เมนู

26. พฺราหฺมณวคฺโค

1. ปสาทพหุลพฺราหฺมณวตฺถุ

ฉินฺท โสตนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปสาทพหุลํ พฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิฯ

โส กิร พฺราหฺมโณ ภควโต ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต อตฺตโน เคเห โสฬสมตฺตานํ ภิกฺขูนํ นิจฺจภตฺตํ ปฏฺฐเปตฺวา ภิกฺขูนํ อาคตเวลาย ปตฺตํ คเหตฺวา ‘‘อาคจฺฉนฺตุ โภนฺโต อรหนฺโต, นิสีทนฺตุ โภนฺโต อรหนฺโต’’ติ ยํกิญฺจิ วทนฺโต อรหนฺตวาทปฏิสํยุตฺตเมว วทติฯ เตสุ ปุถุชฺชนา ‘‘อยํ อมฺเหสุ อรหนฺตสญฺญี’’ติ จินฺตยิํสุ, ขีณาสวา ‘‘อยํ โน ขีณาสวภาวํ ชานาตี’’ติฯ เอวํ เต สพฺเพปิ กุกฺกุจฺจายนฺตา ตสฺส เคหํ นาคมิํสุฯ โส ทุกฺขี ทุมฺมโน ‘‘กินฺนุ โข, อยฺยา, นาคจฺฉนฺตี’’ติ วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ สตฺถา ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘กิํ เอตํ, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตหิ ตสฺมิํ อตฺเถ อาโรจิเต ‘‘สาทิยถ ปน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อรหนฺตวาท’’นฺติ อาหฯ ‘‘น สาทิยาม มยํ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เอวํ สนฺเต มนุสฺสานํ เอตํ ปสาทภญฺญํ, อนาปตฺติ , ภิกฺขเว, ปสาทภญฺเญ, อปิ จ โข ปน พฺราหฺมณสฺส อรหนฺเตสุ อธิมตฺตํ เปมํ, ตสฺมา ตุมฺเหหิปิ ตณฺหาโสตํ เฉตฺวา อรหตฺตเมว ปตฺตุํ ยุตฺต’’นฺติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

[383]

‘‘ฉินฺท โสตํ ปรกฺกมฺม, กาเม ปนุท พฺราหฺมณ;

สงฺขารานํ ขยํ ญตฺวา, อกตญฺญูสิ พฺราหฺมณา’’ติฯ

ตตฺถ ปรกฺกมฺมาติ ตณฺหาโสตํ นาม น อปฺปมตฺตเกน วายาเมน ฉินฺทิตุํ สกฺกา, ตสฺมา ญาณสมฺปยุตฺเตน มหนฺเตน ปรกฺกเมน ปรกฺกมิตฺวา ตํ โสตํ ฉินฺทฯ อุโภปิ กาเม ปนุท นีหรฯ พฺราหฺมณาติ ขีณาสวานํ อาลปนเมตํฯ สงฺขารานนฺติ ปญฺจนฺนํ ขนฺธานํ ขยํ ชานิตฺวาฯ อกตญฺญูติ เอวํ สนฺเต ตฺวํ สุวณฺณาทีสุ เกนจิ อกตสฺส นิพฺพานสฺส ชานนโต อกตญฺญู นาม โหสีติฯ

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ

ปสาทพหุลพฺราหฺมณวตฺถุ ปฐมํฯ

2. สมฺพหุลภิกฺขุวตฺถุ

ยทา ทฺวเยสูติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิฯ

เอกทิวสญฺหิ ติํสมตฺตา ทิสาวาสิกา ภิกฺขู อาคนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา นิสีทิํสุฯ สาริปุตฺตตฺเถโร เตสํ อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ฐิตโกว อิมํ ปญฺหํ ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, ทฺเว ธมฺมาติ วุจฺจนฺติ, กตเม นุ โข ทฺเว ธมฺมา’’ติ? อถ นํ สตฺถา ‘‘ทฺเว ธมฺมาติ โข, สาริปุตฺต, สมถวิปสฺสนา วุจฺจนฺตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[384]

‘‘ยทา ทฺวเยสุ ธมฺเมสุ, ปารคู โหติ พฺราหฺมโณ;

อถสฺส สพฺเพ สํโยคา, อตฺถํ คจฺฉนฺติ ชานโต’’ติฯ

ตตฺถ ยทาติ ยสฺมิํ กาเล ทฺวิธา ฐิเตสุ สมถวิปสฺสนาธมฺเมสุ อภิญฺญาปารคาทิวเสน อยํ ขีณาสโว ปารคู โหติ, อถสฺส วฏฺฏสฺมิํ สํโยชนสมตฺถา สพฺเพ กามโยคาทโย สํโยคา เอวํ ชานนฺตสฺส อตฺถํ ปริกฺขยํ คจฺฉนฺตีติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน สพฺเพปิ เต ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺฐหิํสูติฯ

สมฺพหุลภิกฺขุวตฺถุ ทุติยํฯ

3. มารวตฺถุ

ยสฺส ปารนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มารํ อารพฺภ กเถสิฯ

โส กิเรกสฺมิํ ทิวเส อญฺญตโร ปุริโส วิย หุตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต , ปารํ ปารนฺติ วุจฺจติ, กินฺนุ โข เอตํ ปารํ นามา’’ติฯ สตฺถา ‘‘มาโร อย’’นฺติ วิทิตฺวา, ‘‘ปาปิม, กิํ ตว ปาเรน, ตญฺหิ วีตราเคหิ ปตฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[385]

‘‘ยสฺส ปารํ อปารํ วา, ปาราปารํ น วิชฺชติ;

วีตทฺทรํ วิสํยุตฺตํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติฯ