เมนู

ฆรสูกโร หิ ทหรกาลโต ปฏฺฐาย โปสิยมาโน ถูลสรีรกาเล เคหา พหิ นิกฺขมิตุํ อลภนฺโต เหฏฺฐามญฺจาทีสุ สมฺปริวตฺติตฺวา อสฺสสนฺโต ปสฺสสนฺโต สยเตวฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทา ปุริโส มิทฺธี จ โหติ มหคฺฆโส จ, นิวาปปุฏฺโฐ มหาวราโห วิย จ อญฺเญน อิริยาปเถน ยาเปตุํ อสกฺโกนฺโต นิทฺทายนสีโล สมฺปริวตฺตสายี, ตทา โส ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ ตีณิ ลกฺขณานิ มนสิกาตุํ น สกฺโกติฯ เตสํ อมนสิการา มนฺทปญฺโญ ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปติ, คพฺภวาสโต น ปริมุจฺจตีติฯ เทสนาวสาเน สตฺถา รญฺโญ อุปการวเสน –

‘‘มนุชสฺส สทา สตีมโต, มตฺตํ ชานโต ลทฺธโภชเน;

ตนุกสฺส ภวนฺติ เวทนา, สณิกํ ชีรติ อายุ ปาลย’’นฺติฯ (สํ. นิ. 1.124);

อิมํ คาถํ วตฺวา อุตฺตรมาณวํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา ‘‘อิมํ คาถํ รญฺโญ โภชนเวลาย ปเวเทยฺยาสิ, อิมินา อุปาเยน โภชนํ ปริหาเปยฺยาสี’’ติ อุปายํ อาจิกฺขิ, โส ตถา อกาสิฯ ราชา อปเรน สมเยน นาฬิโกทนปรมตาย สณฺฐิโต สุสลฺลหุกสรีโร สุขปฺปตฺโต สตฺถริ อุปฺปนฺนวิสฺสาโส สตฺตาหํ อสทิสทานํ ปวตฺเตสิฯ ทานานุโมทนาย มหาชโน มหนฺตํ วิเสสํ ปาปุณีติฯ

ปเสนทิโกสลวตฺถุ จตุตฺถํฯ

5. สานุสามเณรวตฺถุ

อิทํ ปุเรติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สานุํ นาม สามเณรํ อารพฺภ กเถสิฯ

โส กิร เอกิสฺสา อุปาสิกาย เอกปุตฺตโก อโหสิฯ อถ นํ สา ทหรกาเลเยว ปพฺพาเชสิฯ โส ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺฐาย สีลวา อโหสิ วตฺตสมฺปนฺโน, อาจริยุปชฺฌายอาคนฺตุกานํ วตฺตํ กตเมว โหติฯ มาสสฺส อฏฺฐเม ทิวเส ปาโตว อุฏฺฐาย อุทกมาฬเก อุทกํ อุปฏฺฐาเปตฺวา ธมฺมสฺสวนคฺคํ สมฺมชฺชิตฺวา อาสนํ ปญฺญาเปตฺวา ทีปํ ชาเลตฺวา มธุรสฺสเรน ธมฺมสฺสวนํ โฆเสติฯ

ภิกฺขู ตสฺส ถามํ ญตฺวา ‘‘สรภญฺญํ ภณ สามเณรา’’ติ อชฺเฌสนฺติฯ โส ‘‘มยฺหํ หทยวาโต รุชติ, กาโย วา พาธตี’’ติ กิญฺจิ ปจฺจาหารํ อกตฺวา ธมฺมาสนํ อภิรูหิตฺวา อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย สรภญฺญํ วตฺวา โอตรนฺโต ‘‘มยฺหํ มาตาปิตูนํ อิมสฺมิํ สรภญฺเญ ปตฺติํ ทมฺมี’’ติ วทติฯ ตสฺส มนุสฺสา มาตาปิตโร ปตฺติยา ทินฺนภาวํ น ชานนฺติฯ อนนฺตรตฺตภาเว ปนสฺส มาตา ยกฺขินี หุตฺวา นิพฺพตฺตา, สา เทวตาหิ สทฺธิํ อาคนฺตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ‘‘สามเณเรน ทินฺนปตฺติํ อนุโมทามิ, ตาตา’’ติ วทติฯ ‘‘สีลสมฺปนฺโน จ นาม ภิกฺขุ สเทวกสฺส โลกสฺส ปิโย โหตี’’ติ ตสฺมิํ สามเณเร เทวตา สลชฺชา สคารวา มหาพฺรหฺมานํ วิย อคฺคิกฺขนฺธํ วิย จ นํ มญฺญนฺติฯ สามเณเร คารเวน ตญฺจ ยกฺขินิํ ครุกํ กตฺวา ปสฺสนฺติฯ ตา ธมฺมสฺสวนยกฺขสมาคมาทีสุ ‘‘สานุมาตา สานุมาตา’’ติ ยกฺขินิยา อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑํ เทนฺติฯ มเหสกฺขาปิ ยกฺขา ตํ ทิสฺวา มคฺคา โอกฺกมนฺติ, อาสนา วุฏฺฐหนฺติฯ

