เมนู

โส ‘‘ตถารูปาย นาม อิตฺถิยา สทฺธิํ สมาคมํ นาลตฺถ’’นฺติ อุปฺปนฺนโทมนสฺโส ปพฺพเตน วิย โสกทุกฺเขน อชฺโฌตฺถโฏ อโหสิฯ สตฺถา ตสฺสูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ปิณฺฑาย จรนฺโต ตํ เคหทฺวารํ อคมาสิฯ อถสฺส มาตาปิตโร สตฺถารํ อนฺโตเคหํ ปเวเสตฺวา สกฺกจฺจํ ปริวิสิํสุฯ สตฺถา ภตฺตกิจฺจาวสาเน ‘‘กหํ อนิตฺถิคนฺธกุมาโร’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘เอโส, ภนฺเต, อาหารูปจฺเฉทํ กตฺวา อนฺโตคพฺเภ นิสินฺโน’’ติฯ ‘‘ปกฺโกสถ น’’นฺติฯ โส อาคนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ สตฺถา ‘‘กิํ นุ โข, กุมาร, พลวโสโก อุปฺปนฺโน’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, ภนฺเต, ‘เอวรูปา นาม อิตฺถี อนฺตรามคฺเค กาลกตา’ติ สุตฺวา พลวโสโก อุปฺปนฺโน, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทตี’’ติฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘ชานาสิ ปน ตฺวํ, กุมาร, กิํ เต นิสฺสาย โสโก อุปฺปนฺโน’’ติ? ‘‘น ชานามิ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กามํ นิสฺสาย, กุมาร, พลวโสโก อุปฺปนฺโน, โสโก วา ภยํ วา กามํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[215]

‘‘กามโต ชายตี โสโก, กามโต ชายตี ภยํ;

กามโต วิปฺปมุตฺตสฺส, นตฺถิ โสโก กุโต ภย’’นฺติฯ

ตตฺถ กามโตติ วตฺถุกามกิเลสกามโต, ทุวิธมฺเปตํ กามํ นิสฺสายาติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน อนิตฺถิคนฺธกุมาโร โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิฯ

อนิตฺถิคนฺธกุมารวตฺถุ ปญฺจมํฯ

6. อญฺญตรพฺราหฺมณวตฺถุ

ตณฺหาย ชายตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อญฺญตรํ พฺราหฺมณํ อารพฺภ กเถสิฯ

โส กิร มิจฺฉาทิฏฺฐิโก เอกทิวสํ นทีตีรํ คนฺตฺวา เขตฺตํ โสเธติฯ สตฺถา ตสฺส อุปนิสฺสยสมฺปตฺติํ ทิสฺวา ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิฯ โส สตฺถารํ ทิสฺวาปิ สามีจิกมฺมํ อกตฺวา ตุณฺหี อโหสิฯ อถ นํ สตฺถา ปุเรตรํ อาลปิตฺวา, ‘‘พฺราหฺมณ, กิํ กโรสี’’ติ อาหฯ ‘‘เขตฺตํ, โภ โคตม, โสเธมี’’ติฯ สตฺถา เอตฺตกเมว วตฺวา คโตฯ ปุนทิวเสปิ ตสฺส เขตฺตํ กสิตุํ อาคตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘พฺราหฺมณ, กิํ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เขตฺตํ กสามิ, โภ โคตมา’’ติ สุตฺวา ปกฺกามิฯ

ปุนทิวสาทีสุปิ ตเถว คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘โภ โคตม, เขตฺตํ วปามิ นิทฺเทมิ รกฺขามี’’ติ สุตฺวา ปกฺกามิฯ อถ นํ เอกทิวสํ พฺราหฺมโณ อาห – ‘‘โภ โคตม, ตฺวํ มม เขตฺตโสธนทิวสโต ปฏฺฐาย อาคโตฯ สเจ เม สสฺสํ สมฺปชฺชิสฺสติ, ตุยฺหมฺปิ สํวิภาคํ กริสฺสามิ, ตุยฺหํ อทตฺวา สยํ น ขาทิสฺสามิ, อิโต ทานิ ปฏฺฐาย ตฺวํ มม สหาโย’’ติฯ

