เมนู

24. ตณฺหาวคฺโค

1. กปิลมจฺฉวตฺถุ

มนุชสฺสาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กปิลมจฺฉํ อารพฺภ กเถสิฯ

อตีเต กิร กสฺสปภควโต ปรินิพฺพุตกาเล ทฺเว กุลภาตโร นิกฺขมิตฺวา สาวกานํ สนฺติเก ปพฺพชิํสุฯ เตสุ เชฏฺโฐ สาคโต นาม อโหสิ, กนิฏฺโฐ กปิโล นามฯ มาตา ปน เนสํ สาธินี นาม, กนิฏฺฐภคินี ตาปนา นามฯ ตาปิ ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิํสุฯ เอวํ เตสุ ปพฺพชิเตสุ อุโภ ภาตโร อาจริยุปชฺฌายานํ วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา วิหรนฺตา เอกทิวสํ, ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมิํ สาสเน กติ ธุรานี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คนฺถธุรํ วิปสฺสนาธุรญฺจาติ ทฺเว ธุรานี’’ติ สุตฺวา เชฏฺโฐ ‘‘วิปสฺสนาธุรํ ปูเรสฺสามี’’ติ ปญฺจ วสฺสานิ อาจริยุปชฺฌายานํ สนฺติเก วสิตฺวา ยาว อรหตฺตา กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา อรญฺญํ ปวิสิตฺวา วายมนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณิฯ กนิฏฺโฐ ‘‘อหํ ตาว ตรุโณ, วุฑฺฒกาเล วิปสฺสนาธุรํ ปูเรสฺสามี’’ติ คนฺถธุรํ ปฏฺฐเปตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคณฺหิฯ ตสฺส ปริยตฺติํ นิสฺสาย มหาปริวาโร, ปริวารํ นิสฺสาย ลาโภ อุทปาทิฯ โส พาหุสจฺจมเทน มตฺโต ลาภตณฺหาย อภิภูโต อติปณฺฑิตมานิตาย ปเรหิ วุตฺตํ กปฺปิยมฺปิ ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ วเทติ, อกปฺปิยมฺปิ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ วเทติ, สาวชฺชมฺปิ ‘‘อนวชฺช’’นฺติ, อนวชฺชมฺปิ ‘‘สาวชฺช’’นฺติฯ โส เปสเลหิ ภิกฺขูหิ ‘‘มา, อาวุโส กปิล, เอวํ อวจา’’ติ วตฺวา ธมฺมญฺจ วินยญฺจ ทสฺเสตฺวา โอวทิยมาโนปิ ‘‘ตุมฺเห กิํ ชานาถ, ริตฺตมุฏฺฐิสทิสา’’ติอาทีนิ วตฺวา ขุํเสนฺโต วมฺเภนฺโต จรติฯ อถสฺส ภาตุ สาคตตฺเถรสฺสาปิ ภิกฺขู ตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ โสปิ นํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อาวุโส กปิล, ตุมฺหาทิสานญฺหิ สมฺมาปฏิปตฺติ สาสนสฺส อายุ นาม, ตสฺมา ปฏิปตฺติํ ปหาย กปฺปิยาทีนิ ปฏิพาหนฺโต มา เอวํ อวจา’’ติ โอวทิฯ โส ตสฺสปิ วจนํ นาทิยิฯ เอวํ สนฺเตปิ เถโร ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โอวทิตฺวา โอวาทํ อคณฺหนฺตํ ‘‘นายํ มม วจนํ กโรตี’’ติ ญตฺวา ‘‘เตน, อาวุโส, ปญฺญายิสฺสสิ สเกน กมฺเมนา’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ ฯ ตโต ปฏฺฐาย นํ อญฺเญ เปสลา ภิกฺขู ฉฑฺฑยิํสุฯ

โส ทุราจาโร หุตฺวา ทุราจารปริวุโต วิหรนฺโต เอกทิวสํ อุโปสถคฺเค ‘‘ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามี’’ติ พีชนิํ อาทาย ธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘วตฺตติ, อาวุโส, เอตฺถ สนฺนิปติตานํ ภิกฺขูนํ ปาติโมกฺข’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โก อตฺโถ อิมสฺส ปฏิวจเนน ทินฺเนนา’’ติ ตุณฺหีภูเต ภิกฺขู ทิสฺวา, ‘‘อาวุโส, ธมฺโม วา วินโย วา นตฺถิ, ปาติโมกฺเขน สุเตน วา อสุเตน วา โก อตฺโถ’’ติ วตฺวา อาสนา วุฏฺฐหิฯ เอวํ โส กสฺสปสฺส ภควโต ปริยตฺติสาสนํ โอสกฺกาเปสิฯ สาคตตฺเถโรปิ ตทเหว ปรินิพฺพายิฯ กปิโล อายุปริโยสาเน อวีจิมฺหิ มหานิรเย นิพฺพตฺติฯ สาปิสฺส มาตา จ ภคินี จ ตสฺเสว ทิฏฺฐานุคติํ อาปชฺชิตฺวา เปสเล ภิกฺขู อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา ตตฺเถว นิพฺพตฺติํสุฯ