อถ โข สามเณโร วุฑฺฒิมนฺวาย ปริปกฺกินฺทฺริโย อนภิรติยา ปีฬิโต อนภิรติํ วิโนเทตุํ อสกฺโกนฺโต ปรุฬฺหเกสนโข กิลิฏฺฐนิวาสนปารุปโน กสฺสจิ อนาโรเจตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เอกโกว มาตุฆรํ อคมาสิฯ อุปาสิกา ปุตฺตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘กิํ, ตาต, ตฺวํ ปุพฺเพ อาจริยุปชฺฌาเยหิ วา ทหรสามเณเรหิ วา สทฺธิํ อิธาคจฺฉสิ, กสฺมา เอกโกว อชฺช อาคโตสี’’ติ? โส อุกฺกณฺฐิตภาวํ อาโรเจสิฯ สา อุปาสิกา นานปฺปกาเรน ฆราวาเส อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ปุตฺตํ โอวทมานาปิ สญฺญาเปตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘อปฺเปว นาม อตฺตโน ธมฺมตายปิ สลฺลกฺเขยฺยา’’ติ อนุยฺโยเชตฺวา ‘‘ติฏฺฐ, ตาต, ยาว เต ยาคุภตฺตํ สมฺปาเทมิ, ยาคุํ ปิวิตฺวา กตภตฺตกิจฺจสฺส เต มนาปานิ วตฺถานิ นีหริตฺวา ทสฺสามี’’ติ วตฺวา อาสนํ ปญฺญาเปตฺวา อทาสิฯ นิสีทิ สามเณโรฯ อุปาสิกา มุหุตฺเตเนว ยาคุขชฺชกํ สมฺปาเทตฺวา อทาสิฯ อถ ‘‘ภตฺตํ สมฺปาเทสฺสามี’’ติ อวิทูเร นิสินฺนา ตณฺฑุเล โธวติฯ

ตสฺมิํ สมเย สา ยกฺขินี ‘‘กหํ นุ โข สามเณโร, กจฺจิ ภิกฺขาหารํ ลภติ, โน’’ติ อาวชฺชมานา ตสฺส วิพฺภมิตุกามตาย นิสินฺนภาวํ ญตฺวา ‘‘สามเณโร เม มเหสกฺขานํ เทวตานํ อนฺตเร ลชฺชํ อุปฺปาเทยฺย, คจฺฉามิสฺส วิพฺภมเน อนฺตรายํ กริสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา ตสฺส สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา คีวํ ปริวตฺเตตฺวา เขเฬน ปคฺฆรนฺเตน ภูมิยํ นิปติฯ อุปาสิกา ปุตฺตสฺส ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา เวเคน คนฺตฺวา ปุตฺตํ อาลิงฺเคตฺวา อูรูสุ นิปชฺชาเปสิฯ สกลคามวาสิโน อาคนฺตฺวา พลิกมฺมาทีนิ กริํสุฯ อุปาสิกา ปน ปริเทวมานา อิมา คาถา อภาสิ –

‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺฐมี;

ปาฏิหาริยปกฺขญฺจ, อฏฺฐงฺคสุสมาคตํฯ

‘‘อุโปสถํ อุปวสนฺติ, พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ เย;

น เตหิ ยกฺขา กีฬนฺติ, อิติ เม อรหตํ สุตํ;

