เมนู

3. ปริชิณฺณพฺราหฺมณปุตฺตวตฺถุ

ธนปาโลติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สาวตฺถิยํ วิหรนฺโต อญฺญตรสฺส ปริชิณฺณพฺราหฺมณสฺส ปุตฺเต อารพฺภ กเถสิฯ

สาวตฺถิยํ กิเรโก พฺราหฺมโณ อฏฺฐสตสหสฺสวิภโว วยปฺปตฺตานํ จตุนฺนํ ปุตฺตานํ อาวาหํ กตฺวา จตฺตาริ สตสหสฺสานิ อทาสิฯ อถสฺส พฺราหฺมณิยา กาลกตาย ปุตฺตา สมฺมนฺตยิํสุ – ‘‘สเจ อยํ อญฺญํ พฺราหฺมณิํ อาเนสฺสติ, ตสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตานํ วเสน กุลสนฺตกํ ภิชฺชิสฺสติ, หนฺท นํ มยํ สงฺคณฺหิสฺสามา’’ติ เต ตํ ปณีเตหิ ฆาสจฺฉาทนาทีหิ อุปฏฺฐหนฺตา หตฺถปาทสมฺพาหนาทีนิ กโรนฺตา อุปฏฺฐหิตฺวา เอกทิวสมสฺส ทิวา นิทฺทายิตฺวา วุฏฺฐิตสฺส หตฺถปาเท สมฺพาหนฺตา ปาฏิเยกฺกํ ฆราวาเส อาทีนวํ วตฺวา ‘‘มยํ ตุมฺเห อิมินา นีหาเรน ยาวชีวํ อุปฏฺฐหิสฺสาม, เสสธนมฺปิ โน เทถา’’ติ ยาจิํสุฯ พฺราหฺมโณ ปุน เอเกกสฺส สตสหสฺสํ ทตฺวา อตฺตโน นิวตฺถปารุปนมตฺตํ ฐเปตฺวา สพฺพํ อุปโภคปริโภคํ จตฺตาโร โกฏฺฐาเส กตฺวา นิยฺยาเทสิฯ ตํ เชฏฺฐปุตฺโต กติปาหํ อุปฏฺฐหิฯ อถ นํ เอกทิวสํ นฺหตฺวา อาคจฺฉนฺตํ ทฺวารโกฏฺฐเก ฐตฺวา สุณฺหา เอวมาห – ‘‘กิํ ตยา เชฏฺฐปุตฺตสฺส สตํ วา สหสฺสํ วา อติเรกํ ทินฺนํ อตฺถิ, นนุ สพฺเพสํ ทฺเว ทฺเว สตสหสฺสานิ ทินฺนานิ, กิํ เสสปุตฺตานํ ฆรสฺส มคฺคํ น ชานาสี’’ติฯ โสปิ ‘‘นสฺส วสลี’’ติ กุชฺฌิตฺวา อญฺญสฺส ฆรํ อคมาสิฯ ตโตปิ กติปาหจฺจเยน อิมินาว อุปาเยน ปลาปิโต อญฺญสฺสาติ เอวํ เอกฆรมฺปิ ปเวสนํ อลภมาโน ปณฺฑรงฺคปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขาย จรนฺโต กาลานมจฺจเยน ชราชิณฺโณ ทุพฺโภชนทุกฺขเสยฺยาหิ มิลาตสรีโร ภิกฺขาย จรนฺโต อาคมฺม ปีฐิกาย นิปนฺโน นิทฺทํ โอกฺกมิตฺวา อุฏฺฐาย นิสินฺโน อตฺตานํ โอโลเกตฺวา ปุตฺเตสุ อตฺตโน ปติฏฺฐํ อปสฺสนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ กิร โคตโม อพฺภากุฏิโก อุตฺตานมุโข สุขสมฺภาโส ปฏิสนฺถารกุสโล, สกฺกา สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฏิสนฺถารํ ลภิตุ’’นฺติฯ โส นิวาสนปารุปนํ สณฺฐาเปตฺวา ภิกฺขภาชนํ คเหตฺวา ทณฺฑมาทาย ภควโต สนฺติกํ อคมาสิฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ (สํ. นิ. 1.200) –

