฺตา ‘‘เอสาเปกา ปูววิกติ ภวิสฺสตี’’ติ มญฺญมาโน ‘‘นตฺถิปูวํ เม อาหรถา’’ติ เปเสสิฯ มาตา ปนสฺส ‘‘นตฺถิปูวํ กิร, อยฺเย, เทถา’’ติ วุตฺเต, ‘‘มม ปุตฺเตน ‘นตฺถี’ติ ปทํ น สุตปุพฺพํ, อิมินา ปน อุปาเยน นํ เอตมตฺถํ ชานาเปสฺสามี’’ติ ตุจฺฉํ สุวณฺณปาติํ อญฺญาย สุวณฺณปาติยา ปฏิกุชฺชิตฺวา เปเสสิฯ นครปริคฺคาหิกา เทวตา จินฺเตสุํ – ‘‘อนุรุทฺธสกฺเยน อนฺนภารกาเล อตฺตโน ภาคภตฺตํ อุปริฏฺฐปจฺเจกพุทฺธสฺส ทตฺวา ‘‘‘นตฺถี’ติ เม วจนสฺส สวนํ มา โหตุ, โภชนุปฺปตฺติฏฺฐานชานนํ มา ‘โหตู’ติ ปตฺถนา กตา, สจายํ ตุจฺฉปาติํ ปสฺสิสฺสติ, เทวสมาคมํ ปวิสิตุํ น ลภิสฺสาม, สีสมฺปิ โน สตฺตธา ผเลยฺยา’’ติฯ

อถ นํ ปาติํ ทิพฺพปูเวหิ ปุณฺณํ อกํสุฯ กสฺสา คุฬมณฺฑเล ฐเปตฺวา อุคฺฆาฏิตมตฺตาย ปูวคนฺโธ สกลนคเร ฉาเทตฺวา ฐิโตฯ ปูวขณฺฑํ มุเข ฐปิตมตฺตเมว สตฺตรสหรณีสหสฺสานิ อนุผริฯ

โส จินฺเตสิ – ‘‘นาหํ มาตุ ปิโย, เอตฺตกํ เม กาลํ อิมํ นตฺถิปูวํ นาม น ปจิ, อิโต ปฏฺฐาย อญฺญํ ปูวํ นาม น ขาทิสฺสามี’’ติ, โส เคหํ คนฺตฺวาว มาตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘อมฺม , ตุมฺหากํ อหํ ปิโย, อปฺปิโย’’ติ? ‘‘ตาต, เอกกฺขิโน อกฺขิ วิย จ หทยํ วิย จ อติวิย ปิโย เม อโหสี’’ติฯ ‘‘อถ กสฺมา เอตฺตกํ กาลํ มยฺหํ นตฺถิ ปูวํ น ปจิตฺถ, อมฺมา’’ติ? สา จูฬูปฏฺฐากํ ปุจฺฉิ – ‘‘อตฺถิ กิญฺจิ ปาติยํ, ตาตา’’ติ? ‘‘ปริปุณฺณา, อยฺเย, ปาติ ปูเวหิ, เอวรูปา ปูวา นาม เม น ทิฏฺฐปุพฺพา’’ติ อาโรเจสิฯ สา จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ ปุตฺโต ปุญฺญวา กตาภินีหาโร ภวิสฺสติ, เทวตาหิ ปาติํ ปูเรตฺวา ปูวา ปหิตา ภวิสฺสนฺตี’’ติฯ ‘‘อถ นํ ปุตฺโต, อมฺม, อิโต ปฏฺฐายาหํ อญฺญํ ปูวํ นาม น ขาทิสฺสามิ, นตฺถิปูวเมว ปเจยฺยาสี’’ติฯ สาปิสฺส ตโต ปฏฺฐาย ‘‘ปูวํ ขาทิตุกาโมมฺหี’’ติ วุตฺเต ตุจฺฉปาติเมว อญฺญาย ปาติยา ปฏิกุจฺฉิตฺวา เปเสสิฯ ยาว อคารมชฺเฌ วสิ, ตาวสฺส เทวตาว ปูเว ปหิณิํสุฯ

โส เอตฺตกมฺปิ อชานนฺโต ปพฺพชฺชํ นาม กิํ ชานิสฺสติ? ตสฺมา ‘‘กา เอสา ปพฺพชฺชา นามา’’ติ ภาตรํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โอหาริตเกสมสฺสุนา กาสายนิวตฺเถน กฏฺฐตฺถรเก วา พิทลมญฺจเก วา นิปชฺชิตฺวา ปิณฺฑาย จรนฺเตน วิหริตพฺพํฯ เอสา ปพฺพชฺชา นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภาติก, อหํ สุขุมาโลฯ นาหํ สกฺขิสฺสามิ ปพฺพชิตุ’’นฺติ อาหฯ ‘‘เตน หิ, ตาต, กมฺมนฺตํ อุคฺคเหตฺวา ฆราวาสํ วสฯ น หิ สกฺกา อมฺเหสุ เอเกน อปพฺพชิตุ’’นฺติฯ อถ นํ ‘‘โก เอส กมฺมนฺโต นามา’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘ภตฺตุฏฺฐานฏฺฐานมฺปิ อชานนฺโต กุลปุตฺโต กมฺมนฺตํ นาม กิํ ชานิสฺสตี’’ติ? เอกทิวสญฺหิ ติณฺณํ ขตฺติยานํ กถา อุทปาทิ – ‘‘ภตฺตํ นาม กุหิํ อุฏฺฐหตี’’ติ? กิมิโล อาห – ‘‘โกฏฺเฐ อุฏฺฐหตี’’ติฯ อถ นํ ภทฺทิโย ‘‘ตฺวํ ภตฺตสฺส อุฏฺฐานฏฺฐานํ น ชานาสิ, ภตฺตํ นาม อุกฺขลิยํ อุฏฺฐหตี’’ติ อาหฯ อนุรุทฺโธ ‘‘ตุมฺเห ทฺเวปิ น ชานาถ, ภตฺตํ นาม รตนมกุฬาย สุวณฺณปาติยํ อุฏฺฐหตี’’ติ อาหฯ