สา ทานิ อชฺช ปสฺสามิ, ยกฺขา กีฬนฺติ สานุนา’’ติฯ (สํ. นิ. 1.239);

อุปาสิกาย วจนํ สุตฺวา –

‘‘จาตุทฺทสิํ ปญฺจทสิํ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺฐมี;

ปาฏิหาริยปกฺขญฺจ, อฏฺฐงฺคสุสมาคตํฯ

‘‘อุโปสถํ อุปวสนฺติ, พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ เย;

น เตหิ ยกฺขา กีฬนฺติ, สาหุ เต อรหตํ สุต’’นฺติฯ (สํ. นิ. 1.239) –

วตฺวา อาห –

‘‘สานุํ ปพุทฺธํ วชฺชาสิ, ยกฺขานํ วจนํ อิทํ;

มากาสิ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโหฯ

‘‘สเจ จ ปาปกํ กมฺมํ, กริสฺสสิ กโรสิ วา;

น เต ทุกฺขา ปมุตฺยตฺถิ, อุปฺปจฺจาปิ ปลายโต’’ติฯ (สํ. นิ. 1.239);

เอวํ ปาปกํ กมฺมํ กตฺวา สกุณสฺส วิย อุปฺปติตฺวา ปลายโตปิ เต โมกฺโข นตฺถีติ วตฺวา สา ยกฺขินี สามเณรํ มุญฺจิฯ โส อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา มาตรํ เกเส วิกิริย อสฺสสนฺติํ ปสฺสสนฺติํ โรทมานํ สกลคามวาสิโน จ สนฺนิปติเต ทิสฺวา อตฺตโน ยกฺเขน คหิตภาวํ อชานนฺโต ‘‘อหํ ปุพฺเพ ปีเฐ นิสินฺโน, มาตา เม อวิทูเร นิสีทิตฺวา ตณฺฑุเล โธวิ, อิทานิ ปนมฺหิ ภูมิยํ นิปนฺโน, กิํ นุ โข เอต’’นฺติ นิปนฺนโกว มาตรํ อาห –

‘‘มตํ วา อมฺม โรทนฺติ, โย วา ชีวํ น ทิสฺสติ;

ชีวนฺตํ อมฺม ปสฺสนฺตี, กสฺมา มํ อมฺม โรทสี’’ติฯ (เถรคา. 44; สํ. นิ. 1.239);

อถสฺส มาตา วตฺถุกามกิเลสกาเม ปหาย ปพฺพชิตสฺส ปุน วิพฺภมนตฺถํ อาคมเน อาทีนวํ ทสฺเสนฺตี อาห –

‘‘มตํ วา ปุตฺต โรทนฺติ, โย วา ชีวํ น ทิสฺสติ;

โย จ กาเม จชิตฺวาน, ปุนราคจฺฉเต อิธ;

ตํ วาปิ ปุตฺต โรทนฺติ, ปุน ชีวํ มโต หิ โส’’ติฯ (สํ. นิ. 1.239);

เอวญฺจ ปน วตฺวา ฆราวาสํ กุกฺกุฬสทิสญฺเจว นรกสทิสญฺจ กตฺวา ฆราวาเส อาทีนวํ ทสฺเสนฺตี ปุน อาห –

‘‘กุกฺกุฬา อุพฺภโต ตาต, กุกฺกุฬํ ปติตุมิจฺฉสิ;

นรกา อุพฺภโต ตาต, นรกํ ปติตุมิจฺฉสี’’ติฯ (สํ. นิ. 1.239);

อถ นํ, ‘‘ปุตฺต, ภทฺทํ ตว โหตุ, มยา ปน ‘อยํ โน ปุตฺตโก ฑยฺหมาโน’ติ เคหา ภณฺฑํ วิย นีหริตฺวา พุทฺธสาสเน ปพฺพาชิโต, ฆราวาเส ปุน ฑยฺหิตุํ อิจฺฉสิฯ อภิธาวถ ปริตฺตายถ โนติ อิมมตฺถํ กสฺส อุชฺฌาปยาม กํ นิชฺฌาปยามา’’ติ ทีเปตุํ อิมํ คาถมาห –

‘‘อภิธาวถ ภทฺทนฺเต, กสฺส อุชฺฌาปยามเส;

