เมนู

ตตฺถ ปาปการีติ นานปฺปการสฺส ปาปกมฺมสฺส การโก ปุคฺคโล ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณํ, กตํ ปาป’’นฺติ เอกํเสเนว มรณสมเย อิธ โสจติ, อิทมสฺส กมฺมโสจนํฯ วิปากํ อนุภวนฺโต ปน เปจฺจ โสจติฯ อิทมสฺส ปรโลเก วิปากโสจนํฯ เอวํ โส อุภยตฺถ โสจติเยวฯ เตเนว การเณน ชีวมาโนเยว โส จุนฺทสูกริโกปิ โสจติฯ ทิสฺวา กมฺมกิลิฏฺฐนฺติ อตฺตโน กิลิฏฺฐกมฺมํ ปสฺสิตฺวา นานปฺปการกํ วิลปนฺโต วิหญฺญตีติฯ

คาถาปริโยสาเน พหู โสตาปนฺนาทโย อเหสุํฯ มหาชนสฺส สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา ชาตาติฯ

จุนฺทสูกริกวตฺถุ ทสมํฯ

11. ธมฺมิกอุปาสกวตฺถุ

อิธ โมทตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ธมฺมิกอุปาสกํ อารพฺภ กเถสิฯ

สาวตฺถิยํ กิร ปญฺจสตา ธมฺมิกอุปาสกา นาม อเหสุํฯ เตสุ เอเกกสฺส ปญฺจ ปญฺจ อุปาสกสตานิ ปริวาราฯ โย เตสํ เชฏฺฐโก, ตสฺส สตฺต ปุตฺตา สตฺต ธีตโรฯ เตสุ เอเกกสฺส เอเกกา สลากยาคุ สลากภตฺตํ ปกฺขิกภตฺตํ นิมนฺตนภตฺตํ อุโปสถิกภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํ สงฺฆภตฺตํ วสฺสาวาสิกํ อโหสิฯ เตปิ สพฺเพว อนุชาตปุตฺตา นาม อเหสุํฯ อิติ จุทฺทสนฺนํ ปุตฺตานํ ภริยาย อุปาสกสฺสาติ โสฬส สลากยาคุอาทีนิ ปวตฺตนฺติฯ อิติ โส สปุตฺตทาโร สีลวา กลฺยาณธมฺโม ทานสํวิภาครโต อโหสิฯ อถสฺส อปรภาเค โรโค อุปฺปชฺชิ, อายุสงฺขาโร ปริหายิฯ โส ธมฺมํ โสตุกาโม ‘‘อฏฺฐ วา เม โสฬส วา ภิกฺขู เปเสถา’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ ปหิณิฯ สตฺถา เปเสสิฯ เต คนฺตฺวา ตสฺส มญฺจํ ปริวาเรตฺวา ปญฺญตฺเตสุ อาสเนสุ นิสินฺนาฯ

‘‘ภนฺเต, อยฺยานํ เม ทสฺสนํ ทุลฺลภํ ภวิสฺสติ, ทุพฺพโลมฺหิ, เอกํ เม สุตฺตํ สชฺฌายถา’’ติ วุตฺเต ‘‘กตรํ สุตฺตํ โสตุกาโม อุปาสกา’’ติ? ‘‘สพฺพพุทฺธานํ อวิชหิตํ สติปฏฺฐานสุตฺต’’นฺติ วุตฺเต – ‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา’’ติ (ที. นิ. 2.373; ม. นิ. 1.106) สุตฺตนฺตํ ปฏฺฐเปสุํฯ ตสฺมิํ ขเณ ฉหิ เทวโลเกหิ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา สหสฺสสินฺธวยุตฺตา ทิยฑฺฒโยชนสติกา ฉ รถา อาคมิํสุฯ เตสุ ฐิตา เทวตา ‘‘อมฺหากํ เทวโลกํ เนสฺสาม, อมฺหากํ เทวโลกํ เนสฺสาม, อมฺโภ มตฺติกภาชนํ ภินฺทิตฺวา สุวณฺณภาชนํ คณฺหนฺโต วิย อมฺหากํ เทวโลเก อภิรมิตุํ อิธ นิพฺพตฺตาหิ, อมฺหากํ เทวโลเก อภิรมิตุํ อิธ นิพฺพตฺตาหี’’ติ วทิํสุฯ อุปาสโก ธมฺมสฺสวนนฺตรายํ อนิจฺฉนฺโต – ‘‘อาคเมถ อาคเมถา’’ติ อาหฯ ภิกฺขู ‘‘อมฺเห วาเรตี’’ติ สญฺญาย ตุณฺหี อเหสุํฯ