เตสุ กิร เอกทิวสํ กิมิโล โกฏฺฐโต วีหี โอตาริยมาเน ทิสฺวา, ‘‘เอเต โกฏฺเฐเยว ชาตา’’ติ สญฺญี อโหสิฯ ภทฺทิโย เอกทิวสํ อุกฺขลิโต ภตฺตํ วฑฺฒิยมานํ ทิสฺวา ‘‘อุกฺขลิยญฺเญว อุปฺปนฺน’’นฺติ สญฺญี อโหสิฯ อนุรุทฺเธน ปน เนว วีหี โกฏฺเฏนฺตา, น ภตฺตํ ปจนฺตา, น วฑฺเฒนฺตา ทิฏฺฐปุพฺพา, วฑฺเฒตฺวา ปน ปุรโต ฐปิตเมว ปสฺสติฯ โส ภุญฺชิตุกามกาเล ‘‘ภตฺตํ ปาติยํ อุฏฺฐหตี’’ติ สญฺญมกาสิฯ เอวํ ตโยปิ เต ภตฺตุฏฺฐานฏฺฐานํ น ชานนฺติฯ เตนายํ ‘‘โก เอส กมฺมนฺโต นามา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘ปฐมํ เขตฺตํ กสาเปตพฺพ’’นฺติอาทิกํ สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร กตฺตพฺพํ กิจฺจํ สุตฺวา, ‘‘กทา กมฺมนฺตานํ อนฺโต ปญฺญายิสฺสติ, กทา มยํ อปฺโปสฺสุกฺกา โภเค ภุญฺชิสฺสามา’’ติ วตฺวา กมฺมนฺตานํ อปริยนฺตตาย อกฺขาตาย ‘‘เตน หิ ตฺวญฺเญว ฆราวาสํ วส, น มยฺหํ เอเตนตฺโถ’’ติ มาตรํ อุปสงฺกมิตฺวา , ‘‘อนุชานาหิ มํ, อมฺม, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตาย นานปฺปกาเรหิ ติกฺขตฺตุํ ปฏิกฺขิปิตฺวา, ‘‘สเจ เต สหายโก ภทฺทิยราชา ปพฺพชิสฺสติ, เตน สทฺธิํ ปพฺพชาหี’’ติ วุตฺเต ตํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘มม โข, สมฺม, ปพฺพชฺชา ตว ปฏิพทฺธา’’ติ วตฺวา ตํ นานปฺปกาเรหิ สญฺญาเปตฺวา สตฺตเม ทิวเส อตฺตนา สทฺธิํ ปพฺพชนตฺถาย ปฏิญฺญํ คณฺหิฯ

ตโต ภทฺทิโย สกฺยราชา อนุรุทฺโธ อานนฺโท ภคุ กิมิโล เทวทตฺโตติ อิเม ฉ ขตฺติยา อุปาลิกปฺปกสตฺตมา เทวา วิย ทิพฺพสมฺปตฺติํ สตฺตาหํ สมฺปตฺติํ อนุภวิตฺวา อุยฺยานํ คจฺฉนฺตา วิย จตุรงฺคินิยา เสนาย นิกฺขมิตฺวา ปรวิสยํ ปตฺวา ราชาณาย เสนํ นิวตฺตาเปตฺวา ปรวิสยํ โอกฺกมิํสุฯ ตตฺถ ฉ ขตฺติยา อตฺตโน อตฺตโน อาภรณานิ โอมุญฺจิตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา, ‘‘หนฺท ภเณ, อุปาลิ, นิวตฺตสฺสุ, อลํ เต เอตฺตกํ ชีวิกายา’’ติ ตสฺส อทํสุฯ โส เตสํ ปาทมูเล ปริวตฺติตฺวา ปริเทวิตฺวา เตสํ อาณํ อติกฺกมิตุํ อสกฺโกนฺโต อุฏฺฐาย ตํ คเหตฺวา นิวตฺติฯ เตสํ ทฺวิธา ชาตกาเล, วนํ อาโรทนปฺปตฺตํ วิย ปถวีกมฺปมานาการปฺปตฺตา วิย อโหสิฯ อุปาลิ กปฺปโกปิ โถกํ คนฺตฺวา นิวตฺติตฺวา ‘‘จณฺฑา โข สากิยา, ‘อิมินา กุมารา นิปฺปาติตา’ติ ฆาเตยฺยุมฺปิ มํฯ

อิเม หิ นาม สกฺยกุมารา เอวรูปํ สมฺปตฺติํ ปหาย อิมานิ อนคฺฆานิ อาภรณานิ เขฬปิณฺฑํ วิย ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิสฺสนฺติ, กิมงฺคํ ปนาห’’นฺติ ภณฺฑิกํ โอมุญฺจิตฺวา ตานิ อาภรณานิ รุกฺเข ลคฺเคตฺวา ‘‘อตฺถิกา คณฺหนฺตู’’ติ วตฺวา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา เตหิ ‘‘กสฺมา นิวตฺโตสี’’ติ ปุฏฺโฐ ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อถ นํ เต อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘มยํ, ภนฺเต, สากิยา นาม มานนิสฺสิตา, อยํ อมฺหากํ ทีฆรตฺตํ ปริจารโก, อิมํ ปฐมตรํ ปพฺพาเชถ, มยมสฺส อภิวาทนาทีนิ กริสฺสาม, เอวํ โน มาโน นิมฺมานายิสฺสตี’’ติ วตฺวา ตํ ปฐมตรํ ปพฺพาเชตฺวา ปจฺฉา สยํ ปพฺพชิํสุฯ เตสุ อายสฺมา ภทฺทิโย เตเนว อนฺตรวสฺเสน เตวิชฺโช อโหสิฯ อายสฺมา อนุรุทฺโธ ทิพฺพจกฺขุโก หุตฺวา ปจฺฉา มหาวิตกฺกสุตฺตํ (อ. นิ. 8.30) สุตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ อายสฺมา อานนฺโท โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิฯ ภคุตฺเถโร จ กิมิลตฺเถโร จ อปรภาเค วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิํสุฯ เทวทตฺโต โปถุชฺชนิกํ อิทฺธิํ ปตฺโตฯ

อปรภาเค สตฺถริ โกสมฺพิยํ วิหรนฺเต สสาวกสงฺฆสฺส ตถาคตสฺส มหนฺโต ลาภสกฺกาโร นิพฺพตฺติฯ วตฺถเภสชฺชาทิหตฺถา มนุสฺสา วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘กุหิํ สตฺถา, กุหิํ สาริปุตฺตตฺเถโร, กุหิํ มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร, กุหิํ มหากสฺสปตฺเถโร, กุหิํ ภทฺทิยตฺเถโร, กุหิํ อนุรุทฺธตฺเถโร, กุหิํ อานนฺทตฺเถโร, กุหิํ ภคุตฺเถโร, กุหิํ กิมิลตฺเถโร’’ติ อสีติมหาสาวกานํ นิสินฺนฏฺฐานํ โอโลเกนฺตา วิจรนฺติฯ ‘‘เทวทตฺตตฺเถโร กุหิํ นิสินฺโน วา, ฐิโต วา’’ติ ปุจฺฉนฺโต นาม นตฺถิฯ โส จินฺเตสิ – ‘‘อหมฺปิ เอเตหิ สทฺธิญฺเญว ปพฺพชิโต, เอเตปิ ขตฺติยปพฺพชิตา, อหมฺปิ ขตฺติยปพฺพชิโต, ลาภสกฺการหตฺถา มนุสฺสา เอเตเยว ปริเยสนฺติ, มม นามํ คเหตาปิ นตฺถิฯ เกน นุ โข สทฺธิํ เอกโต หุตฺวา กํ ปสาเทตฺวา มม ลาภสกฺการํ นิพฺพตฺเตยฺย’’นฺติฯ อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข ราชา พิมฺพิสาโร ปฐมทสฺสเนเนว เอกาทสหิ นหุเตหิ สทฺธิํ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐิโต, น สกฺกา เอเตน สทฺธิํ เอกโต ภวิตุํ, โกสลรญฺญาปิ สทฺธิํ น สกฺกา ภวิตุํฯ อยํ โข ปน รญฺโญ ปุตฺโต อชาตสตฺตุ กุมาโร กสฺสจิ คุณโทเส น ชานาติ, เอเตน สทฺธิํ เอกโต ภวิสฺสามี’’ติฯ

โส โกสมฺพิโต ราชคหํ คนฺตฺวา กุมารกวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา จตฺตาโร อาสีวิเส จตูสุ หตฺถปาเทสุ เอกํ คีวาย ปิลนฺธิตฺวา เอกํ สีเส จุมฺพฏกํ กตฺวา เอกํ เอกํสํ กริตฺวา อิมาย อหิเมขลาย อากาสโต โอรุยฺห อชาตสตฺตุสฺส อุจฺฉงฺเค นิสีทิตฺวา เตน ภีเตน ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อหํ เทวทตฺโต’’ติ วตฺวา ตสฺส ภยวิโนทนตฺถํ ตํ อตฺตภาวํ ปฏิสํหริตฺวา สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธโร ปุรโต ฐตฺวา ตํ ปสาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นิพฺพตฺเตสิฯ โส ลาภสกฺการาภิภูโต ‘‘อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามี’’ติ ปาปกํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สห จิตฺตุปฺปาเทน อิทฺธิโต ปริหายิตฺวา สตฺถารํ เวฬุวนวิหาเร สราชิกาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสนฺตํ วนฺทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา อญฺชลิํ ปคฺคยฺห – ‘‘ภควา, ภนฺเต, เอตรหิ ชิณฺโณ วุฑฺโฒ มหลฺลโก, อปฺโปสฺสุกฺโก ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารํ อนุยุญฺชตุ, อหํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริหริสฺสามิ, นิยฺยาเทถ เม ภิกฺขุสงฺฆ’’นฺติ วตฺวา สตฺถารา เขฬาสกวาเทน อปสาเทตฺวา ปฏิกฺขิตฺโต อนตฺตมโน อิมํ ปฐมํ ตถาคเต อาฆาตํ พนฺธิตฺวา ปกฺกามิฯ