อถ โข อญฺญตโร พฺราหฺมณมหาสาโล ลูโข ลูขปาวุรโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ สตฺถา เอกมนฺตํ นิสินฺเนน เตน สทฺธิํ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอตทโวจ – ‘‘กินฺนุ ตฺวํ , พฺราหฺมณ, ลูโข ลูขปาวุรโณ’’ติฯ อิธ เม, โภ โคตม, จตฺตาโร ปุตฺตา , เต มํ ทาเรหิ สํปุจฺฉ ฆรา นิกฺขาเมนฺตีติฯ เตน หิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อิมา คาถาโย ปริยาปุณิตฺวา สภายํ มหาชนกาเย สนฺนิปติเต ปุตฺเตสุ จ สนฺนิสินฺเนสุ ภาสสฺสุ –

‘‘เยหิ ชาเตหิ นนฺทิสฺสํ, เยสญฺจ ภวมิจฺฉิสํ;

เต มํ ทาเรหิ สํปุจฺฉ, สาว วาเรนฺติ สูกรํฯ

‘‘อสนฺตา กิร มํ ชมฺมา, ตาต ตาตาติ ภาสเร;

รกฺขสา ปุตฺตรูเปน, เต ชหนฺติ วโยคตํฯ

‘‘อสฺโสว ชิณฺโณ นิพฺโภโค, ขาทนา อปนียติ;

พาลกานํ ปิตา เถโร, ปราคาเรสุ ภิกฺขติฯ

‘‘ทณฺโฑว กิร เม เสยฺโย, ยญฺเจ ปุตฺตา อนสฺสวา;

จณฺฑมฺปิ โคณํ วาเรติ, อโถ จณฺฑมฺปิ กุกฺกุรํฯ

‘‘อนฺธกาเร ปุเร โหติ, คมฺภีเร คาธเมธติ;

ทณฺฑสฺส อานุภาเวน, ขลิตฺวา ปติติฏฺฐตี’’ติฯ (สํ. นิ. 1.200);

โส ภควโต สนฺติเก ตา คาถาโย อุคฺคณฺหิตฺวา ตถารูเป พฺราหฺมณานํ สมาคมทิวเส สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเตสุ ปุตฺเตสุ ตํ สภํ โอคาหิตฺวา พฺราหฺมณานํ มชฺเฌ มหารเหสุ อาสเนสุ นิสินฺเนสุ ‘‘อยํ เม กาโล’’ติ สภาย มชฺเฌ ปวิสิตฺวา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา ‘‘อหํ, โภ, ตุมฺหากํ คาถาโย ภาสิตุกาโม, สุณิสฺสถา’’ติ วตฺวา ‘‘ภาสสฺสุ, พฺราหฺมณ, สุโณมา’’ติ วุตฺเต ฐิตโกว อภาสิฯ เตน จ สมเยน มนุสฺสานํ วตฺตํ โหติ ‘‘โย มาตาปิตูนํ สนฺตกํ ขาทนฺโต มาตาปิตโร น โปเสติ, โส มาเรตพฺโพ’’ติฯ ตสฺมา เต พฺราหฺมณปุตฺตา ปิตุ ปาเทสุ ปติตฺวา ‘‘ชีวิตํ โน, ตาต, เทถา’’ติ ยาจิํสุฯ โส ปิตุ หทยมุทุตาย ‘‘มา เม, โภ, ปุตฺตเก วินาสยิตฺถ, โปเสสฺสนฺติ ม’’นฺติ อาหฯ

อถสฺส ปุตฺเต มนุสฺสา อาหํสุ – ‘‘สเจ, โภ , อชฺช ปฏฺฐาย ปิตรํ น สมฺมา ปฏิชคฺคิสฺสถ, ฆาเตสฺสาม โว’’ติฯ เต ภีตา ปิตรํ ปีเฐ นิสีทาเปตฺวา สยํ อุกฺขิปิตฺวา เคหํ เนตฺวา สรีรํ เตเลน อพฺภญฺชิตฺวา อุพฺพฏฺเฏตฺวา คนฺธจุณฺณาทีหิ นฺหาเปตฺวา พฺราหฺมณิโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อชฺช ปฏฺฐาย อมฺหากํ ปิตรํ สมฺมา ปฏิชคฺคถ, สเจ ตุมฺเห ปมาทํ อาปชฺชิสฺสถ, นิคฺคณฺหิสฺสาม โว’’ติ วตฺวา ปณีตโภชนํ โภเชสุํฯ