อถสฺส อปเรน สมเยน สสฺสํ สมฺปชฺชิ , ตสฺส ‘‘สมฺปนฺนํ เม สสฺสํ, สฺเว ทานิ ลายาเปสฺสามี’’ติ ลายนตฺถํ กตฺตพฺพกิจฺจสฺส รตฺติํ มหาเมโฆ วสฺสิตฺวา สพฺพํ สสฺสํ หริ, เขตฺตํ ตจฺเฉตฺวา ฐปิตสทิสํ อโหสิฯ สตฺถา ปน ปฐมทิวสํเยว ‘‘ตํ สสฺสํ น สมฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อญฺญาสิฯ พฺราหฺมโณ ปาโตว ‘‘เขตฺตํ โอโลเกสฺสามี’’ติ คโต ตุจฺฉํ เขตฺตํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนพลวโสโก จินฺเตสิ – ‘‘สมโณ โคตโม มม เขตฺตโสธนกาลโต ปฏฺฐาย อาคโต , อหมฺปิ นํ ‘อิมสฺมิํ สสฺเส นิปฺผนฺเน ตุยฺหมฺปิ สํวิภาคํ กริสฺสามิ, ตุยฺหํ อทตฺวา สยํ น ขาทิสฺสามิ, อิโต ปฏฺฐาย ทานิ ตฺวํ มม สหาโย’ติ อวจํฯ โสปิ เม มโนรโถ มตฺถกํ น ปาปุณี’’ติ อาหารูปจฺเฉทํ กตฺวา มญฺจเก นิปชฺชิฯ อถสฺส สตฺถา เคหทฺวารํ อคมาสิฯ โส สตฺถุ อาคมนํ สุตฺวา ‘‘สหายํ เม อาเนตฺวา อิธ นิสีทาเปถา’’ติ อาหฯ ปริชโน ตถา อกาสิฯ สตฺถา นิสีทิตฺวา ‘‘กหํ พฺราหฺมโณ’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คพฺเภ นิปนฺโน’’ติ วุตฺเต ‘‘ปกฺโกสถ น’’นฺติ ปกฺโกสาเปตฺวา อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนํ อาห ‘‘กิํ, พฺราหฺมณา’’ติ? โภ โคตม, ตุมฺเห มม เขตฺตโสธนทิวสโต ปฏฺฐาย อาคตา, อหมฺปิ ‘‘สสฺเส นิปฺผนฺเน ตุมฺหากํ สํวิภาคํ กริสฺสามี’’ติ อวจํฯ โส เม มโนรโถ อนิปฺผนฺโน, เตน เม โสโก อุปฺปนฺโน, ภตฺตมฺปิ เม นจฺฉาเทตีติฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘ชานาสิ ปน, พฺราหฺมณ, กิํ เต นิสฺสาย โสโก อุปฺปนฺโน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘น ชานามิ, โภ โคตม, ตฺวํ ปน ชานาสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, อุปฺปชฺชมาโน โสโก วา ภยํ วา ตณฺหํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[216]

‘‘ตณฺหาย ชายตี โสโก, ตณฺหาย ชายตี ภยํ;

ตณฺหาย วิปฺปมุตฺตสฺส, นตฺถิ โสโก กุโต ภย’’นฺติฯ

ตตฺถ ตณฺหายาติ ฉทฺวาริกาย ตณฺหาย, เอตํ ตณฺหํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน พฺราหฺมโณ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหีติฯ

อญฺญตรพฺราหฺมณวตฺถุ ฉฏฺฐํฯ

7. ปญฺจสตทารกวตฺถุ

สีลทสฺสนสมฺปนฺนนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อนฺตรามคฺเค ปญฺจสตทารเก อารพฺภ กเถสิฯ