อถสฺส ภควา ราชคเห ปกาสนียกมฺมํ กาเรสิฯ โส ‘‘ปริจฺจตฺโต ทานิ อหํ สมเณน โคตเมน, อิทานิสฺส อนตฺถํ กริสฺสามี’’ติ อชาตสตฺตุํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ปุพฺเพ โข, กุมาร, มนุสฺสา ทีฆายุกา, เอตรหิ อปฺปายุกาฯ ฐานํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ ตฺวํ กุมาโรว สมาโน กาลํ กเรยฺยาสิ, เตน หิ ตฺวํ, กุมาร, ปิตรํ หนฺตฺวา ราชา โหหิ, อหํ ภควนฺตํ หนฺตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตสฺมิํ รชฺเช ปติฏฺฐิเต ตถาคตสฺส วธาย ปุริเส ปโยเชตฺวา เตสุ โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา นิวตฺเตสุ สยํ คิชฺฌกูฏปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา, ‘‘อหเมว สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปสฺสามี’’ติ สิลํ ปวิชฺฌิตฺวา รุหิรุปฺปาทกกมฺมํ กตฺวา อิมินาปิ อุปาเยน มาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ปุน นาฬาคิริํ วิสฺสชฺชาเปสิฯ ตสฺมิํ อาคจฺฉนฺเต อานนฺทตฺเถโร อตฺตโน ชีวิตํ สตฺถุ ปริจฺจชิตฺวา ปุรโต อฏฺฐาสิฯ

สตฺถา นาคํ ทเมตฺวา นครา นิกฺขมิตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา อเนกสหสฺเสหิ อุปาสเกหิ อภิหฏํ มหาทานํ ปริภุญฺชิตฺวา ตสฺมิํ ทิวเส สนฺนิปติตานํ อฏฺฐารสโกฏิสงฺขาตานํ ราชคหวาสีนํ อนุปุพฺพิํ กถํ กเถตฺวา จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมเย ชาเต ‘‘อโห อายสฺมา อานนฺโท มหาคุโณ, ตถารูเป นาม หตฺถินาเค อาคจฺฉนฺเต อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา สตฺถุ ปุรโตว อฏฺฐาสี’’ติ เถรสฺส คุณกถํ สุตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชิเยวา’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ยาจิโต จูฬหํส (ชา. 1.15.133 อาทโย; 2.21.1 อาทโย) – มหาหํส (ชา. 2.21.89 อาทโย) – กกฺกฏกชาตกานิ (ชา. 1.3.49 อาทโย) กเถสิฯ เทวทตฺตสฺสาปิ กมฺมํ เนว ปากฏํ, ตถา รญฺโญ มาราปิตตฺตา, น วธกานํ ปโยชิตตฺตา น สิลาย ปวิทฺธตฺตา ปากฏํ อโหสิ, ยถา นาฬาคิริหตฺถิโน วิสฺสชฺชิตตฺตาฯ ตทา หิ มหาชโน ‘‘ราชาปิ เทวทตฺเตเนว มาราปิโต, วธโกปิ ปโยชิโต, สิลาปิ อปวิทฺธาฯ อิทานิ ปน เตน นาฬาคิริ วิสฺสชฺชาปิโต, เอวรูปํ นาม ปาปกํ คเหตฺวา ราชา วิจรตี’’ติ โกลาหลมกาสิฯ

ราชา มหาชนสฺส กถํ สุตฺวา ปญฺจ ถาลิปากสตานิ นีหราเปตฺวา น ปุน ตสฺสูปฏฺฐานํ อคมาสิ, นาคราปิสฺส กุลํ อุปคตสฺส ภิกฺขามตฺตมฺปิ น อทํสุฯ โส ปริหีนลาภสกฺกาโร โกหญฺเญน ชีวิตุกาโม สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺจ วตฺถูนิ ยาจิตฺวา ภควโต ‘‘อลํ, เทวทตฺต, โย อิจฺฉติ, โส อารญฺญโก โหตู’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต กสฺสาวุโส, วจนํ โสภนํ, กิํ ตถาคตสฺส อุทาหุ มม, อหญฺหิ อุกฺกฏฺฐวเสน เอวํ วทามิ, ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ภิกฺขู ยาวชีวํ อารญฺญกา อสฺสุ, ปิณฺฑปาติกา, ปํสุกูลิกา, รุกฺขมูลิกา, มจฺฉมํสํ น ขาเทยฺยุ’’นฺติฯ ‘‘โย ทุกฺขา มุจฺจิตุกาโม, โส มยา สทฺธิํ อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา ปกฺกามิฯ ตสฺส วจนํ สุตฺวา เอกจฺเจ นวกปพฺพชิตา มนฺทพุทฺธิโน ‘‘กลฺยาณํ เทวทตฺโต อาห, เอเตน สทฺธิํ วิจริสฺสามา’’ติ เตน สทฺธิํ เอกโต อเหสุํฯ อิติ โส ปญฺจสเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ เตหิ ปญฺจหิ วตฺถูหิ ลูขปฺปสนฺนํ ชนํ สญฺญาเปนฺโต กุเลสุ วิญฺญาเปตฺวา วิญฺญาเปตฺวา ภุญฺชนฺโต สงฺฆเภทาย ปรกฺกมิฯ โส ภควตา, ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, เทวทตฺต, สงฺฆเภทาย ปรกฺกมสิ จกฺกเภทายา’’ติ ปุฏฺโฐ ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ วตฺวา, ‘‘ครุโก โข, เทวทตฺต, สงฺฆเภโท’’ติอาทีหิ โอวทิโตปิ สตฺถุ วจนํ อนาทิยิตฺวา ปกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา, ‘‘อชฺชตคฺเค ทานาหํ, อาวุโส อานนฺท, อญฺญตฺเรว ภควตา, อญฺญตฺร, ภิกฺขุสงฺฆา อุโปสถํ กริสฺสามิ, สงฺฆกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อาหฯ เถโร ตมตฺถํ ภควโต อาโรเจสิฯ

ตํ วิทิตฺวา สตฺถา อุปฺปนฺนธมฺมสํเวโค หุตฺวา, ‘‘เทวทตฺโต สเทวกสฺส โลกสฺส อนตฺถนิสฺสิตํ อตฺตโน อวีจิมฺหิ ปจฺจนกกมฺมํ กโรตี’’ติ วิตกฺเกตฺวา –

‘‘สุกรานิ อสาธูนิ, อตฺตโน อหิตานิ จ;

ยํ เว หิตญฺจ สาธุญฺจ, ตํ เว ปรมทุกฺกร’’นฺติฯ (ธ. ป. 163) –

อิมํ คาถํ วตฺวา ปุน อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘สุกรํ สาธุนา สาธุ, สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ;

ปาปํ ปาเปน สุกรํ, ปาปมริเยหิ ทุกฺกร’’นฺติฯ (อุทา. 48; จูฬว. 343);

อถ โข เทวทตฺโต อุโปสถทิวเส อตฺตโน ปริสาย สทฺธิํ เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา, ‘‘ยสฺสิมานิ ปญฺจ วตฺถูนิ ขมนฺติ , โส สลากํ คณฺหตู’’ติ วตฺวา ปญฺจสเตหิ วชฺชิปุตฺตเกหิ นวเกหิ อปฺปกตญฺญูหิ สลากาย คหิตาย สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา เต ภิกฺขู อาทาย คยาสีสํ อคมาสิฯ ตสฺส ตตฺถ คตภาวํ สุตฺวา สตฺถา เตสํ ภิกฺขูนํ อานยนตฺถาย ทฺเว อคฺคสาวเก เปเสสิฯ เต ตตฺถ คนฺตฺวา อาเทสนาปาฏิหาริยานุสาสนิยา เจว อิทฺธิปาฏิหาริยานุสาสนิยา จ อนุสาสนฺตา เต อมตํ ปาเยตฺวา อาทาย อากาเสน อาคมิํสุฯ โกกาลิโกปิ โข ‘‘อุฏฺเฐหิ, อาวุโส เทวทตฺต, นีตา เต ภิกฺขู สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนหิ, นนุ ตฺวํ มยา วุตฺโต ‘มา, อาวุโส, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน วิสฺสาสี’ติฯ ปาปิจฺฉา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ วตฺวา ชณฺณุเกน หทยมชฺเฌ ปหริ, ตสฺส ตตฺเถว อุณฺหํ โลหิตํ มุขโต อุคฺคญฺฉิฯ อายสฺมนฺตํ ปน สาริปุตฺตํ ภิกฺขุสงฺฆปริวุตํ อากาเสน อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต, อายสฺมา สาริปุตฺโต คมนกาเล อตฺตทุติโย คโต, อิทานิ มหาปริวาโร อาคจฺฉนฺโต โสภตี’’ติฯ สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว สาริปุตฺโต โสภติ, ปุพฺเพ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตกาเลปิ มยฺหํ ปุตฺโต มม สนฺติกํ อาคจฺฉนฺโต โสภิเยวา’’ติ วตฺวา –

‘‘โหติ สีลวตํ อตฺโถ, ปฏิสนฺถารวุตฺตินํ;

ลกฺขณํ ปสฺส อายนฺตํ, ญาติสงฺฆปุรกฺขตํ;

อถ ปสฺสสิมํ กาฬํ, สุวิหีนํว ญาติภี’’ติฯ (ชา. 1.1.11) –

อิทํ ชาตกํ กเถสิฯ ปุน ภิกฺขูหิ, ‘‘ภนฺเต, เทวทตฺโต กิร ทฺเว อคฺคสาวเก อุโภสุ ปสฺเสสุ นิสีทาเปตฺวา ‘พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสสฺสามี’ติ ตุมฺหากํ อนุกิริยํ กโรตี’’ติ วุตฺเต, ‘‘น , ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มม อนุกิริยํ กาตุํ วายมิ, น ปน สกฺขี’’ติ วตฺวา –

‘‘อปิ วีรก ปสฺเสสิ, สกุณํ มญฺชุภาณกํ;

มยูรคีวสงฺกาสํ, ปติํ มยฺหํ สวิฏฺฐกํฯ

‘‘อุทกถลจรสฺส ปกฺขิโน,

นิจฺจํ อามกมจฺฉโภชิโน;

ตสฺสานุกรํ สวิฏฺฐโก,

เสวาเล ปลิคุณฺฐิโต มโต’’ติฯ (ชา. 1.2.107-108) –

อาทินา ชาตกํ วตฺวา อปราปเรสุปิ ทิวเสสุ ตถานุรูปเมว กถํ อารพฺภ –

‘‘อจาริ วตายํ วิตุทํ วนานิ,

กฏฺฐงฺครุกฺเขสุ อสารเกสุ;

อถาสทา ขทิรํ ชาตสารํ,

ยตฺถพฺภิทา ครุโฬ อุตฺตมงฺค’’นฺติฯ (ชา. 1.2.120);

