9. จิญฺจมาณวิกาวตฺถุ
เอกํ ธมฺมนฺติ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต จิญฺจมาณวิกํ อารพฺภ กเถสิฯ
ปฐมโพธิยญฺหิ ทสพลสฺส ปุถุภูเตสุ สาวเกสุ อปฺปมาเณสุ เทวมนุสฺเสสุ อริยภูมิํ โอกฺกนฺเตสุ ปตฺถเฏ คุณสมุทเย มหาลาภสกฺกาโร อุทปาทิฯ ติตฺถิยา สูริยุคฺคมเน ขชฺโชปนกสทิสา อเหสุํ หตลาภสกฺการาฯ เต อนฺตรวีถิยํ ฐตฺวา ‘‘กิํ สมโณ โคตโมว พุทฺโธ, มยมฺปิ พุทฺธา, กิํ ตสฺเสว ทินฺนํ มหปฺผลํ, อมฺหากมฺปิ ทินฺนํ มหปฺผลเมว, อมฺหากมฺปิ เทถ สกฺกโรถา’’ติ เอวํ มนุสฺเส วิญฺญาเปนฺตาปิ ลาภสกฺการํ อลภิตฺวา รโห สนฺนิปติตฺวา ‘‘เกน นุ โข อุปาเยน สมณสฺส โคตมสฺส มนุสฺสานํ อนฺตเร อวณฺณํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสยฺยามา’’ติ จินฺตยิํสุฯ
ตทา สาวตฺถิยํ จิญฺจมาณวิกา นาเมกา ปริพฺพาชิกา อุตฺตมรูปธรา โสภคฺคปฺปตฺตา เทวจฺฉรา วิยฯ อสฺสา สรีรโต รสฺมิโย นิจฺฉรนฺติฯ อเถโก ขรมนฺตี เอวมาห – ‘‘จิญฺจมาณวิกํ ปฏิจฺจ สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสสฺสามา’’ติฯ เต ‘‘อตฺเถโก อุปาโย’’ติ สมฺปฏิจฺฉิํสุฯ อถ สา ติตฺถิยารามํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺฐาสิ, ติตฺถิยา ตาย สทฺธิํ น กเถสุํฯ สา ‘‘โก นุ โข เม โทโส’’ติ ยาวตติยํ ‘‘วนฺทามิ, อยฺยา’’ติ วตฺวา, ‘‘อยฺยา, โก นุ โข เม โทโส, กิํ มยา สทฺธิํ น กเถถา’’ติ อาหฯ ‘‘ภคินิ, สมณํ โคตมํ อมฺเห วิเหฐยนฺตํ หตลาภสกฺกาเร กตฺวา วิจรนฺตํ น ชานาสี’’ติ? ‘‘น ชานามิ, อยฺยา, กิํ ปเนตฺถ มยา กตฺตพฺพ’’นฺติฯ ‘‘สเจ ตฺวํ, ภคินิ, อมฺหากํ สุขมิจฺฉสิ, อตฺตานํ ปฏิจฺจ สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสหี’’ติฯ
สา ‘‘สาธุ, อยฺยา, มยฺหํเวโส ภาโร, มา จินฺตยิตฺถา’’ติ วตฺวา ปกฺกมิตฺวา อิตฺถิมายาสุ กุสลตาย ตโต ปฏฺฐาย สาวตฺถิวาสีนํ ธมฺมกถํ สุตฺวา เชตวนา นิกฺขมนสมเย อินฺทโคปกวณฺณํ ปฏํ ปารุปิตฺวา คนฺธมาลาทิหตฺถา เชตวนาภิมุขี คจฺฉติฯ
