เมนู

อถ นํ สตฺถา ‘‘ภิกฺขุ ตว กหาปณา อปฺปกา, กถํ เอเต นิสฺสาย ตณฺหํ ปูเรสฺสสิ, อตีเต กิร จกฺกวตฺติรชฺชํ กาเรตฺวา อปฺโผฏิตมตฺเตน ทฺวาทสโยชนฏฺฐาเน กฏิปฺปมาเณน รตนวสฺสํ วสฺสาเปตุํ สมตฺโถ ยาว ฉตฺติํส สกฺกา จวนฺติ, เอตฺตกํ กาลํ เทวรชฺชํ กาเรตฺวาปิ มรณกาเล ตณฺหํ อปูเรตฺวาว กาลมกาสี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริตฺวา มนฺธาตุชาตกํ (ชา. 1.3.22) วิตฺถาเรตฺวา –

‘‘ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺติ, ทิสา ภนฺติ วิโรจนา;

สพฺเพว ทาสา มนฺธาตุ, เย ปาณา ปถวิสฺสิตา’’ติฯ –

อิมิสฺสา คาถาย อนนฺตรา อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ –

[186]

‘‘น กหาปณวสฺเสน, ติตฺติ กาเมสุ วิชฺชติ;

อปฺปสฺสาทา ทุขา กามา, อิติ วิญฺญาย ปณฺฑิโตฯ

[187]

‘‘อปิ ทิพฺเพสุ กาเมสุ, รติํ โส นาธิคจฺฉติ;

ตณฺหกฺขยรโต โหติ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก’’ติฯ

ตตฺถ กหาปณวสฺเสนาติ ยํ โส อปฺโผเฏตฺวา สตฺตรตนวสฺสํ วสฺสาเปสิ, ตํ อิธ กหาปณวสฺสนฺติ วุตฺตํฯ เตนปิ หิ วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ ติตฺติ นาม นตฺถิฯ เอวํ ทุปฺปูรา เอสา ตณฺหาฯ อปฺปสฺสาทาติ สุปินสทิสตาย ปริตฺตสุขาฯ ทุขาติ ทุกฺขกฺขนฺธาทีสุ อาคตทุกฺขวเสน ปน พหุทุกฺขาวฯ อิติ วิญฺญายาติ เอวเมเต กาเม ชานิตฺวาฯ อปิ ทิพฺเพสูติ สเจ หิ เทวานํ อุปกปฺปนกกาเมหิ นิมนฺเตยฺยาปิ อายสฺมา สมิทฺธิ วิย เอวมฺปิ เตสุ กาเมสุ รติํ น วินฺทติเยวฯ ตณฺหกฺขยรโตติ อรหตฺเต เจว นิพฺพาเน จ อภิรโต โหติ, ตํ ปตฺถยมาโน วิหรติฯ สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโกติ สมฺมาสมฺพุทฺเธน เทสิตสฺส ธมฺมสฺส สวเนน ชาโต โยคาวจรภิกฺขูติฯ

เทสนาวสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิ, สมฺปตฺตปริสายปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติฯ

อนภิรตภิกฺขุวตฺถุ ปญฺจมํฯ

6. อคฺคิทตฺตพฺราหฺมณวตฺถุ

พหุํ เว สรณํ ยนฺตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต วาลิกราสิมฺหิ นิสินฺนํ อคฺคิทตฺตํ นาม โกสลรญฺโญ ปุโรหิตํ อารพฺภ กเถสิฯ