อถสฺส ปุตฺตธีตโร ‘‘อมฺหากํ ปิตา ปุพฺเพ ธมฺมสฺสวเนน อติตฺโต อโหสิ, อิทานิ ปน ภิกฺขู ปกฺโกสาเปตฺวา สชฺฌายํ กาเรตฺวา สยเมว วาเรติ, มรณสฺส อภายนกสตฺโต นาม นตฺถี’’ติ วิรวิํสุฯ ภิกฺขู ‘‘อิทานิ อโนกาโส’’ติ อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมิํสุฯ อุปาสโก โถกํ วีตินาเมตฺวา สติํ ปฏิลภิตฺวา ปุตฺเต ปุจฺฉิ – ‘‘กสฺมา กนฺทถา’’ติ? ‘‘ตาต, ตุมฺเห ภิกฺขู ปกฺโกสาเปตฺวา ธมฺมํ สุณนฺตา สยเมว วารยิตฺถ, อถ มยํ ‘มรณสฺส อภายนกสตฺโต นาม นตฺถี’ติ กนฺทิมฺหา’’ติ ฯ ‘‘อยฺยา ปน กุหิ’’นฺติ? ‘‘‘อโนกาโส’ติ อุฏฺฐายาสนา ปกฺกนฺตา, ตาตา’’ติฯ ‘‘นาหํ, อยฺเยหิ สทฺธิํ กเถมี’’ติ วุตฺเต ‘‘อถ เกน สทฺธิํ กเถถา’’ติฯ ‘‘ฉหิ เทวโลเกหิ เทวตา ฉ รเถ อลงฺกริตฺวา อาทาย อากาเส ฐตฺวา ‘อมฺหาหิ เทวโลเก อภิรม, อมฺหากํ เทวโลเก อภิรมา’ติ สทฺทํ กโรนฺติ, ตาหิ สทฺธิํ กเถมี’’ติฯ ‘‘กุหิํ, ตาต, รถา, น มยํ ปสฺสามา’’ติ? ‘‘อตฺถิ ปน มยฺหํ คนฺถิตานิ ปุปฺผานี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ตาตา’’ติฯ ‘‘กตโร เทวโลโก รมณีโย’’ติ? ‘‘สพฺพโพธิสตฺตานํ พุทฺธมาตาปิตูนญฺจ วสิตฏฺฐานํ ตุสิตภวนํ รมณียํ, ตาตา’’ติฯ ‘‘เตน หิ ‘ตุสิตภวนโต อาคตรเถ ลคฺคตู’ติ ปุปฺผทามํ ขิปถา’’ติฯ เต ขิปิํสุฯ ตํ รถธุเร ลคฺคิตฺวา อากาเส โอลมฺพิฯ มหาชโน ตเทว ปสฺสติ, รถํ น ปสฺสติฯ อุปาสโก ‘‘ปสฺสเถตํ ปุปฺผทาม’’นฺติ วตฺวา, ‘‘อาม, ปสฺสามา’’ติ วุตฺเต – ‘‘เอตํ ตุสิตภวนโต อาคตรเถ โอลมฺพติ, อหํ ตุสิตภวนํ คจฺฉามิ , ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, มม สนฺติเก นิพฺพตฺติตุกามา หุตฺวา มยา กตนิยาเมเนว ปุญฺญานิ กโรถา’’ติ วตฺวา กาลํ กตฺวา รเถ ปติฏฺฐาสิฯ

