เมนู

สตฺถา ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘น อิทาเนว สาริปุตฺโต ยํ ปญฺหํ มหาชโน วิสฺสชฺเชตุํ นาสกฺขิ , ตํ วิสฺสชฺเชสิ, ปุพฺเพปิ อเนน วิสฺสชฺชิโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริตุํ –

‘‘ปโรสหสฺสมฺปิ สมาคตานํ,

กนฺเทยฺยุํ เต วสฺสสตํ อปญฺญา;

เอโกว เสยฺโย ปุริโส สปญฺโญ,

โย ภาสิตสฺส วิชานาติ อตฺถ’’นฺติฯ (ชา. 1.1.99) –

อิมํ ชาตกํ วิตฺถาเรน กเถสีติฯ

เทโวโรหณวตฺถุ ทุติยํฯ

3. เอรกปตฺตนาคราชวตฺถุ

กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา พาราณสิยํ อุปนิสฺสาย สตฺตสิรีสกรุกฺขมูเล วิหรนฺโต เอรกปตฺตํ นาม นาคราชํ อารพฺภ กเถสิฯ

โส กิร ปุพฺเพ กสฺสปพุทฺธสาสเน ทหรภิกฺขุ หุตฺวา คงฺคาย นาวํ อภิรุยฺห คจฺฉนฺโต เอกสฺมิํ เอรกคุมฺเพ เอรกปตฺตํ คเหตฺวา นาวาย เวคสา คจฺฉมานายปิ น มุญฺจิ, เอรกปตฺตํ ฉิชฺชิตฺวา คตํฯ โส ‘‘อปฺปมตฺตกํ เอต’’นฺติ อาปตฺติํ อเทเสตฺวา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ อรญฺเญ สมณธมฺมํ กตฺวาปิ มรณกาเล เอรกปตฺเตน คีวาย คหิโต วิย อาปตฺติํ เทเสตุกาโมปิ อญฺญํ ภิกฺขุํ อปสฺสมาโน ‘‘อปริสุทฺธํ เม สีล’’นฺติ อุปฺปนฺนวิปฺปฏิสาโร ตโต จวิตฺวา เอกรุกฺขโทณิกนาวปฺปมาโณ นาคราชา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, เอรกปตฺโตตฺเววสฺส นามํ อโหสิฯ โส นิพฺพตฺตกฺขเณเยว อตฺตภาวํ โอโลเกตฺวา ‘‘เอตฺตกํ นาม กาลํ สมณธมฺมํ กตฺวา อเหตุกโยนิยํ มณฺฑูกภกฺขฏฺฐาเน นิพฺพตฺโตมฺหี’’ติ วิปฺปฏิสารี อโหสิฯ โส อปรภาเค เอกํ ธีตรํ ลภิตฺวา มชฺเฌ คงฺคาย อุทกปิฏฺเฐ มหนฺตํ ผลํ อุกฺขิปิตฺวา ธีตรํ ตสฺมิํ ฐเปตฺวา นจฺจาเปตฺวา คายาเปสิฯ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘อทฺธา อหํ อิธ อิมินา อุปาเยน พุทฺเธ อุปฺปนฺเน ตสฺส อุปฺปนฺนภาวํ สุณิสฺสามี’’ติฯ

โย เม คีตสฺส ปฏิคีตํ อาหรติ , ตสฺส มหนฺเตน นาคภวเนน สทฺธิํ ธีตรํ ทสฺสามีติ อนฺวฑฺฒมาสํ อุโปสถทิวเส ตํ ธีตรํ ผเณ ฐเปสิฯ สา ตตฺถ ฐิตา นจฺจนฺตี –

‘‘กิํสุ อธิปฺปตี ราชา, กิํสุ ราชา รชฺชิสฺสโร;