‘‘ลสี จ เต นิปฺผลิกา, มตฺถโก จ ปทาลิโต;

สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา, อชฺช โข ตฺวํ วิโรจสี’’ติฯ (ชา. 1.1.143) –

เอวมาทีนิ ชาตกานิ กเถสิฯ ปุน ‘‘อกตญฺญู เทวทตฺโต’’ติ กถํ อารพฺภ –

‘‘อกรมฺหส เต กิจฺจํ, ยํ พลํ อหุวมฺหเส;

มิคราช นโม ตฺยตฺถุ, อปิ กิญฺจิ ลภามเสฯ

‘‘มม โลหิตภกฺขสฺส, นิจฺจํ ลุทฺทานิ กุพฺพโต;

ทนฺตนฺตรคโต สนฺโต, ตํ พหุํ ยมฺปิ ชีวสี’’ติฯ (ชา. 1.4.29-30) –

อาทีนิ ชาตกานิ กเถสิฯ ปุน วธาย ปริสกฺกนมสฺส อารพฺภ –

‘‘ญาตเมตํ กุรุงฺคสฺส, ยํ ตฺวํ เสปณฺณิ สิยฺยสิ;

อญฺญํ เสปณฺณิ คจฺฉามิ, น เม เต รุจฺจเต ผล’’นฺติฯ (ชา. 1.1.21) –

อาทีนิ ชาตกานิ กเถสิฯ ปุนทิวเส ‘‘อุภโต ปริหีโน เทวทตฺโต ลาภสกฺการโต จ สามญฺญโต จา’’ติ กถาสุ ปวตฺตมานาสุ ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว เทวทตฺโต ปริหีโน, ปุพฺเพเปส ปริหีโนเยวา’’ติ วตฺวา –

‘‘อกฺขี ภินฺนา ปโฏ นฏฺโฐ, สขิเคเห จ ภณฺฑนํ;

อุภโต ปทุฏฺฐา กมฺมนฺตา, อุทกมฺหิ ถลมฺหิ จา’’ติฯ (ชา. 1.1.139) –

อาทีนิ ชาตกานิ กเถสิฯ เอวํ ราชคเห วิหรนฺโตว เทวทตฺตํ อารพฺภ พหูนิ ชาตกานิ กเถตฺวา ราชคหโต สาวตฺถิํ คนฺตฺวา เชตวเน วิหาเร วาสํ กปฺเปสิฯ เทวทตฺโตปิ โข นว มาเส คิลาโน ปจฺฉิเม กาเล สตฺถารํ ทฏฺฐุกาโม หุตฺวา อตฺตโน สาวเก อาห – ‘‘อหํ สตฺถารํ ทฏฺฐุกาโม, ตํ เม ทสฺเสถา’’ติฯ ‘‘ตฺวํ สมตฺถกาเล สตฺถารา สทฺธิํ เวรี หุตฺวา อจริ, น มยํ ตตฺถ เนสฺสามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘มา มํ นาเสถ, มยา สตฺถริ อาฆาโต กโต, สตฺถุ ปน มยิ เกสคฺคมตฺโตปิ อาฆาโต นตฺถิ’’ฯ โส หิ ภควา –

‘‘วธเก เทวทตฺตมฺหิ, โจเร องฺคุลิมาลเก;

ธนปาเล ราหุเล จ, สพฺพตฺถ สมมานโส’’ติฯ (อป. เถร 1.1.585; มิ. ป. 6.6.5) –

‘‘ทสฺเสถ เม ภควนฺต’’นฺติ ปุนปฺปุนํ ยาจิฯ อถ นํ เต มญฺจเกนาทาย นิกฺขมิํสุฯ ตสฺส อาคมนํ สุตฺวา ภิกฺขู สตฺถุ อาโรเจสุํ – ‘‘ภนฺเต, เทวทตฺโต กิร ตุมฺหากํ ทสฺสนตฺถาย อาคจฺฉตี’’ติฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, โส เตนตฺตภาเวน มํ ปสฺสิตุํ ลภิสฺสตี’’ติฯ เทวทตฺโต กิร ปญฺจนฺนํ วตฺถูนํ อายาจิตกาลโต ปฏฺฐาย ปุน พุทฺธํ ทฏฺฐุํ น ลภติ, อยํ ธมฺมตาฯ ‘‘อสุกฏฺฐานญฺจ อสุกฏฺฐานญฺจ อาคโต, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘ยํ อิจฺฉติ, ตํ กโรตุ, น โส มํ ปสฺสิตุํ ลภิสฺสตี’’ติฯ ‘‘ภนฺเต, อิโต โยชนมตฺตํ อาคโต, อฑฺฒโยชนํ, คาวุตํ, เชตวนโปกฺขรณีสมีปํ อาคโต, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘สเจปิ อนฺโตเชตวนํ ปวิสติ, เนว มํ ปสฺสิตุํ ลภิสฺสตี’’ติฯ เทวทตฺตํ คเหตฺวา อาคตา เชตวนโปกฺขรณีตีเร มญฺจํ โอตาเรตฺวา โปกฺขรณิํ นฺหายิตุํ โอตริํสุฯ เทวทตฺโตปิ โข มญฺจโต วุฏฺฐาย อุโภ ปาเท ภูมิยํ ฐเปตฺวา นิสีทิฯ

ปาทา ปถวิํ ปวิสิํสุ ฯ โส อนุกฺกเมน ยาว โคปฺผกา, ยาว ชณฺณุกา, ยาว กฏิโต, ยาว ถนโต, ยาว คีวโต ปวิสิตฺวา หนุกฏฺฐิกสฺส ภูมิยํ ปวิฏฺฐกาเล –