‘‘อิมาย เวลาย กุหิํ คจฺฉสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘กิํ ตุมฺหากํ มม คมนฏฺฐาเนนา’’ติ วตฺวา เชตวนสมีเป ติตฺถิยาราเม วสิตฺวา ปาโตว ‘‘อคฺควนฺทนํ วนฺทิสฺสามา’’ติ นครา นิกฺขมนฺเต อุปาสกชเน เชตวนสฺส อนฺโตวุฏฺฐา วิย หุตฺวา นครํ ปวิสติฯ ‘‘กุหิํ วุฏฺฐาสี’’ติ วุตฺเต, ‘‘กิํ ตุมฺหากํ มม วุฏฺฐฏฺฐาเนนา’’ติ วตฺวา มาสทฺธมาสจฺจเยน ปุจฺฉิยมานา เชตวเน สมเณน โคตเมน สทฺธิํ เอกคนฺธกุฏิยา วุฏฺฐามฺหีติฯ ปุถุชฺชนานํ ‘‘สจฺจํ นุ โข เอตํ, โน’’ติ กงฺขํ อุปฺปาเทตฺวา เตมาสจตุมาสจฺจเยน ปิโลติกาหิ อุทรํ เวเฐตฺวา คพฺภินิวณฺณํ ทสฺเสตฺวา อุปริ รตฺตปฏํ ปารุปิตฺวา ‘‘สมณํ โคตมํ ปฏิจฺจ คพฺโภ อุปฺปนฺโน’’ติ อนฺธพาเล สทฺทหาเปตฺวา อฏฺฐนวมาสจฺจเยน อุทเร ทารุมณฺฑลิกํ พนฺธิตฺวา อุปริ ปฏํ ปารุปิตฺวา หตฺถปาทปิฏฺฐิโย โคหนุเกน โกฏฺฏาเปตฺวา อุสฺสเท ทสฺเสตฺวา กิลนฺตินฺทฺริยา หุตฺวา สายนฺหสมเย ตถาคเต อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺเต ธมฺมสภํ คนฺตฺวา ตถาคตสฺส ปุรโต ฐตฺวา, ‘‘มหาสมณ, มหาชนสฺส ตาว ธมฺมํ เทเสสิ, มธุโร เต สทฺโท, สมฺผุสิตํ ทนฺตาวรณํฯ อหํ ปน ตํ ปฏิจฺจ คพฺภํ ลภิตฺวา ปริปุณฺณคพฺภา ชาตา, เนว เม สูติฆรํ ชานาสิ, สปฺปิเตลาทีนิ สยํ อกโรนฺโต อุปฏฺฐากานมฺปิ อญฺญตรํ โกสลราชานํ วา อนาถปิณฺฑิกํ วา วิสาขํ อุปาสิกํ วา ‘อิมิสฺสา จิญฺจมาณวิกาย กตฺตพฺพยุตฺตกํ กโรหี’ติ น วเทสิ, อภิรมิตุํเยว ชานาสิ, คพฺภปริหารํ น ชานาสี’’ติ คูถปิณฺฑํ คเหตฺวา จนฺทมณฺฑลํ ทูเสตุํ วายมนฺตี วิย ปริสมชฺเฌ ตถาคตํ อกฺโกสิฯ ตถาคโต ธมฺมกถํ ฐเปตฺวา สีโห วิย อภินทนฺโต, ‘‘ภคินิ, ตยา กถิตสฺส ตถภาวํ วา วิตถภาวํ วา อหเมว จ ตฺวญฺจ ชานามา’’ติ อาหฯ ‘‘อาม, มหาสมณ, ตยา จ มยา จ ญาตภาเวเนตํ ชาต’’นฺติฯ
ตสฺมิํ ขเณ สกฺกสฺส อาสนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิฯ โส อาวชฺชมาโน ‘‘จิญฺจมาณวิกา ตถาคตํ อภูเตน อกฺโกสตี’’ติ ญตฺวา ‘‘อิทํ วตฺถุํ โสเธสฺสามี’’ติ จตูหิ เทวปุตฺเตหิ สทฺธิํ อาคมิฯ เทวปุตฺตา มูสิกโปตกา หุตฺวา ทารุมณฺฑลิกสฺส พนฺธนรชฺชุเก เอกปฺปหาเรเนว ฉินฺทิํสุ, ปารุตปฏํ วาโต อุกฺขิปิ, ทารุมณฺฑลิกํ ปตมานํ ตสฺสา ปาทปิฏฺฐิยํ ปติ , อุโภ อคฺคปาทา ฉิชฺชิํสุฯ มนุสฺสา ‘‘ธี กาฬกณฺณิ, สมฺมาสมฺพุทฺธํ อกฺโกสี’’ติ สีเส เขฬํ ปาเตตฺวา เลฑฺฑุทณฺฑาทิหตฺตา เชตวนา นีหริํสุฯ