กถํสุ วิรโช โหติ, กถํ พาโลติ วุจฺจตี’’ติฯ –

อิมํ คีตํ คายติฯ

สกลชมฺพุทีปวาสิโน ‘‘นาคมาณวิกํ คณฺหิสฺสามา’’ติ คนฺตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ปญฺญาพเลน ปฏิคีตํ กตฺวา คายนฺติฯ สา ตํ ปฏิกฺขิปติฯ ตสฺสา อนฺวฑฺฒมาสํ ผเณ ฐตฺวา เอวํ คายนฺติยาว เอกํ พุทฺธนฺตรํ วีติวตฺตํฯ อถ อมฺหากํ สตฺถา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา เอกทิวสํ ปจฺจูสกาเล โลกํ โวโลเกนฺโต เอรกปตฺตํ อาทิํ กตฺวา อุตฺตรมาณวํ นาม อตฺตโน ญาณชาลสฺส อนฺโต ปวิฏฺฐํ ทิสฺวา ‘‘กิํ นุ โข ภวิสฺสตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘อชฺช เอรกปตฺตสฺส ธีตรํ ผเณ ฐเปตฺวา นจฺจาปนทิวโส, อยํ อุตฺตรมาณโว มยา ทินฺนํ ปฏิคีตํ คณฺหนฺโตว โสตาปนฺโน หุตฺวา ตํ อาทาย นาคราชสฺส สนฺติกํ คมิสฺสติฯ โส ตํ สุตฺวา ‘พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’ติ ญตฺวา มม สนฺติกํ อาคมิสฺสติ, อหํ ตสฺมิํ อาคเต มหาสมาคเม คาถํ กเถสฺสามิ, คาถาปริโยสาเน จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย ภวิสฺสตี’’ติ อทฺทสฯ โส ตตฺถ คนฺตฺวา พาราณสิโต อวิทูเร สตฺต สิรีสกรุกฺขา อตฺถิ, เตสุ เอกสฺส มูเล นิสีทิฯ ชมฺพุทีปวาสิโน คีตปฏิคีตํ อาทาย สนฺนิปติํสุฯ สตฺถา อวิทูเร ฐาเน คจฺฉนฺตํ อุตฺตรมาณวํ ทิสฺวา ‘‘เอหิ, อุตฺตรา’’ติ อาหฯ ‘‘กิํ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อิโต ตาว เอหี’’ติฯ อถ นํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ อาห ‘‘กหํ คจฺฉสี’’ติ? ‘‘เอรกปตฺตสฺส ธีตุ คายนฏฺฐาน’’นฺติฯ ‘‘ชานาสิ ปน คีตปฏิคีต’’นฺติ? ‘‘ชานามิ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘วเทหิ ตาว น’’นฺติ? อถ นํ อตฺตโน ชานนนิยาเมเนว วทนฺตํ ‘‘น อุตฺตรํ เอตํ ปฏิคีตํ, อหํ เต ปฏิคีตํ ทสฺสามิ, อาทาย นํ คมิสฺสสี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติฯ อถ นํ สตฺถา, อุตฺตร, ตฺวํ นาคมาณวิกาย คีตกาเล –

‘‘ฉทฺวาราธิปฺปตี ราชา, รชฺชมาโน รชฺชิสฺสโร;

อรชฺชํ วิรโช โหติ, รชฺชํ พาโลติ วุจฺจตี’’ติฯ –

อิมํ ปฏิคีตํ คาเยยฺยาสีติ อาหฯ

มาณวิกาย คีตสฺส อตฺโถ – กิํสุ อธิปฺปตี ราชาติ กิํ อธิปฺปติ ราชา นาม โหติ? กิํสุ ราชา รชฺชิสฺสโรติ กถํ ปน ราชา รชฺชิสฺสโร นาม โหติ? กถํสุ วิรโช โหตีติ กถํ นุ โข โส ราชา วิรโช นาม โหตีติ?

ปฏิคีตสฺส ปน อตฺโถ – ฉทฺวาราธิปฺปตี ราชาติ โย ฉนฺนํ ทฺวารานํ อธิปฺปติ, เอกทฺวาเรปิ รูปาทีหิ อนภิภูโต, อยํ ราชา นามฯ รชฺชมาโน รชฺชิสฺสโรติ โย ปน เตสุ อารมฺมเณสุ รชฺชติ, โส รชฺชมาโน รชฺชิสฺสโร นามฯ อรชฺชนฺติ อรชฺชมาโน ปน วิรโช นาม โหติฯ รชฺชนฺติ รชฺชมาโน พาโลติ วุจฺจตีติฯ

เอวมสฺส สตฺถา ปฏิคีตํ ทตฺวา, อุตฺตร, ตยา อิมสฺมิํ คีเต คายิเต อิมสฺส คีตสฺส อิมํ ปฏิคีตํ คายิสฺสติ –

‘‘เกนสฺสุ วุยฺหติ พาโล, กถํ นุทติ ปณฺฑิโต;