‘‘อิเมหิ อฏฺฐีหิ ตมคฺคปุคฺคลํ,

เทวาติเทวํ นรทมฺมสารถิํ;

สมนฺตจกฺขุํ สตปุญฺญลกฺขณํ,

ปาเณหิ พุทฺธํ สรณํ อุเปมี’’ติฯ (มิ. ป. 4.1.3) –

อิมํ คาถมาหฯ อิทํ กิร ฐานํ ทิสฺวา ตถาคโต เทวทตฺตํ ปพฺพาเชสิฯ สเจ หิ น โส ปพฺพชิสฺส, คิหี หุตฺวา กมฺมญฺจ ภาริยํ อกริสฺส, อายติํ ภวนิสฺสรณปจฺจยํ กาตุํ น สกฺขิสฺส, ปพฺพชิตฺวา จ ปน กิญฺจาปิ กมฺมํ ภาริยํ กริสฺสติ, อายติํ ภวนิสฺสรณปจฺจยํ กาตุํ สกฺขิสฺสตีติ ตํ สตฺถา ปพฺพาเชสิฯ โส หิ อิโต สตสหสฺสกปฺปมตฺถเก อฏฺฐิสฺสโร นาม ปจฺเจกพุทฺโธ ภวิสฺสติ, โส ปถวิํ ปวิสิตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติฯ นิจฺจเล พุทฺเธ อปรชฺฌภาเวน ปน นิจฺจโลว หุตฺวา ปจฺจตูติ โยชนสติเก อนฺโต อวีจิมฺหิ โยชนสตุพฺเพธเมวสฺส สรีรํ นิพฺพตฺติฯ สีสํ ยาว กณฺณสกฺขลิโต อุปริ อยกปลฺลํ ปาวิสิ, ปาทา ยาว โคปฺผกา เหฏฺฐา อยปถวิยํ ปวิฏฺฐา, มหาตาลกฺขนฺธปริมาณํ อยสูลํ ปจฺฉิมภิตฺติโต นิกฺขมิตฺวา ปิฏฺฐิมชฺฌํ ภินฺทิตฺวา อุเรน นิกฺขมิตฺวา ปุริมภิตฺติํ ปาวิสิ, อปรํ ทกฺขิณภิตฺติโต นิกฺขมิตฺวา ทกฺขิณปสฺสํ ภินฺทิตฺวา วามปสฺเสน นิกฺขมิตฺวา อุตฺตรภิตฺติํ ปาวิสิ, อปรํ อุปริ กปลฺลโต นิกฺขมิตฺวา มตฺถกํ ภินฺทิตฺวา อโธภาเคน นิกฺขมิตฺวา อยปถวิํ ปาวิสิฯ เอวํ โส ตตฺถ นิจฺจโลว ปจฺจิฯ

ภิกฺขู ‘‘เอตฺตกํ ฐานํ เทวทตฺโต อาคจฺฉนฺโต สตฺถารํ ทฏฺฐุํ อลภิตฺวาว ปถวิํ ปวิฏฺโฐ’’ติ กถํ สมุฏฺฐาเปสุํฯ

สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, เทวทตฺโต อิทาเนว มยิ อปรชฺฌิตฺวา ปถวิํ ปาวิสิ, ปุพฺเพปิ ปวิฏฺโฐเยวา’’ติ วตฺวา หตฺถิราชกาเล มคฺคมูฬฺหํ ปุริสํ สมสฺสาเสตฺวา อตฺตโน ปิฏฺฐิํ อาโรเปตฺวา เขมนฺตํ ปาปิตสฺส ปุน ติกฺขตฺตุํ อาคนฺตฺวา อคฺคฏฺฐาเน มชฺฌิมฏฺฐาเน มูเลหิ เอวํ ทนฺเต ฉินฺทิตฺวา ตติยวาเร มหาปุริสสฺส จกฺขุปถํ อติกฺกมนฺตสฺส ตสฺส ปถวิํ ปวิฏฺฐภาวํ ทีเปตุํ –

‘‘อกตญฺญุสฺส โปสสฺส, นิจฺจํ วิวรทสฺสิโน;

สพฺพํ เจ ปถวิํ ทชฺชา, เนว นํ อภิราธเย’’ติฯ (ชา. 1.1.72; 1.9.107) –

อิทํ ชาตกํ กเถตฺวา ปุนปิ ตเถว กถาย สมุฏฺฐิตาย ขนฺติวาทิภูเต อตฺตนิ อปรชฺฌิตฺวา กลาพุราชภูตสฺส ตสฺส ปถวิํ ปวิฏฺฐภาวํ ทีเปตุํ ขนฺติวาทิชาตกญฺจ (ชา. 1.4.49 อาทโย), จูฬธมฺมปาลภูเต อตฺตนิ อปรชฺฌิตฺวา มหาปตาปราชภูตสฺส ตสฺส ปถวิํ ปวิฏฺฐภาวํ ทีเปตุํ จูฬธมฺมปาลชาตกญฺจ (ชา. 1.5.44 อาทโย) กเถสิฯ