โส กิร มหาโกสลสฺส ปุโรหิโต อโหสิฯ อถ นํ ปิตริ กาลกเต ราชา ปเสนทิ โกสโล ‘‘ปิตุ เม ปุโรหิโต’’ติ คารเวน ตสฺมิํเยว ฐาเน ฐเปตฺวา ตสฺส อตฺตโน อุปฏฺฐานํ อาคตกาเล ปจฺจุคฺคมนํ กโรติ, ‘‘อาจริย, อิธ นิสีทถา’’ติ สมานาสนํ ทาเปสิฯ โส จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา มยิ อติวิย คารวํ กโรติ, น โข ปน ราชูนํ นิจฺจกาลเมว สกฺกา จิตฺตํ คเหตุํฯ สมานวเยเนว หิ สทฺธิํ รชฺชสุขํ นาม สุขํ โหติ, อหญฺจมฺหิ มหลฺลโก, ปพฺพชิตุํ เม ยุตฺต’’นฺติฯ โส ราชานํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตฺวา นคเร เภริํ จราเปตฺวา สตฺตาเหน สพฺพํ อตฺตโน ธนํ ทานมุเข วิสฺสชฺเชตฺวา พาหิรกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิฯ ตํ นิสฺสาย ทส ปุริสสหสฺสานิ อนุปพฺพชิํสุฯ โส เตหิ สทฺธิํ องฺคมคธานญฺจ กุรุรฏฺฐสฺส จ อนฺตเร วาสํ กปฺเปตฺวา อิมํ โอวาทํ เทติ, ‘‘ตาตา, ยสฺส กามวิตกฺกาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, โส นทิโต เอเกกํ วาลุกปุฏํ อุทฺธริตฺวา อิมสฺมิํ โอกิรตู’’ติฯ เต ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา กามวิตกฺกาทีนํ อุปฺปนฺนกาเล ตถา กริํสุฯ อปเรน สมเยน มหาวาลุกราสิ อโหสิ, ตํ อหิฉตฺโต นาม นาคราชา ปฏิคฺคเหสิฯ องฺคมคธวาสิโน เจว กุรุรฏฺฐวาสิโน จ มาเส มาเส เตสํ มหนฺตํ สกฺการํ อภิหริตฺวา ทานํ เทนฺติฯ อถ เนสํ อคฺคิทตฺโต อิมํ โอวาทํ อทาสิ – ‘‘ปพฺพตํ สรณํ ยาถ, วนํ สรณํ ยาถ, อารามํ สรณํ ยาถ, รุกฺขํ สรณํ ยาถ, เอวํ สพฺพทุกฺขโต มุจฺจิสฺสถา’’ติฯ อตฺตโน อนฺเตวาสิเกปิ อิมินา โอวาเทน โอวทิฯ

โพธิสตฺโตปิ กตาภินิกฺขมโน สมฺมาสมฺโพธิํ ปตฺวา ตสฺมิํ สมเย สาวตฺถิํ นิสฺสาย เชตวเน วิหรนฺโต ปจฺจูสกาเล โลกํ โวโลเกนฺโต อคฺคิทตฺตพฺราหฺมณํ สทฺธิํ อนฺเตวาสิเกหิ อตฺตโน ญาณชาลสฺส อนฺโต ปวิฏฺฐํ ทิสฺวา ‘‘สพฺเพปิ อิเม อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสยสมฺปนฺนา’’ติ ญตฺวา สายนฺหสมเย มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อาห – ‘‘โมคฺคลฺลาน, กิํ ปสฺสสิ อคฺคิทตฺตพฺราหฺมณํ มหาชนํ อติตฺเถ ปกฺขนฺทาเปนฺตํ, คจฺฉ เตสํ โอวาทํ เทหี’’ติฯ ภนฺเต, พหู เอเต, เอกกสฺส มยฺหํ อวิสยฺหาฯ สเจ ตุมฺเหปิ อาคมิสฺสถ, วิสยฺหา ภวิสฺสนฺตีติฯ โมคฺคลฺลาน, อหมฺปิ อาคมิสฺสามิ, ตฺวํ ปุรโต ยาหีติฯ เถโร ปุรโต คจฺฉนฺโตว จินฺเตสิ – ‘‘เอเต พลวนฺโต เจว พหู จฯ