อถสฺสา ตถาคตสฺส จกฺขุปถํ อติกฺกนฺตกาเล มหาปถวี ภิชฺชิตฺวา วิวรมทาสิ, อวีจิโต อคฺคิชาลา อุฏฺฐหิฯ สา กุลทตฺติยํ กมฺพลํ ปารุปมานา วิย คนฺตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติฯ อญฺญติตฺถิยานํ ลาภสกฺกาโร ปริหายิ, ทสพลสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย วฑฺฒิฯ ปุนทิวเส ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺฐาเปสุํ, ‘‘อาวุโส, จิญฺจมาณวิกา เอวํ อุฬารคุณํ อคฺคทกฺขิเณยฺยํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ อภูเตน อกฺโกสิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺตา’’ติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เอสา มํ อภูเตน อกฺโกสิตฺวา วินาสํ ปตฺตาเยวา’’ติ วตฺวา –
‘‘นาทฏฺฐา ปรโต โทสํ, อณุํ ถูลานิ สพฺพโส;
อิสฺสโร ปณเย ทณฺฑํ, สามํ อปฺปฏิเวกฺขิยา’’ติฯ –
อิมํ ทฺวาทสนิปาเต มหาปทุมชาตกํ (ชา. 1.12.106) วิตฺถาเรตฺวา กเถสิ –
ตทา กิเรสา มหาปทุมกุมารสฺส โพธิสตฺตสฺส มาตุ สปตฺตี รญฺโญ อคฺคมเหสี หุตฺวา มหาสตฺตํ อสทฺธมฺเมน นิมนฺเตตฺวา ตสฺส มนํ อลภิตฺวา อตฺตนาว อตฺตนิ วิปฺปการํ กตฺวา คิลานาลยํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ตว ปุตฺโต มํ อนิจฺฉนฺติํ อิมํ วิปฺปการํ ปาเปสี’’ติ รญฺโญ อาโรเจสิฯ ราชา กุทฺโธ มหาสตฺตํ โจรปปาเต ขิปิฯ อถ นํ ปพฺพตกุจฺฉิยํ อธิวตฺถา เทวตา ปฏิคฺคเหตฺวา นาคราชสฺส ผณคพฺเภ ปติฏฺฐเปสิฯ นาคราชา ตํ นาคภวนํ เนตฺวา อุปฑฺฒรชฺเชน สมฺมาเนสิฯ โส ตตฺถ สํวจฺฉรํ วสิตฺวา ปพฺพชิตุกาโม หิมวนฺตปฺปเทสํ ปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิญฺญาโย นิพฺพตฺเตสิฯ อถ นํ เอโก วนจรโก ทิสฺวา รญฺโญ อาโรเจสิฯ ราชา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา กตปฏิสนฺถาโร สพฺพํ ตํ ปวตฺติํ ญตฺวา มหาสตฺตํ รชฺเชน นิมนฺเตตฺวา เตน ‘‘มยฺหํ รชฺเชน กิจฺจํ นตฺถิ, ตฺวํ ปน ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา อคติคมนํ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหี’’ติ โอวทิโต อุฏฺฐายาสนา โรทิตฺวา นครํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค อมจฺเจ ปุจฺฉิ – ‘‘อหํ กํ นิสฺสาย เอวํ อาจารสมฺปนฺเนน ปุตฺเตน วิโยคํ ปตฺโต’’ติ? ‘‘อคฺคมเหสิํ นิสฺสาย, เทวา’’ติฯ ราชา ตํ อุทฺธํปาทํ คเหตฺวา โจรปปาเต ขิปาเปตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิฯ ตทา มหาปทุมกุมาโร สตฺถา อโหสิ, มาตุ สปตฺตี จิญฺจมาณวิกาติฯ