ตสฺมิํ ปน กาเล ปญฺจสตา ปุริสา คามฆาตกาทีนิ กตฺวา โจริกาย ชีวนฺตา ชนปทมนุสฺเสหิ อนุพทฺธา ปลายมานา อรญฺญํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ กิญฺจิ ปฏิสรณํ อปสฺสนฺตา อญฺญตรํ อารญฺญิกํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ปฏิสรณํ โน, ภนฺเต, โหถา’’ติ วทิํสุฯ เถโร ‘‘ตุมฺหากํ สีลสทิสํ ปฏิสรณํ นาม นตฺถิ, สพฺเพปิ ปญฺจสีลานิ สมาทิยถา’’ติ อาหฯ เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สีลานิ สมาทิยิํสุฯ อถ เน เถโร โอวทิ – ‘‘อิทานิ ตุมฺเห สีลวนฺตา, ชีวิตเหตุปิ โว เนว สีลํ อติกฺกมิตพฺพํ, น มโนปโทโส กาตพฺโพ’’ติฯ เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิํสุฯ อถ เน ชนปทมนุสฺสา ตํ ฐานํ ปตฺวา อิโต จิโต จ ปริเยสมานา เต โจเร ทิสฺวา สพฺเพ เต ชีวิตา โวโรเปสุํฯ เต กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺติํสุ, โจรเชฏฺฐโก เชฏฺฐกเทวปุตฺโต อโหสิฯ

เต อนุโลมปฏิโลมวเสน เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวโลเก สํสริตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาวตฺถินครทฺวาเร ปญฺจสตกุลิเก เกวฏฺฏคาเม นิพฺพตฺติํสุฯ เชฏฺฐกเทวปุตฺโต เกวฏฺฏเชฏฺฐกสฺส เคเห ปฏิสนฺธิํ คณฺหิ, อิตเร อิตเรสุฯ เอวํ เตสํ เอกทิวเสเยว ปฏิสนฺธิคหณญฺจ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนญฺจ อโหสิฯ

เกวฏฺฏเชฏฺฐโก ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมสฺมิํ คาเม อญฺเญปิ ทารกา อชฺช ชาตา’’ติ ปริเยสาเปตฺวา เตสํ ชาตภาวํ ญตฺวา ‘‘เอเต มม ปุตฺตสฺส สหายกา ภวิสฺสนฺตี’’ติ สพฺเพสํ โปสาวนิกํ ทาเปสิฯ เต สพฺเพปิ สหปํสุกีฬกา สหายกา หุตฺวา อนุปุพฺเพน วยปฺปตฺตา อเหสุํฯ เตสํ เกวฏฺฏเชฏฺฐกปุตฺโตว ยสโต จ เตชโต จ อคฺคปุริโส อโหสิฯ

กปิโลปิ เอกํ พุทฺธนฺตรํ นิรเย ปจฺจิตฺวา วิปากาวเสเสน ตสฺมิํ กาเล อจิรวติยา สุวณฺณวณฺโณ ทุคฺคนฺธมุโข มจฺโฉ หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ อเถกทิวสํ เต สหายกา ‘‘มจฺเฉ พนฺธิสฺสามา’’ติ ชาลาทีนิ คเหตฺวา นทิยา ขิปิํสุฯ อถ เนสํ อนฺโตชาลํ โส มจฺโฉ ปาวิสิ ฯ ตํ ทิสฺวา สพฺเพ เกวฏฺฏคามวาสิโน อุจฺจาสทฺทมกํสุ – ‘‘ปุตฺตา โน ปฐมํ มจฺเฉ พนฺธนฺตา สุวณฺณมจฺฉํ พนฺธิํสุ, อิทานิ โน ราชา พหุธนํ ทสฺสตี’’ติฯ เตปิ โข สหายกา มจฺฉํ นาวาย ปกฺขิปิตฺวา นาวํ อุกฺขิปิตฺวา รญฺโญ สนฺติกํ อคมํสุฯ รญฺญาปิ ตํ ทิสฺวาว ‘‘กิํ เอต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘มจฺโฉ, เทวา’’ติ อาหํสุฯ ราชา สุวณฺณวณฺณํ มจฺฉํ ทิสฺวา ‘‘สตฺถา เอตสฺส สุวณฺณวณฺณการณํ ชานิสฺสตี’’ติ มจฺฉํ คาหาเปตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิฯ มจฺเฉน มุเข วิวฏมตฺเตเยว สกลเชตวนํ อติวิย ทุคฺคนฺธํ อโหสิฯ ราชา สตฺถารํ ปุจฺฉิ – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, มจฺโฉ สุวณฺณวณฺโณ ชาโต, กสฺมา จสฺส มุขโต ทุคฺคนฺโธ วายตี’’ติ?