เอกทิวสญฺหิ สตฺถา อสีติมหาเถเรหิ สทฺธิํ ปญฺจสตภิกฺขุปริวาโร ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต เอกสฺมิํ ฉณทิวเส ปญฺจสเต ทารเก ปูวปจฺฉิโย อุกฺขิปาเปตฺวา นครา นิกฺขมฺม อุยฺยานํ คจฺฉนฺเต อทฺทสฯ เตปิ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปกฺกมิํสุ, เต เอกํ ภิกฺขุมฺปิ ‘‘ปูวํ คณฺหถา’’ติ น วทิํสุฯ สตฺถา เตสํ คตกาเล ภิกฺขู อาห – ‘‘ขาทิสฺสถ, ภิกฺขเว, ปูเว’’ติฯ ‘‘กหํ ภนฺเต, ปูวา’’ติ? ‘‘กิํ น ปสฺสถ เต ทารเก ปูวปจฺฉิโย อุกฺขิปาเปตฺวา อติกฺกนฺเต’’ติ? ‘‘ภนฺเต, เอวรูปา นาม ทารกา กสฺสจิ ปูวํ น เทนฺตี’’ติฯ ‘‘ภิกฺขเว, กิญฺจาปิ เอเต มํ วา ตุมฺเห วา ปูเวหิ น นิมนฺตยิํสุ, ปูวสามิโก ปน ภิกฺขุ ปจฺฉโต อาคจฺฉติ, ปูเว ขาทิตฺวาว คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติฯ พุทฺธานญฺหิ เอกปุคฺคเลปิ อิสฺสา วา โทโส วา นตฺถิ, ตสฺมา อิมํ วตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ อาทาย เอกสฺมิํ รุกฺขมูเล ฉายาย นิสีทิฯ ทารกา มหากสฺสปตฺเถรํ ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนสิเนหา ปีติเวเคน ปริปุณฺณสรีรา หุตฺวา ปจฺฉิโย โอตาเรตฺวา เถรํ ปญฺจปติฏฺฐิเตน วนฺทิตฺวา ปูเว ปจฺฉีหิ สทฺธิํเยว อุกฺขิปิตฺวา ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ เถรํ วทิํสุฯ อถ เน เถโร อาห – ‘‘เอส สตฺถา ภิกฺขุสงฺฆํ คเหตฺวา รุกฺขมูเล นิสินฺโน, ตุมฺหากํ เทยฺยธมฺมํ อาทาย คนฺตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส สํวิภาคํ กโรถา’’ติฯ เต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ นิวตฺติตฺวา เถเรน สทฺธิํเยว คนฺตฺวา ปูเว ทตฺวา โอโลกยมานา เอกมนฺเต ฐตฺวา ปริโภคาวสาเน อุทกํ อทํสุฯ ภิกฺขู อุชฺฌายิํสุ ‘‘ทารเกหิ มุโขโลกเนน ภิกฺขา ทินฺนา, สมฺมาสมฺพุทฺธํ วา มหาเถเร วา ปูเวหิ อนาปุจฺฉิตฺวา มหากสฺสปตฺเถรํ ทิสฺวา ปจฺฉีหิ สทฺธิํเยว อาทาย อาคมิํสู’’ติฯ สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, มม ปุตฺเตน มหากสฺสเปน สทิโส ภิกฺขุ เทวมนุสฺสานํ ปิโย โหติ, เต จ ตสฺส จตุปจฺจเยน ปูชํ กโรนฺติเยวา’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[217]

‘‘สีลทสฺสนสมฺปนฺนํ, ธมฺมฏฺฐํ สจฺจเวทินํ;

อตฺตโน กมฺม กุพฺพานํ, ตํ ชโน กุรุเต ปิย’’นฺติฯ