โยคกฺเขมี กถํ โหติ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติฯ

อถสฺส ตฺวํ อิทํ ปฏิคีตํ คาเยยฺยาสิ –

‘‘โอเฆน วุยฺหติ พาโล, โยคา นุทติ ปณฺฑิโต;

สพฺพโยควิสํยุตฺโต, โยคกฺเขมีติ วุจฺจตี’’ติฯ

ตสฺสตฺโถ – ‘‘กาโมฆาทินา จตุพฺพิเธน โอเฆน พาโล วุยฺหติ, ตํ โอฆํ ปณฺฑิโต สมฺมปฺปธานสงฺขาเตน โยเคน นุทติฯ โส สพฺเพหิ กามโยคาทีหิ วิสํยุตฺโต โยคกฺเขมี นาม วุจฺจตี’’ติฯ

อุตฺตโร อิมํ ปฏิคีตํ คณฺหนฺโตว โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิฯ โส โสตาปนฺโน หุตฺวา ตํ คาถํ อาทาย คนฺตฺวา, ‘‘อมฺโภ, มยา คีตปฏิคีตํ อาหฏํ, โอกาสํ เม เทถา’’ติ วตฺวา นิรนฺตรํ ฐิตสฺส มหาชนสฺส ชณฺณุนา อกฺกมนฺโต อคมาสิฯ นาคมาณวิกา ปิตุ ผเณ ฐตฺวา นจฺจมานา ‘‘กิํสุ อธิปฺปตี ราชา’’ติ คีตํ คายติ? อุตฺตโร ‘‘ฉทฺวาราธิปฺปตี ราชา’’ติ ปฏิคีตํ คายิฯ ปุน นาคมาณวิกา ‘‘เกนสฺสุ วุยฺหตี’’ติ ตสฺส คีตํ คายติ? อถสฺสา ปฏิคีตํ คายนฺโต อุตฺตโร ‘‘โอเฆน วุยฺหตี’’ติ อิมํ คาถมาหฯ

นาคราชา ตํ สุตฺวาว พุทฺธสฺส อุปฺปนฺนภาวํ ญตฺวา ‘‘มยา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เอวรูปํ ปทํ นาม น สุตปุพฺพํ, อุปฺปนฺโน วต, โภ, โลเก พุทฺโธ’’ติ ตุฏฺฐมานโส นงฺคุฏฺเฐน อุทกํ ปหริ, มหาวีจิโย อุฏฺฐหิํสุ, อุโภ ตีรานิ ภิชฺชิํสุฯ อิโต จิโต จ อุสภมตฺเต ฐาเน มนุสฺสา อุทเก นิมุชฺชิํสุฯ โส เอตฺตกํ มหาชนํ ผเณ ฐเปตฺวา อุกฺขิปิตฺวา ถเล ปติฏฺฐเปสิฯ โส อุตฺตรํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กหํ, สามิ, สตฺถา’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘เอกสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสินฺโน, มหาราชา’’ติฯ โส ‘‘เอหิ, สามิ, คจฺฉามา’’ติ อุตฺตเรน สทฺธิํ อคมาสิฯ มหาชโนปิ เตน สทฺธิํเยว คโตฯ นาคราชา คนฺตฺวา ฉพฺพณฺณรํสีนํ อนฺตรํ ปวิสิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา โรทมาโน อฏฺฐาสิฯ อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘กิํ อิทํ, มหาราชา’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส สาวโก หุตฺวา วีสติ วสฺสสหสฺสานิ สมณธมฺมํ อกาสิํ, โสปิ มํ สมณธมฺโม นิทฺธาเรตุํ นาสกฺขิฯ อปฺปมตฺตกํ เอรกปตฺตฉินฺทนมตฺตํ นิสฺสาย อเหตุกปฏิสนฺธิํ คเหตฺวา อุเรน ปริสกฺกนฏฺฐาเน นิพฺพตฺโตสฺมิ, เอกํ พุทฺธนฺตรํ เนว มนุสฺสตฺตํ ลภามิ, น สทฺธมฺมสฺสวนํ, น ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส ทสฺสน’’นฺติ สตฺถา ตสฺส กถํ สุตฺวา, ‘‘มหาราช, มนุสฺสตฺตํ นาม ทุลฺลภเมว, ตถา สทฺธมฺมสฺสวนํ , ตถา พุทฺธุปฺปาโท, อิทํ กิจฺเฉน กสิเรน ลพฺภตี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