ปถวิํ ปวิฏฺเฐ ปน เทวทตฺเต มหาชโน หฏฺฐตุฏฺโฐ ธชปฏากกทลิโย อุสฺสาเปตฺวา ปุณฺณฆเฏ ฐเปตฺวา ‘‘ลาภา วต โน’’ติ มหนฺตํ ฉณํ อนุโภติฯ ตมตฺถํ ภควโต อาโรเจสุํฯ ภควา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว เทวทตฺเต มเต มหาชโน ตุสฺสติ, ปุพฺเพปิ ตุสฺสิเยวา’’ติ วตฺวา สพฺพชนสฺส อปฺปิเย จณฺเฑ ผรุเส พาราณสิยํ ปิงฺคลรญฺเญ นาม มเต มหาชนสฺส ตุฏฺฐภาวํ ทีเปตุํ –

‘‘สพฺโพ ชโน หิํสิโต ปิงฺคเลน,

ตสฺมิํ มเต ปจฺจยา เวทยนฺติ;

ปิโย นุ เต อาสิ อกณฺหเนตฺโต,

กสฺมา ตุวํ โรทสิ ทฺวารปาลฯ

‘‘น เม ปิโย อาสิ อกณฺหเนตฺโต,

ภายามิ ปจฺจาคมนาย ตสฺส;

อิโต คโต หิํเสยฺย มจฺจุราชํ,

โส หิํสิโต อาเนยฺย ปุน อิธา’’ติฯ (ชา. 1.2.179-180) –

อิทํ ปิงฺคลชาตกํ กเถสิฯ ภิกฺขู สตฺถารํ ปุจฺฉิํสุ – ‘‘อิทานิ, ภนฺเต, เทวทตฺโต กุหิํ นิพฺพตฺโต’’ติ? ‘‘อวีจิมหานิรเย, ภิกฺขเว’’ติฯ ‘‘ภนฺเต, อิธ ตปฺปนฺโต วิจริตฺวา ปุน คนฺตฺวา ตปฺปนฏฺฐาเนเยว นิพฺพตฺโต’’ติฯ ‘‘อาม, ภิกฺขเว, ปพฺพชิตา วา โหนฺตุ คหฏฺฐา วา, ปมาทวิหาริโน อุภยตฺถ ตปฺปนฺติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[17]

‘‘อิธ ตปฺปติ เปจฺจ ตปฺปติ, ปาปการี อุภยตฺถ ตปฺปติ;

ปาปํ เม กตนฺติ ตปฺปติ, ภิยฺโย ตปฺปติ ทุคฺคติํ คโต’’ติฯ

ตตฺถ อิธ ตปฺปตีติ อิธ กมฺมตปฺปเนน โทมนสฺสมตฺเตน ตปฺปติฯ เปจฺจาติ ปรโลเก ปน วิปากตปฺปเนน อติทารุเณน อปายทุกฺเขน ตปฺปติฯ ปาปการีติ นานปฺปการสฺส ปาปสฺส กตฺตาฯ อุภยตฺถาติ อิมินา วุตฺตปฺปกาเรน ตปฺปเนน อุภยตฺถ ตปฺปติ นามฯ ปาปํ เมติ โส หิ กมฺมตปฺปเนน กปฺปนฺโต ‘‘ปาปํ เม กต’’นฺติ ตปฺปติฯ ตํ อปฺปมตฺตกํ ตปฺปนํ, วิปากตปฺปเนน ปน ตปฺปนฺโต ภิยฺโย ตปฺปติ ทุคฺคติํ คโต อติผรุเสน ตปฺปเนน อติวิย ตปฺปตีติฯ

คาถาปริโยสาเน พหู โสตาปนฺนาทโย อเหสุํฯ เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา ชาตาติฯ

เทวทตฺตวตฺถุ ทฺวาทสมํฯ

13. สุมนาเทวีวตฺถุ

อิธ นนฺทตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สุมนาเทวิํ อารพฺภ กเถสิฯ

สาวตฺถิยญฺหิ เทวสิกํ อนาถปิณฺฑิกสฺส เคเห ทฺเว ภิกฺขูสหสฺสานิ ภุญฺชนฺติ, ตถา วิสาขาย มหาอุปาสิกายฯ สาวตฺถิยํ โย โย ทานํ ทาตุกาโม โหติ, โส โส เตสํ อุภินฺนํ โอกาสํ ลภิตฺวาว กโรติฯ กิํ การณา? ‘‘ตุมฺหากํ ทานคฺคํ อนาถปิณฺฑิโก วา วิสาขา วา อาคตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘นาคตา’’ติ วุตฺเต สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา กตทานมฺปิ ‘‘กิํ ทานํ นาเมต’’นฺติ ครหนฺติฯ อุโภปิ หิ เต ภิกฺขุสงฺฆสฺส รุจิญฺจ อนุจฺฉวิกกิจฺจานิ จ อติวิย ชานนฺติ, เตสุ วิจาเรนฺเตสุ ภิกฺขู จิตฺตรูปํ ภุญฺชนฺติฯ ตสฺมา สพฺเพ ทานํ ทาตุกามา เต คเหตฺวาว คจฺฉนฺติฯ อิติ เต อตฺตโน อตฺตโน ฆเร ภิกฺขู ปริวิสิตุํ น ลภนฺติฯ ตโต วิสาขา, ‘‘โก นุ โข มม ฐาเน ฐตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิสฺสตี’’ติ อุปธาเรนฺตี ปุตฺตสฺส ธีตรํ ทิสฺวา ตํ อตฺตโน ฐาเน ฐเปสิฯ สา ตสฺสา นิเวสเน ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสติฯ อนาถปิณฺฑิโกปิ มหาสุภทฺทํ นาม เชฏฺฐธีตรํ ฐเปสิฯ