สเจ สพฺเพสํ สมาคมฏฺฐาเน กิญฺจิ กเถสฺสามิ, สพฺเพปิ วคฺควคฺเคน อุฏฺฐเหยฺยุ’’นฺติ อตฺตโน อานุภาเวน ถูลผุสิตกํ เทวํ วุฏฺฐาเปสิฯ เต ถูลผุสิตเกสุ ปตนฺเตสุ อุฏฺฐายุฏฺฐาย อตฺตโน อตฺตโน ปณฺณสาลํ ปวิสิํสุฯ เถโร อคฺคิทตฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปณฺณสาลทฺวาเร ฐตฺวา ‘‘อคฺคิทตฺตา’’ติ อาหฯ โส เถรสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘มํ อิมสฺมิํ โลเก นาเมน อาลปิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, โก นุ โข มํ นาเมน อาลปตี’’ติ มานถทฺธตาย ‘‘โก เอโส’’ติ อาหฯ ‘‘อหํ, พฺราหฺมณา’’ติฯ ‘‘กิํ วเทสี’’ติ? ‘‘อชฺช เม เอกรตฺติํ อิธ วสนฏฺฐานํ ตฺวํ อาจิกฺขาหี’’ติฯ ‘‘อิธ วสนฏฺฐานํ นตฺถิ, เอกสฺส เอกาว ปณฺณสาลา’’ติฯ ‘‘อคฺคิทตฺต, มนุสฺสา นาม มนุสฺสานํ, คาโว คุนฺนํ, ปพฺพชิตา ปพฺพชิตานํ สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, มา เอวํ กริ, เทหิ เม วสนฏฺฐาน’’นฺติฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ ปพฺพชิโต’’ติ? ‘‘อาม, ปพฺพชิโตมฺหี’’ติฯ ‘‘สเจ ปพฺพชิโต, กหํ เต ขาริภณฺฑํ, โก ปพฺพชิตปริกฺขาโร’’ติฯ ‘‘อตฺถิ เม ปริกฺขาโร, วิสุํ ปน นํ คเหตฺวา วิจริตุํ ทุกฺขนฺติ อพฺภนฺตเรเนว นํ คเหตฺวา วิจรามิ, พฺราหฺมณา’’ติฯ โส ‘‘ตํ คเหตฺวา วิจริสฺสสี’’ติ เถรสฺส กุชฺฌิฯ อถ นํ โส อาห – ‘‘อมฺเห, อคฺคิทตฺต, มา กุชฺฌิ, วสนฏฺฐานํ เม อาจิกฺขาหี’’ติฯ นตฺถิ เอตฺถ วสนฏฺฐานนฺติฯ เอตสฺมิํ ปน วาลุกราสิมฺหิ โก วสตีติฯ เอโก, นาคราชาติฯ เอตํ เม เทหีติฯ น สกฺกา ทาตุํ, ภาริยํ เอตสฺส กมฺมนฺติฯ โหตุ, เทหิ เมติฯ เตน หิ ตฺวํ เอว ชานาหีติฯ

เถโร วาลุกราสิอภิมุโข ปายาสิฯ นาคราชา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สมโณ อิโต อาคจฺฉติ, น ชานาติ มญฺเญ มม อตฺถิภาวํ, ธูมายิตฺวา นํ มาเรสฺสามี’’ติ ธูมายิฯ เถโร ‘‘อยํ นาคราชา ‘อหเมว ธูมายิตุํ สกฺโกมิ, อญฺเญ น สกฺโกนฺตี’ติ มญฺเญ สลฺลกฺเขตี’’ติ สยมฺปิ ธูมายิฯ ทฺวินฺนมฺปิ สรีรโต อุคฺคตา ธูมา ยาว พฺรหฺมโลกา อุฏฺฐหิํสุฯ อุโภปิ ธูมา เถรํ อพาเธตฺวา นาคราชานเมว พาเธนฺติฯ นาคราชา ธูมเวคํ สหิตุํ อสกฺโกนฺโต ปชฺชลิฯ เถโรปิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา เตน สทฺธิํเยว ปชฺชลิฯ อคฺคิชาลา ยาว พฺรหฺมโลกา อุฏฺฐหิํสุฯ อุโภปิ เถรํ อพาเธตฺวา นาคราชานเมว พาธยิํสุฯ อถสฺส สกลสรีรํ อุกฺกาหิ ปทิตฺตํ วิย อโหสิฯ อิสิคโณ โอโลเกตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘นาคราชา, สมณํ ฌาเปติ, ภทฺทโก วต สมโณ อมฺหากํ วจนํ อสุตฺวา นฏฺโฐ’’ติฯ

เถโร นาคราชานํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา วาลุกราสิมฺหิ นิสีทิฯ นาคราชา วาลุกราสิํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา กูฏาคารกุจฺฉิปมาณํ ผณํ มาเปตฺวา เถรสฺส อุปริ ธาเรสิฯ