[182]

‘‘กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ, กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ;

กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ, กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท’’ติฯ

ตสฺสตฺโถ – มหนฺเตน หิ วายาเมน มหนฺเตน กุสเลน ลทฺธตฺตา มนุสฺสตฺตปฏิลาโภ นาม กิจฺโฉ ทุลฺลโภฯ นิรนฺตรํ กสิกมฺมาทีนิ กตฺวา ชีวิตวุตฺติํ ฆฏนโตปิ ปริตฺตฏฺฐายิตายปิ มจฺจานํ ชีวิตํ กิจฺฉํฯ อเนเกสุปิ กปฺเปสุ ธมฺมเทสกสฺส ปุคฺคลสฺส ทุลฺลภตาย สทฺธมฺมสฺสวนมฺปิ กิจฺฉํฯ มหนฺเตน วายาเมน อภินีหารสฺส สมิชฺฌนโต สมิทฺธาภินีหารสฺส จ อเนเกหิปิ กปฺปโกฏิสหสฺเสหิ ทุลฺลภุปฺปาทโต พุทฺธานํ อุปฺปาโทปิ กิจฺโฉเยว, อติวิย ทุลฺลโภติฯ

เทสนาวสาเน จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิฯ นาคราชาปิ ตํทิวสํ โสตาปตฺติผลํ ลเภยฺย, ติรจฺฉานคตตฺตา ปน นาลตฺถฯ

โส เยสุ ปฏิสนฺธิคหณตจชหนวิสฺสฏฺฐนิทฺโทกฺกมนสชาติยาเมถุนเสวนจุติสงฺขาเตสุ ปญฺจสุ ฐาเนสุ นาคสรีรเมว คเหตฺวา กิลมนฺติ, เตสุ อกิลมนภาวํ ปตฺวา มาณวรูเปเนว วิจริตุํ ลภตีติฯ

เอรกปตฺตนาคราชวตฺถุ ตติยํฯ

4. อานนฺทตฺเถรปญฺหวตฺถุ

สพฺพปาปสฺส อกรณนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อานนฺทตฺเถรสฺส ปญฺหํ อารพฺภ กเถสิฯ

เถโร กิร ทิวาฏฺฐาเน นิสินฺโน จินฺเตสิ – ‘‘สตฺถารา สตฺตนฺนํ พุทฺธานํ มาตาปิตโร อายุปริจฺเฉโท โพธิ สาวกสนฺนิปาโต อคฺคสาวกสนฺนิปาโต อคฺคสาวกอุปฏฺฐาโกติ อิทํ สพฺพํ กถิตํ, อุโปสโถ ปน อกถิโต, กิํ นุ โข เตสมฺปิ อยเมว อุโปสโถ, อญฺโญ’’ติ? โส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉิฯ ยสฺมา ปน เตสํ พุทฺธานํ กาลเภโทว อโหสิ, น กถาเภโทฯ วิปสฺสี สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิ สตฺตเม สตฺตเม สํวจฺฉเร อุโปสถํ อกาสิฯ เอกทิวสํ ทินฺโนวาโทเยว หิสฺส สตฺตนฺนํ สํวจฺฉรานํ อลํ โหติฯ สิขี เจว เวสฺสภู จ ฉฏฺเฐ ฉฏฺเฐ สํวจฺฉเร อุโปสถํ กริํสุ, กกุสนฺโธ โกณาคมโน จ สํวจฺฉเร สํวจฺฉเรฯ กสฺสปทสพโล ฉฏฺเฐ ฉฏฺเฐ มาเส อุโปสถํ อกาสิฯ เอกทิวสํ ทินฺโนวาโท เอว หิสฺส ฉนฺนํ มาสานํ อลํ อโหสิฯ ตสฺมา สตฺถา เตสํ อิมํ กาลเภทํ อาโรเจตฺวา ‘‘โอวาทคาถา ปน เนสํ อิมาเยวา’’ติ วตฺวา สพฺเพสํ เอกเมว อุโปสถํ อาวิ กโรนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –

[183]

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสนํฯ

[184]

‘‘ขนฺตี ปรมํ ตโป ติติกฺขา,

นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา;

น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี,

น สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโตฯ

[185]