อยํ, มหาราช, กสฺสปภควโต ปาวจเน กปิโล นาม ภิกฺขุ อโหสิ พหุสฺสุโต มหาปริวาโร ลาภตณฺหาย อภิภูโต อตฺตโน วจนํ อคณฺหนฺตานํ อกฺโกสกปริภาสโก, ตสฺส จ ภควโต สาสนํ โอสกฺกาเปสิ, โส เตน กมฺเมน อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา วิปากาวเสเสน อิทานิ มจฺโฉ หุตฺวา ชาโตฯ ยํ ปน โส ทีฆรตฺตํ พุทฺธวจนํ วาเจสิ, พุทฺธสฺส จ คุณํ กเถสิ, ตสฺส นิสฺสนฺเทน อิมํ สุวณฺณวณฺณํ ปฏิลภิฯ ยํ ภิกฺขูนํ อกฺโกสกปริภาสโก อโหสิ, เตนสฺส มุขโต ทุคฺคนฺโธ วายติฯ ‘‘กถาเปมิ นํ, มหาราชา’’ติ? ‘‘กถาเปถ, ภนฺเต’’ติฯ อถ นํ สตฺถา ปุจฺฉิ – ‘‘ตฺวํสิ กปิโล’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อหํ กปิโล’’ติฯ ‘‘กุโต อาคโตสี’’ติ? ‘‘อวีจิมหานิรยโต, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เชฏฺฐภาติโก เต สาคโต กุหิํ คโต’’ติ? ‘‘ปรินิพฺพุโต, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘มาตา ปน เต สาธินี กห’’นฺติ? ‘‘มหานิรเย นิพฺพตฺตา, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กนิฏฺฐภคินี จ เต ตาปนา กห’’นฺติ? ‘‘มหานิรเย นิพฺพตฺตา, ภนฺเต’’ติฯ

‘‘อิทานิ ตฺวํ กหํ คมิสฺสสี’’ติ? ‘‘อวีจิมหานิรยเมว, ภนฺเต’’ติ วตฺวา วิปฺปฏิสาราภิภูโต นาวํ สีเสน ปหริตฺวา ตาวเทว กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติฯ มหาชโน สํวิคฺโค อโหสิ โลมหฏฺฐชาโตฯ

อถ ภควา ตสฺมิํ ขเณ สนฺนิปติตาย ปริสาย จิตฺตาจารํ โอโลเกตฺวา ตงฺขณานุรูปํ ธมฺมํ เทเสตุํ ‘‘ธมฺมจริยํ พฺรหฺมจริยํ, เอตทาหุ วสุตฺตม’’นฺติ สุตฺตนิปาเต (สุ. นิ. 276) กปิลสุตฺตํ กเถตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

[334]

‘‘มนุชสฺส ปมตฺตจาริโน, ตณฺหา วฑฺฒติ มาลุวา วิย;

โส ปฺลวตี หุรา หุรํ, ผลมิจฺฉํว วนสฺมิ วานโรฯ

[335]

‘‘ยํ เอสา สหเต ชมฺมี, ตณฺหา โลเก วิสตฺติกา;

โสกา ตสฺส ปวฑฺฒนฺติ, อภิวฏฺฐํว พีรณํฯ

[336]

‘‘โย เจตํ สหเต ชมฺมิํ, ตณฺหํ โลเก ทุรจฺจยํ;

โสกา ตมฺหา ปปตนฺติ, อุทพินฺทุว โปกฺขราฯ

[337]

‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;

ตณฺหาย มูลํ ขณถ, อุสีรตฺโถว พีรณํ;