ตาวเทวสฺส ติคาวุตปฺปมาโณ สฏฺฐิสกฏภาราลงฺการปฏิมณฺฑิโต อตฺตภาโว นิพฺพตฺติ, อจฺฉราสหสฺสํ ปริวาเรสิ, ปญฺจวีสติโยชนิกํ กนกวิมานํ ปาตุรโหสิฯ เตปิ ภิกฺขู วิหารํ อนุปฺปตฺเต สตฺถา ปุจฺฉิ – ‘‘สุตา, ภิกฺขเว, อุปาสเกน ธมฺมเทสนา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อนฺตราเยว ปน ‘อาคเมถา’ติ วาเรสิฯ อถสฺส ปุตฺตธีตโร กนฺทิํสุ ฯ มยํ ‘อิทานิ อโนกาโส’ติ อุฏฺฐายาสนา นิกฺขนฺตา’’ติฯ ‘‘น โส, ภิกฺขเว, ตุมฺเหหิ สทฺธิํ กเถสิ, ฉหิ เทวโลเกหิ เทวตา ฉ รเถ อลงฺกริตฺวา อาหริตฺวา ตํ อุปาสกํ ปกฺโกสิํสุฯ โส ธมฺมเทสนาย อนฺตรายํ อนิจฺฉนฺโต ตาหิ สทฺธิํ กเถสี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว’’ติฯ ‘‘อิทานิ กุหิํ นิพฺพตฺโต’’ติ? ‘‘ตุสิตภวเน, ภิกฺขเว’’ติฯ ‘‘ภนฺเต, อิทานิ อิธ ญาติมชฺเฌ โมทมาโน วิจริตฺวา อิทาเนว คนฺตฺวา ปุน โมทนฏฺฐาเนเยว นิพฺพตฺโต’’ติฯ ‘‘อาม, ภิกฺขเว, อปฺปมตฺตา หิ คหฏฺฐา วา ปพฺพชิตา วา สพฺพตฺถ โมทนฺติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[16]

‘‘อิธ โมทติ เปจฺจ โมทติ,

กตปุญฺโญ อุภยตฺถ โมทติ;

โส โมทติ โส ปโมทติ,

ทิสฺวา กมฺมวิสุทฺธิมตฺตโน’’ติฯ

ตตฺถ กตปุญฺโญติ นานปฺปการสฺส กุสลสฺส การโก ปุคฺคโล ‘‘อกตํ วต เม ปาปํ, กตํ เม กลฺยาณ’’นฺติ อิธ กมฺมโมทเนน, เปจฺจ วิปากโมทเนน โมทติฯ เอวํ อุภยตฺถ โมทติ นามฯ กมฺมวิสุทฺธินฺติ ธมฺมิกอุปาสโกปิ อตฺตโน กมฺมวิสุทฺธิํ ปุญฺญกมฺมสมฺปตฺติํ ทิสฺวา กาลกิริยโต ปุพฺเพ อิธโลเกปิ โมทติ, กาลํ กตฺวา อิทานิ ปรโลเกปิ อติโมทติเยวาติฯ

คาถาปริโยสาเน พหู โสตาปนฺนาทโย อเหสุํ มหาชนสฺส สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา ชาตาติฯ