พฺราหฺมโณ สุโภชนญฺจ สุขเสยฺยญฺจ อาคมฺม กติปาหจฺจเยน สญฺชาตพโล ปีณินฺทฺริโย อตฺตภาวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ เม สมฺปตฺติ สมณํ โคตมํ นิสฺสาย ลทฺธา’’ติ ปณฺณาการตฺถาย เอกํ ทุสฺสยุคํ อาทาย ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา กตปฏิสนฺถาโร เอกมนฺตํ นิสินฺโน ตํ ทุสฺสยุคํ ภควโต ปาทมูเล ฐเปตฺวา ‘‘มยํ, โภ โคตม, พฺราหฺมณา นาม อาจริยสฺส อาจริยธนํ ปริเยสาม, ปฏิคฺคณฺหาตุ เม ภวํ โคตโม อาจริโย อาจริยธน’’นฺติ อาหฯ ภควา ตสฺส อนุกมฺปาย ตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ธมฺมํ เทเสสิฯ เทสนาวสาเน พฺราหฺมโณ สรเณสุ ปติฏฺฐาย เอวมาห – ‘‘โภ โคตม, มยฺหํ ปุตฺเตหิ จตฺตาริ ธุวภตฺตานิ ทินฺนานิ, ตโต อหํ ทฺเว ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘กลฺยาณํ, พฺราหฺมณ, มยํ ปน รุจฺจนฏฺฐานเมว คมิสฺสามา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิฯ พฺราหฺมโณ ฆรํ คนฺตฺวา ปุตฺเต อาห – ‘‘ตาตา, สมโณ โคตโม มยฺหํ สหาโย, ตสฺส เม ทฺเว ธุวภตฺตานิ ทินฺนานิ, ตุมฺเห ตสฺมิํ สมฺปตฺเต มา ปมชฺชิตฺถา’’ติฯ เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิํสุฯ

สตฺถา ปุนทิวเส ปิณฺฑาย จรนฺโต เชฏฺฐปุตฺตสฺส ฆรทฺวารํ อคมาสิฯ โส สตฺถารํ ทิสฺวา ปตฺตมาทาย ฆรํ ปเวเสตฺวา มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา ปณีตโภชนมทาสิฯ สตฺถา ปุนทิวเส อิตรสฺส อิตรสฺสาติ ปฏิปาฏิยา สพฺเพสํ ฆรานิ อคมาสิฯ สพฺเพ เต ตเถว สกฺการํ อกํสุฯ เอกทิวสํ เชฏฺฐปุตฺโต มงฺคเล ปจฺจุปฏฺฐิเต ปิตรํ อาห – ‘‘ตาต, กสฺส มงฺคลํ เทมา’’ติ? ‘‘นาหํ อญฺเญ ชานามิ, สมโณ โคตโม มยฺหํ สหาโย’’ติฯ ‘‘เตน หิ ตํ สฺวาตนาย ปญฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธิํ นิมนฺเตถา’’ติฯ พฺราหฺมโณ ตถา อกาสิฯ สตฺถา ปุนทิวเส สปริวาโร ตสฺส เคหํ อคมาสิฯ

โส หริตุปลิตฺเต สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเต เคเห พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา อปฺโปทกมธุปายเสน เจว ปณีเตน ขาทนีเยน จ ปริวิสิฯ อนฺตราภตฺตสฺมิํเยว พฺราหฺมณสฺส จตฺตาโร ปุตฺตา สตฺถุ สนฺติเก นิสีทิตฺวา อาหํสุ – ‘‘โภ โคตม, มยํ อมฺหากํ ปิตรํ ปฏิชคฺคาม น ปมชฺชาม , ปสฺสถิมสฺส อตฺตภาว’’นฺติฯ

สตฺถา ‘‘กลฺยาณํ โว กตํ, มาตาปิตุโปสนํ นาม โปราณกปณฺฑิตานํ อาจิณฺณเมวา’’ติ วตฺวา ‘‘ตสฺส นาคสฺส วิปฺปวาเสน, วิรูฬฺหา สลฺลกี จ กุฏชา จา’’ติ อิมํ เอกาทสนิปาเต มาตุโปสกนาคราชชาตกํ (จริยา. 2.1 อาทโย; ชา. 1.11.1 อาทโย) วิตฺถาเรน กเถตฺวา อิมํ คาถํ อภาสิ –

[324]

‘‘ธนปาโล นาม กุญฺชโร,

กฏุกเภทโน ทุนฺนิวารโย;