อิสิคณา ปาโตว ‘‘สมณสฺส มตภาวํ วา อมตภาวํ วา ชานิสฺสามา’’ติ เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ วาลุกราสิมตฺถเก นิสินฺนํ ทิสฺวา อญฺชลิํ ปคฺคยฺห อภิตฺถวนฺตา อาหํสุ – ‘‘สมณ, กจฺจิ นาคราเชน น พาธิโต’’ติฯ ‘‘กิํ น ปสฺสถ มม อุปริผณํ ธาเรตฺวา ฐิต’’นฺติ? เต ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, สมณสฺส เอวรูโป นาม นาคราชา ทมิโต’’ติ เถรํ ปริวาเรตฺวา อฏฺฐํสุฯ ตสฺมิํ ขเณ สตฺถา อาคโตฯ เถโร สตฺถารํ ทิสฺวา อุฏฺฐาย วนฺทิฯ อถ นํ อิสโย อาหํสุ – ‘‘อยมฺปิ ตยา มหนฺตตโร’’ติฯ เอโส ภควา สตฺถา, อหํ อิมสฺส สาวโกติฯ สตฺถา วาลุกราสิมตฺถเก นิสีทิ, อิสิคโณ ‘‘อยํ ตาว สาวกสฺส อานุภาโว, อิมสฺส ปน อานุภาโว กีทิโส ภวิสฺสตี’’ติ อญฺชลิํ ปคฺคยฺห สตฺถารํ อภิตฺถวิฯ สตฺถา อคฺคิทตฺตํ อามนฺเตตฺวา อาห – ‘‘อคฺคิทตฺต, ตฺวํ ตว สาวกานญฺจ อุปฏฺฐากานญฺจ โอวาทํ ททมาโน กินฺติ วตฺวา เทสี’’ติฯ ‘‘เอตํ ปพฺพตํ สรณํ คจฺฉถ, วนํ อารามํ รุกฺขํ สรณํ คจฺฉถฯ เอตานิ หิ สรณํ คโต สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ เอวํ เตสํ โอวาทํ ทมฺมีติฯ สตฺถา ‘‘น โข, อคฺคิทตฺต, เอตานิ สรณํ คโต สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ, พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ ปน สรณํ คนฺตฺวา สกลวฏฺฏทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

[188]

‘‘พหุํ เว สรณํ ยนฺติ, ปพฺพตานิ วนานิ จ;

อารามรุกฺขเจตฺยานิ, มนุสฺสา ภยตชฺชิตาฯ

[189]

‘‘เนตํ โข สรณํ เขมํ, เนตํ สรณมุตฺตมํ;

เนตํ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติฯ

[190]

‘‘โย จ พุทฺธญฺจ ธมฺมญฺจ, สงฺฆญฺจ สรณํ คโต;

จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสติฯ

[191]

‘‘ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

อริยํ จฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํฯ

[192]

‘‘เอตํ โข สรณํ เขมํ, เอตํ สรณมุตฺตมํ;

เอตํ สรณมาคมฺม, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติฯ

ตตฺถ พหุนฺติ พหุฯ ปพฺพตานีติ ตตฺถ ตตฺถ อิสิคิลิเวปุลฺลเวภาราทิเก ปพฺพเต จ มหาวนโคสิงฺคสาลวนาทีนิ วนานิ จ เวฬุวนชีวกมฺพวนาทโย อาราเม จ อุเทนเจติยโคตมเจติยาทีนิ รุกฺขเจตฺยานิ จ เต เต มนุสฺสา เตน เตน ภเยน ตชฺชิตา ภยโต มุจฺจิตุกามา ปุตฺตลาภาทีนิ วา ปตฺถยมานา สรณํ ยนฺตีติ อตฺโถฯ เนตํ สรณนฺติ เอตํ สพฺพมฺปิ สรณํ เนว เขมํ น อุตฺตมํ, น จ เอตํ ปฏิจฺจ ชาติอาทิธมฺเมสุ สตฺเตสุ เอโกปิ ชาติอาทิโต สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตีติ อตฺโถฯ

โย จาติ อิทํ อเขมํ อนุตฺตมํ สรณํ ทสฺเสตฺวา เขมํ อุตฺตมํ สรณํ ทสฺสนตฺถํ อารทฺธํฯ ตสฺสตฺโถ – โย จ คหฏฺโฐ วา ปพฺพชิโต วา ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทิกํ พุทฺธธมฺมสงฺฆานุสฺสติกมฺมฏฺฐานํ นิสฺสาย เสฏฺฐวเสน พุทฺธญฺจ ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ สรณํ คโต, ตสฺสปิ ตํ สรณคมนํ อญฺญติตฺถิยวนฺทนาทีหิ กุปฺปติ จลติฯ ตสฺส ปน อจลภาวํ ทสฺเสตุํ มคฺเคน อาคตสรณเมว ปกาสนฺโต จตฺตาริ อริยสจฺจานิ สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสตีติ อาหฯ โย หิ เอเตสํ สจฺจานํ ทสฺสนวเสน เอตานิ สรณํ คโต, เอตสฺส เอตํ สรณํ เขมญฺจ อุตฺตมญฺจ, โส จ ปุคฺคโล เอตํ สรณํ ปฏิจฺจ สกลสฺมาปิ วฏฺฏทุกฺขา ปมุจฺจติ, ตสฺมา เอตํ โข สรณํ เขมนฺติอาทิ วุตฺตํฯ

