เมนู

8. สกฺกวตฺถุ

สาหุ ทสฺสนนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวคามเก วิหรนฺโต สกฺกํ อารพฺภ กเถสิฯ

ตถาคตสฺส หิ อายุสงฺขาเร วิสฺสฏฺเฐ โลหิตปกฺขนฺทิกาพาธสฺส อุปฺปนฺนภาวํ ญตฺวา สกฺโก เทวราชา ‘‘มยา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา คิลานุปฏฺฐานํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ติคาวุตปฺปมาณํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา หตฺเถหิ ปาเท ปริมชฺชิฯ อถ นํ สตฺถา อาห ‘‘โก เอโส’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, สกฺโก’’ติฯ ‘‘กสฺมา อาคโตสี’’ติ? ‘‘ตุมฺเห คิลาเน อุปฏฺฐหิตุํ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘สกฺก, เทวานํ มนุสฺสคนฺโธ โยชนสตโต ปฏฺฐาย คเล พทฺธกุณปํ วิย โหติ , คจฺฉ ตฺวํ, อตฺถิ เม คิลานุปฏฺฐกา ภิกฺขู’’ติฯ ‘‘ภนฺเต, จตุราสีติโยชนสหสฺสมตฺถเก ฐิโต ตุมฺหากํ สีลคนฺธํ ฆายิตฺวา อาคโต, อหเมว อุปฏฺฐหิสฺสามี’’ติ โส สตฺถุ สรีรวฬญฺชนภาชนํ อญฺญสฺส หตฺเถนาปิ ผุสิตุํ อทตฺวา สีเสเยว ฐเปตฺวา นีหรนฺโต มุขสงฺโกจนมตฺตมฺปิ น อกาสิ, คนฺธภาชนํ ปริหรนฺโต วิย อโหสิฯ เอวํ สตฺถารํ ปฏิชคฺคิตฺวา สตฺถุ ผาสุกกาเลเยว อคมาสิฯ

ภิกฺขู กถํ สมุฏฺฐาเปสุํ ‘‘อโห สตฺถริ สกฺกสฺส สิเนโห, เอวรูปํ นาม ทิพฺพสมฺปตฺติํ ปหาย มุขสงฺโกจนมตฺตมฺปิ อกตฺวา คนฺธภาชนํ นีหรนฺโต วิย สตฺถุ สรีรวฬญฺชนภาชนํ สีเสน นีหรนฺโต อุปฏฺฐานมกาสี’’ติฯ สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา กิํ วเทถ, ภิกฺขเว, อนจฺฉริยํ เอตํ, ยํ สกฺโก เทวราชา มยิ สิเนหํ กโรติฯ อยํ สกฺโก หิ เทวราชา มํ นิสฺสาย ชรสกฺกภาวํ วิชหิตฺวา โสตาปนฺโน หุตฺวา ตรุณสกฺกสฺส ภาวํ ปตฺโต, อหํ หิสฺส มรณภยตชฺชิตสฺส ปญฺจสิขคนฺธพฺพเทวปุตฺตํ ปุรโต กตฺวา อาคตกาเล อินฺทสาลคุหายํ เทวปริสาย มชฺเฌ นิสินฺนสฺส –

‘‘ปุจฺฉ วาสว มํ ปญฺหํ, ยํ กิญฺจิ มนสิจฺฉสิ;

ตสฺส ตสฺเสว ปญฺหสฺส, อหํ อนฺตํ กโรมิ เต’’ติฯ (ที. นิ. 2.356) –