พทฺโธ กพฬํ น ภุญฺชติ,

สุมรติ นาควนสฺส กุญฺชโร’’ติฯ

ตตฺถ ธนปาโล นามาติ ตทา กาสิกรญฺญา หตฺถาจริยํ เปเสตฺวา รมณีเย นาควเน คาหาปิตสฺส หตฺถิโน เอตํ นามํฯ กฏุกเภทโนติ ติขิณมโทฯ หตฺถีนญฺหิ มทกาเล กณฺณจูฬิกา ปภิชฺชนฺติ, ปกติยาปิ หตฺถิโน ตสฺมิํ กาเล องฺกุเส วา กุนฺตโตมเร วา น คเณนฺติ, จณฺฑา ภวนฺติฯ โส ปน อติจณฺโฑเยวฯ เตน วุตฺตํ – กฏุกเภทโน ทุนฺนิวารโยติฯ พทฺโธ กพฬํ น ภุญฺชตีติ โส พทฺโธ หตฺถิสาลํ ปน เนตฺวา วิจิตฺรสาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา กตคนฺธปริภณฺฑาย อุปริ พทฺธวิจิตฺรวิตานาย ภูมิยา ฐปิโต รญฺญา ราชารเหน นานคฺครเสน โภชเนน อุปฏฺฐาปิโตปิ กิญฺจิ ภุญฺชิตุํ น อิจฺฉิ, ตมตฺถํ สนฺธาย ‘‘พทฺโธ กพฬํ น ภุญฺชตี’’ติ วุตฺตํฯ สุมรติ นาควนสฺสาติ โส รมณียํ เม วสนฏฺฐานนฺติ นาควนํ สรติฯ ‘‘มาตา ปน เม อรญฺเญ ปุตฺตวิโยเคน ทุกฺขปฺปตฺตา อโหสิ, มาตาปิตุอุปฏฺฐานธมฺโม น เม ปูรติ, กิํ เม อิมินา โภชเนนา’’ติ ธมฺมิกํ มาตาปิตุอุปฏฺฐานธมฺมเมว สริฯ ตํ ปน ยสฺมา ตสฺมิํ นาควเนเยว ฐิโต สกฺกา ปูเรตุํ, เตน วุตฺตํ – สุมรติ นาควนสฺส กุญฺชโรติฯ

สตฺถริ อิมํ อตฺตโน ปุพฺพจริยํ อาเนตฺวา กเถนฺเต กเถนฺเตเยว สพฺเพปิ เต อสฺสุธารา ปวตฺเตตฺวา มุทุหทยา โอหิตโสตา ภวิํสุฯ อถ เนสํ ภควา สปฺปายํ วิทิตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ธมฺมํ เทเสสิฯ

เทสนาวสาเน สทฺธิํ ปุตฺเตหิ เจว สุณิสาหิ จ พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหีติฯ

ปริชิณฺณพฺราหฺมณปุตฺตวตฺถุ ตติยํฯ

4. ปเสนทิโกสลวตฺถุ

มิทฺธี ยทา โหตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ราชานํ ปเสนทิโกสลํ อารพฺภ กเถสิฯ

เอกสฺมิญฺหิ สมเย ราชา ตณฺฑุลโทณสฺส โอทนํ ตทุปิเยน สูปพฺยญฺชเนน ภุญฺชติฯ โส เอกทิวสํ ภุตฺตปาตราโส ภตฺตสมฺมทํ อวิโนเทตฺวาว สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา กิลนฺตรูโป อิโต จิโต จ สมฺปริวตฺตติ, นิทฺทาย อภิภุยฺยมาโนปิ อุชุกํ นิปชฺชิตุํ อสกฺโกนฺโต เอกมนฺตํ นิสีทิฯ อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘กิํ, มหาราช, อวิสฺสมิตฺวาว อาคโตสี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ภุตฺตกาลโต ปฏฺฐาย เม มหาทุกฺขํ โหตี’’ติฯ อถ นํ สตฺถา, ‘‘มหาราช, อติพหุโภชนํ เอวํ ทุกฺขํ โหตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[325]

‘‘มิทฺธี ยทา โหติ มหคฺฆโส จ,

นิทฺทายิตา สมฺปริวตฺตสายี;

มหาวราโหว นิวาปปุฏฺโฐ,

ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปติ มนฺโท’’ติฯ

ตตฺถ มิทฺธีติ ถินมิทฺธาภิภูโตฯ มหคฺฆโส จาติ มหาโภชโน อาหรหตฺถกอลํสาฏกตตฺรวฏฺฏกกากมาสกภุตฺตวมิตกานํ อญฺญตโร วิยฯ นิวาปปุฏฺโฐติ กุณฺฑกาทินา สูกรภตฺเตน ปุฏฺโฐฯ