เทสนาวสาเน สพฺเพปิ เต อิสโย สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิํสุฯ สตฺถาปิ จีวรคพฺภโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘เอถ ภิกฺขโว, จรถ พฺรหฺมจริย’’นฺติ อาหฯ เต ตงฺขเณเยว อฏฺฐปริกฺขารธรา วสฺสสฏฺฐิกเถรา วิย อเหสุํฯ โส จ สพฺเพสมฺปิ องฺคมคธกุรุรฏฺฐวาสีนํ สกฺการํ อาทาย อาคมนทิวโส อโหสิฯ เต สกฺการํ อาทาย อาคตา สพฺเพปิ เต อิสโย ปพฺพชิเต ทิสฺวา ‘‘กิํ นุ โข อมฺหากํ อคฺคิทตฺตพฺราหฺมโณ มหา, อุทาหุ สมโณ โคตโม’’ติ จินฺเตตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส อาคตตฺตา ‘‘อคฺคิทตฺโตว มหา’’ติ มญฺญิํสุฯ สตฺถา เตสํ อชฺฌาสยํ โอโลเกตฺวา, ‘‘อคฺคิทตฺต, ปริสาย กงฺขํ ฉินฺทา’’ติ อาหฯ

โส ‘‘อหมฺปิ เอตฺตกเมว ปจฺจาสีสามี’’ติ อิทฺธิพเลน สตฺตกฺขตฺตุํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปุนปฺปุนํ โอรุยฺห สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘สตฺถา เม, ภนฺเต, ภควา, สาวโกหมสฺมี’’ติ วตฺวา สาวกตฺตํ ปกาเสสีติฯ

อคฺคิทตฺตพฺราหฺมณวตฺถุ ฉฏฺฐํฯ

7. อานนฺทตฺเถรปญฺหวตฺถุ

ทุลฺลโภติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อานนฺทตฺเถรสฺส ปญฺหํ อารพฺภ กเถสิฯ

เถโร หิ เอกทิวสํ ทิวาฏฺฐาเน นิสินฺโน จินฺเตสิ – ‘‘หตฺถาชานีโย ฉทฺทนฺตกุเล วา อุโปสถกุเล วา อุปฺปชฺชติ, อสฺสาชานีโย สินฺธวกุเล วา วลาหกสฺสราชกุเล วา, อุสโภ โคอาชนีโย ทกฺขิณปเถติอาทีนิ วทนฺเตน สตฺถารา หตฺถิอาชานียาทีนํ อุปฺปตฺติฏฺฐานาทีนิ กถิตานิ, ปุริสาชานีโย ปน กหํ นุ โข อุปฺปชฺชตี’’ติฯ โส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา เอตมตฺถํ ปุจฺฉิฯ สตฺถา, ‘‘อานนฺท, ปุริสาชานีโย นาม สพฺพตฺถ นุปฺปชฺชติ, อุชุกโต ปน ติโยชนสตายาเม วิตฺถารโต อฑฺฒเตยฺยสเต อาวฏฺฏโต นวโยชนสตปฺปมาเณ มชฺฌิมปเทสฏฺฐาเน อุปฺปชฺชติฯ อุปฺปชฺชนฺโต จ ปน น ยสฺมิํ วา ตสฺมิํ วา กุเล อุปฺปชฺชติ, ขตฺติยมหาสาลพฺราหฺมณมหาสาลกุลานํ ปน อญฺญตรสฺมิํเยว อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[193]

‘‘ทุลฺลโภ ปุริสาชญฺโญ, น โส สพฺพตฺถ ชายติ;

ยตฺถ โส ชายตี ธีโร, ตํ กุลํ สุขเมธตี’’ติฯ

ตตฺถ ทุลฺลโภติ ปุริสาชญฺโญ หิ ทุลฺลโภ, น หตฺถิอาชานียาทโย วิย สุลโภ, โส สพฺพตฺถ ปจฺจนฺตเทเส วา นีจกุเล วา น ชายติ, มชฺฌิมเทเสปิ มหาชนสฺส อภิวาทนาทิสกฺการกรณฏฺฐาเน ขตฺติยพฺราหฺมณกุลานํ อญฺญตรสฺมิํ กุเล ชายติฯ เอวํ ชายมาโน ยตฺถ โส ชายติ ธีโร อุตฺตมปญฺโญ สมฺมาสมฺพุทฺโธ , ตํ กุลํ สุขเมธตีติ สุขปฺปตฺตเมว โหตีติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ

อานนฺทตฺเถรปญฺหวตฺถุ สตฺตมํฯ