อาทิตฺตา นีหตํ ภณฺฑํ, ปุน ฑยฺหิตุมิจฺฉสี’’ติฯ (สํ. นิ. 1.239);

โส มาตริ กเถนฺติยา กเถนฺติยา สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘นตฺถิ มยฺหํ คิหิภาเวน อตฺโถ’’ติ อาหฯ อถสฺส มาตา ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ตุฏฺฐา ปณีตโภชนํ โภเชตฺวา ‘‘กติวสฺโสสิ, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปริปุณฺณวสฺสภาวํ ญตฺวา ติจีวรํ ปฏิยาเทสิฯ โส ปริปุณฺณปตฺตจีวโร อุปสมฺปทํ ลภิฯ อถสฺส อจิรูปสมฺปนฺนสฺส สตฺถา จิตฺตนิคฺคเห อุสฺสาหํ ชเนนฺโต ‘‘จิตฺตํ นาเมตํ นานารมฺมเณสุ ทีฆรตฺตํ จาริกํ จรนฺตํ อนิคฺคณฺหนฺตสฺส โสตฺถิภาโว นาม นตฺถิ, ตสฺมา องฺกุเสน มตฺตหตฺถิโน วิย จิตฺตสฺส นิคฺคณฺหเน โยโค กรณีโย’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[326]

‘‘อิทํ ปุเร จิตฺตมจาริ จาริกํ,

เยนิจฺฉกํ ยตฺถกามํ ยถาสุขํ;

ตทชฺชหํ นิคฺคเหสฺสามิ โยนิโส,

หตฺถิปฺปภินฺนํ วิย องฺกุสคฺคโห’’ติฯ

ตสฺสตฺโถ – อิทํ จิตฺตํ นาม อิโต ปุพฺเพ รูปาทีสุ จ อารมฺมเณสุ ราคาทีนํ เยน การเณน อิจฺฉติ, ยตฺเถวสฺส กาโม อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วเสน ยตฺถ กามํ ยถารุจิ จรนฺตสฺส สุขํ โหติ, ตเถว วิจรณโต ยถาสุขํ ทีฆรตฺตํ จาริกํ จริ, ตํ อชฺช อหํ ปภินฺนํ มตฺตหตฺถิํ หตฺถาจริยสงฺขาโต เฉโก องฺกุสคฺคโห องฺกุเสน วิย โยนิโสมนสิกาเรน นิคฺคเหสฺสามิ, นาสฺส วีติกฺกมิตุํ ทสฺสามีติฯ

เทสนาวสาเน สานุนา สทฺธิํ ธมฺมสฺสวนาย อุปสงฺกมนฺตานํ พหูนํ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิฯ โสปายสฺมา เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา มหาธมฺมกถิโก หุตฺวา วีสวสฺสสตํ ฐตฺวา สกลชมฺพุทีปํ สงฺโขเภตฺวา ปรินิพฺพายีติฯ

สานุสามเณรวตฺถุ ปญฺจมํฯ

6. ปาเวยฺยกหตฺถิวตฺถุ

อปฺปมาทรตาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรญฺโญ ปาเวยฺยกํ นาม หตฺถิํ อารพฺภ กเถสิฯ

โส กิร หตฺถี ตรุณกาเล มหาพโล หุตฺวา อปเรน สมเยน ชราวาตเวคพฺภาหโต หุตฺวา เอกํ มหนฺตํ สรํ โอรุยฺห กลเล ลคฺคิตฺวา อุตฺตริตุํ นาสกฺขิฯ มหาชโน ตํ ทิสฺวา ‘‘เอวรูโปปิ นาม หตฺถี อิมํ ทุพฺพลภาวํ ปตฺโต’’ติ กถํ สมุฏฺฐาเปสิฯ ราชา ตํ ปวตฺติํ สุตฺวา หตฺถาจริยํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, อาจริย, ตํ หตฺถิํ กลลโต อุทฺธราหี’’ติฯ โส คนฺตฺวา ตสฺมิํ ฐาเน สงฺคามสีสํ ทสฺเสตฺวา สงฺคามเภริํ อาโกฏาเปสิฯ มานชาติโก หตฺถี เวเคนุฏฺฐาย ถเล ปติฏฺฐหิฯ ภิกฺขู ตํ การณํ ทิสฺวา สตฺถุ อาโรเจสุํฯ