สตฺถา อิมมตฺถํ ปกาเสตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, เอกํ ธมฺมญฺหิ สจฺจวจนํ ปหาย มุสาวาเท ปติฏฺฐิตานํ วิสฺสฏฺฐปรโลกานํ อกตฺตพฺพปาปกมฺมํ นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
[176]
‘‘เอกํ ธมฺมํ อตีตสฺส, มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน;
วิติณฺณปรโลกสฺส, นตฺถิ ปาปํ อการิย’’นฺติฯ
ตตฺถ เอกํ ธมฺมนฺติ สจฺจํฯ มุสาวาทิสฺสาติ ยสฺส ทสสุ วจเนสุ เอกมฺปิ สจฺจํ นตฺถิ, เอวรูปสฺส มุสาวาทิโน ฯ วิติณฺณปรโลกสฺสาติ วิสฺสฏฺฐปรโลกสฺสฯ เอวรูโป หิ มนุสฺสสมฺปตฺติํ เทวสมฺปตฺติํ อวสาเน นิพฺพานสมฺปตฺตินฺติ อิมา ติสฺโสปิ สมฺปตฺติโย น ปสฺสติฯ นตฺถิ ปาปนฺติ ตสฺส เอวรูปสฺส อิทํ นาม ปาปํ อกตฺตพฺพนฺติ นตฺถิฯ
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ
จิญฺจมาณวิกาวตฺถุ นวมํฯ
10. อสทิสทานวตฺถุ
น เว กทริยาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อสทิสทานํ อารพฺภ กเถสิฯ
เอกสฺมิญฺหิ สมเย สตฺถา จาริกํ จริตฺวา ปญฺจสตภิกฺขุปริวาโร เชตวนํ ปาวิสิฯ ราชา วิหารํ คนฺตฺวา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส อาคนฺตุกทานํ สชฺเชตฺวา ‘‘ทานํ เม ปสฺสนฺตู’’ติ นาคเร ปกฺโกสิฯ นาครา อาคนฺตฺวา รญฺโญ ทานํ ทิสฺวา ปุนทิวเส สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา ทานํ สชฺเชตฺวา ‘‘อมฺหากมฺปิ ทานํ, เทโว, ปสฺสตู’’ติ รญฺโญ ปหิณิํสุฯ ราชา เตสํ ทานํ ทิสฺวา ‘‘อิเมหิ มม ทานโต อุตฺตริตรํ กตํ, ปุน ทานํ กริสฺสามี’’ติ ปุนทิวเสปิ ทานํ สชฺเชสิฯ นาคราปิ ตํ ทิสฺวา ปุนทิวเส สชฺชยิํสุฯ เอวํ เนว ราชา นาคเร ปราเชตุํ สกฺโกติ, น นาครา ราชานํฯ อถ ฉฏฺเฐ วาเร นาครา สตคุณํ สหสฺสคุณํ วฑฺเฒตฺวา ยถา น สกฺกา โหติ ‘‘อิทํ นาม อิเมสํ ทาเน นตฺถี’’ติ วตฺตุํ, เอวํ ทานํ สชฺชยิํสุฯ ราชา ตํ ทิสฺวา ‘‘สจาหํ อิเมสํ ทานโต อุตฺตริตรํ กาตุํ น สกฺขิสฺสามิ, กิํ เม ชีวิเตนา’’ติ อุปายํ จินฺเตนฺโต นิปชฺชิฯ