เมนู

ทุสฺสีลภาโวติ เจตฺถ ทุสฺสีลสฺส ฉ ทฺวารานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนา ตณฺหา เวทิตพฺพาฯ มาลุวา สาลมิโวตฺถตนฺติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส ตํ ตณฺหาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ยถา นาม มาลุวา สาลํ โอตฺถรนฺตี เทเว วสฺสนฺเต ปตฺเตหิ อุทกํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สมฺภญฺชนวเสน สพฺพตฺถกเมว ปริโยนนฺธติ, เอวํ อตฺตภาวํ โอตฺถตํ ปริโยนนฺธิตฺวา ฐิตํฯ โส มาลุวาย สมฺภญฺชิตฺวา ภูมิยํ ปาติยมาโน รุกฺโข วิย ตาย ทุสฺสีลฺยสงฺขาตาย ตณฺหาย สมฺภญฺชิตฺวา อปาเยสุ ปาติยมาโน, ยถา นํ อนตฺถกาโม ทิโส อิจฺฉติ, ตถา อตฺตานํ กโรติ นามาติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ

เทวทตฺตวตฺถุ ฉฏฺฐํฯ

7. สงฺฆเภทปริสกฺกนวตฺถุ

สุกรานีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต สงฺฆเภทปริสกฺกนํ อารพฺภ กเถสิฯ

เอกทิวสญฺหิ เทวทตฺโต สงฺฆเภทาย ปริสกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา อตฺตโน อธิปฺปายํ อาโรเจสิฯ ตํ สุตฺวา เถโร สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิํฯ อทฺทสา โข มํ, ภนฺเต, เทวทตฺโต ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํฯ ทิสฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘อชฺชตคฺเค ทานาหํ, อาวุโส อานนฺท, อญฺญตฺเรว ภควตา อญฺญตฺร ภิกฺขุสงฺเฆน อุโปสถํ กริสฺสามิ สงฺฆกมฺมญฺจา’ติฯ อชฺช ภควา เทวทตฺโต สงฺฆํ ภินฺทิสฺสติ, อุโปสถญฺจ กริสฺสติ สงฺฆกมฺมานิ จา’’ติฯ เอวํ วุตฺเต สตฺถา –

‘‘สุกรํ สาธุนา สาธุ, สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ;

ปาปํ ปาเปน สุกรํ, ปาปมริเยหิ ทุกฺกร’’นฺติฯ (อุทา. 48) –

อิมํ อุทานํ อุทาเนตฺวา, ‘‘อานนฺท, อตฺตโน อหิตกมฺมํ นาม สุกรํ, หิตกมฺมเมว ทุกฺกร’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[163]

‘‘สุกรานิ อสาธูนิ, อตฺตโน อหิตานิ จ;

ยํ เว หิตญฺจ สาธุญฺจ, ตํ เว ปรมทุกฺกร’’นฺติฯ

ตสฺสตฺโถ – ยานิ กมฺมานิ อสาธูนิ สาวชฺชานิ อปายสํวตฺตนิกตฺตาเยว อตฺตโน อหิตานิ จ โหนฺติ, ตานิ สุกรานิ ยํ ปน สุคติสํวตฺตนิกตฺตา อตฺตโน หิตญฺจ อนวชฺชตฺเถน สาธุญฺจ สุคติสํวตฺตนิกญฺเจว นิพฺพานสํวตฺตนิกญฺจ กมฺมํ, ตํ ปาจีนนินฺนาย คงฺคาย อุพฺพตฺเตตฺวา ปจฺฉามุขกรณํ วิย อติทุกฺกรนฺติฯ

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ

สงฺฆเภทปริสกฺกนวตฺถุ สตฺตมํฯ

8. กาลตฺเถรวตฺถุ

โย สาสนนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กาลตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิฯ

สาวตฺถิยํ กิเรกา อิตฺถี มาตุฏฺฐาเน ฐตฺวา ตํ เถรํ อุปฏฺฐหิฯ ตสฺสา ปฏิวิสฺสกเคเห มนุสฺสา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘อโห พุทฺธา นาม อจฺฉริยา, อโห ธมฺมเทสนา มธุรา’’ติ ปสํสนฺติฯ สา อิตฺถี เตสํ กถํ สุตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อหมฺปิ สตฺถุ ธมฺมเทสนํ โสตุกามา’’ติ ตสฺส อาโรเจสิฯ โส ‘‘ตตฺถ มา คมี’’ติ ตํ นิวาเรสิฯ สา ปุนทิวเส ปุนทิวเสปีติ ยาวตติยํ เตน นิวาริยมานาปิ โสตุกามาว อโหสิฯ กสฺมา โส ปเนตํ นิวาเรสีติ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา มยิ ภิชฺชิสฺสตี’’ติฯ สา เอกทิวสํ ปาโตว ภุตฺตปาตราสา อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา, ‘‘อมฺม, สาธุกํ อยฺยํ ปริวิเสยฺยาสี’’ติ ธีตรํ อาณาเปตฺวา วิหารํ อคมาสิฯ