ธมฺมิกอุปาสกวตฺถุ เอกาทสมํฯ

12. เทวทตฺตวตฺถุ

อิธ ตปฺปตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ

เทวทตฺตสฺส วตฺถุ ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺฐาย ยาว ปถวิปฺปเวสนา เทวทตฺตํ อารพฺภ ภาสิตานิ สพฺพานิ ชาตกานิ วิตฺถาเรตฺวา กถิตํฯ อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – สตฺถริ อนุปิยํ นาม มลฺลานํ นิคโม อตฺถิฯ ตํ นิสฺสาย อนุปิยมฺพวเน วิหรนฺเตเยว ตถาคตสฺส ลกฺขณปฏิคฺคหณทิวเสเยว อสีติสหสฺเสหิ ญาติกุเลหิ ‘‘ราชา วา โหตุ, พุทฺโธ วา, ขตฺติยปริวาโรว วิจริสฺสตี’’ติ อสีติสหสฺสปุตฺตา ปฏิญฺญาตาฯ เตสุ เยภุยฺเยน ปพฺพชิเตสุ ภทฺทิยํ นาม ราชานํ, อนุรุทฺธํ, อานนฺทํ, ภคุํ, กิมิลํ, เทวทตฺตนฺติ อิเม ฉ สกฺเย อปพฺพชนฺเต ทิสฺวา, ‘‘มยํ อตฺตโน ปุตฺเต ปพฺพาเชม, อิเม ฉ สกฺยา น ญาตกา มญฺเญ, กสฺมา น ปพฺพชนฺตี’’ติ? กถํ สมุฏฺฐาเปสุํฯ อถ โข มหานาโม สกฺโย อนุรุทฺธํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘ตาต, อมฺหากํ กุลา ปพฺพชิโต นตฺถิ, ตฺวํ วา ปพฺพช, อหํ วา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาหฯ โส ปน สุขุมาโล โหติ สมฺปนฺนโภโค, ‘‘นตฺถี’’ติ วจนมฺปิ เตน น สุตปุพฺพํฯ เอกทิวสญฺหิ เตสุ ฉสุ ขตฺติเยสุ คุฬกีฬํ กีฬนฺเตสุ อนุรุทฺโธ ปูเวน ปราชิโต ปูวตฺถาย ปหิณิ, อถสฺส มาตา ปูเว สชฺเชตฺวา ปหิณิ ฯ เต ขาทิตฺวา ปุน กีฬิํสุฯ ปุนปฺปุนํ ตสฺเสว ปราชโย โหติฯ มาตา ปนสฺส ปหิเต ปหิเต ติกฺขตฺตุํ ปูเว ปหิณิตฺวา จตุตฺถวาเร ‘‘ปูวา นตฺถี’’ติ ปหิณิฯ โส ‘‘นตฺถี’’ติ วจนสฺส อสุกปุพฺพตฺตา ‘‘เอสาเปกา ปูววิกติ ภวิสฺสตี’’ติ มญฺญมาโน ‘‘นตฺถิปูวํ เม อาหรถา’’ติ เปเสสิฯ มาตา ปนสฺส ‘‘นตฺถิปูวํ กิร, อยฺเย, เทถา’’ติ วุตฺเต, ‘‘มม ปุตฺเตน ‘นตฺถี’ติ ปทํ น สุตปุพฺพํ, อิมินา ปน อุปาเยน นํ เอตมตฺถํ ชานาเปสฺสามี’’ติ ตุจฺฉํ สุวณฺณปาติํ อญฺญาย สุวณฺณปาติยา ปฏิกุชฺชิตฺวา เปเสสิฯ นครปริคฺคาหิกา เทวตา จินฺเตสุํ – ‘‘อนุรุทฺธสกฺเยน อนฺนภารกาเล อตฺตโน ภาคภตฺตํ อุปริฏฺฐปจฺเจกพุทฺธสฺส ทตฺวา ‘‘‘นตฺถี’ติ เม วจนสฺส สวนํ มา โหตุ, โภชนุปฺปตฺติฏฺฐานชานนํ มา ‘โหตู’ติ ปตฺถนา กตา, สจายํ ตุจฺฉปาติํ ปสฺสิสฺสติ, เทวสมาคมํ ปวิสิตุํ น ลภิสฺสาม, สีสมฺปิ โน สตฺตธา ผเลยฺยา’’ติฯ