มา โว นฬํว โสโตว, มาโร ภญฺชิ ปุนปฺปุน’’นฺติฯ

ตตฺถ ปมตฺตจาริโนติ สติโวสฺสคฺคลกฺขเณน ปมาเทน ปมตฺตจาริสฺส ปุคฺคลสฺส เนว ฌานํ น วิปสฺสนา น มคฺคผลานิ วฑฺฒนฺติฯ ยถา ปน รุกฺขํ สํสิพฺพนฺตี ปริโยนนฺธนฺตี ตสฺส วินาสาย มาลุวาลตา วฑฺฒติ , เอวมสฺส ฉ ทฺวารานิ นิสฺสาย ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต ตณฺหา วฑฺฒตีติ อตฺโถฯ โส ปฺลวตี หุรา หุรนฺติ โส ตณฺหาวสิโก ปุคฺคโล ภเว ภเว อุปฺลวติ ธาวติฯ ยถา กิํ วิยาติ? ผลมิจฺฉํว วนสฺมิ วานโร, ยถา รุกฺขผลํ อิจฺฉนฺโต วานโร วนสฺมิํ ธาวติ, ตสฺส ตสฺส รุกฺขสฺส สาขํ คณฺหาติ, ตํ มุญฺจิตฺวา อญฺญํ คณฺหาติ, ตมฺปิ มุญฺจิตฺวา อญฺญํ คณฺหาติ, ‘‘สาขํ อลภิตฺวา สนฺนิสินฺโน’’ติ วตฺตพฺพตํ นาปชฺชติ, เอวเมว ตณฺหาวสิโก ปุคฺคโล หุรา หุรํ ธาวนฺโต ‘‘อารมฺมณํ อลภิตฺวา ตณฺหาย อปวตฺตํ ปตฺโต’’ติ วตฺตพฺพตํ นาปชฺชติฯ

นฺติ ยํ ปุคฺคลํ เอสา ลามกภาเวน ชมฺมี วิสาหารตาย วิสปุปฺผตาย วิสผลตาย วิสปริโภคตาย รูปาทีสุ วิสตฺตตาย อาสตฺตตาย วิสตฺติกาติ สงฺขฺยํ คตา ฉทฺวาริกตณฺหา อภิภวติฯ ยถา นาม วสฺสาเน ปุนปฺปุนํ วสฺสนฺเตน เทเวน อภิวฏฺฐํ พีรณติณํ วฑฺฒติ, เอวํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส อนฺโต วฏฺฏมูลกา โสกา อภิวฑฺฒนฺตีติ อตฺโถฯ

ทุรจฺจยนฺติ โย ปน ปุคฺคโล เอวํ วุตฺตปฺปการํ อติกฺกมิตุํ ปชหิตุํ ทุกฺกรตาย ทุรจฺจยํ ตณฺหํ สหติ อภิภวติ, ตมฺหา ปุคฺคลา วฏฺฏมูลกา โสกา ปปตนฺติฯ ยถา นาม โปกฺขเร ปทุมปตฺเต ปติตํ อุทกพินฺทุ น ปติฏฺฐาติ, เอวํ น ปติฏฺฐหนฺตีติ อตฺโถฯ

ตํ โว วทามีติ เตน การเณน อหํ ตุมฺเห วทามิฯ ภทฺทํ โวติ ภทฺทํ ตุมฺหากํ โหตุ, มา อหํ กปิโล วิย วินาสํ ปาปุณถาติ อตฺโถฯ มูลนฺติ อิมิสฺสา ฉทฺวาริกตณฺหาย อรหตฺตมคฺคญาเณน มูลํ ขณถฯ กิํ วิยาติ? อุสีรตฺโถว พีรณํ, ยถา อุสีเรน อตฺถิโก ปุริโส มหนฺเตน กุทาเลน พีรณํ ขณติ, เอวมสฺสา มูลํ ขณถาติ อตฺโถฯ มา โว นฬํว โสโตว, มาโร ภญฺชิ ปุนปฺปุนนฺติ มา ตุมฺเห นทีโสเต ชาตํ นฬํ มหาเวเคน อาคโต นทีโสโต วิย กิเลสมาโร มรณมาโร เทวปุตฺตมาโร จ ปุนปฺปุนํ ภญฺชตูติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน ปญฺจสตาปิ เกวฏฺฏปุตฺตา สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ ปตฺถยมานา สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา น จิรสฺเสว ทุกฺขสฺสนฺตํ กตฺวา สตฺถารา สทฺธิํ อาเนญฺชวิหารสมาปตฺติธมฺมปริโภเคน เอกปริโภคา อเหสุนฺติฯ

กปิลมจฺฉวตฺถุ ปฐมํฯ

2. สูกรโปติกาวตฺถุ

ยถาปิ มูเลติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต คูถสูกรโปติกํ อารพฺภ กเถสิฯ