เมนู

ตสฺสตฺโถ – ยเถว หิ ปุพฺพณฺณาปรณฺณาทีนํ โอทหนตฺถาย กฏฺฐานิ อุสฺสาเปตฺวา วลฺลีหิ พนฺธิตฺวา มตฺติกาย วิลิมฺเปตฺวา นครสงฺขาตํ พหิทฺธา เคหํ กโรนฺติ, เอวมิทํ อชฺฌตฺติกมฺปิ ตีณิ อฏฺฐิสตานิ อุสฺสาเปตฺวา นฺหารุวินทฺธํ มํสโลหิตเลปนํ ตจปฏิจฺฉนฺนํ ชีรณลกฺขณาย ชราย มรณลกฺขณสฺส มจฺจุโน อาโรหสมฺปทาทีนิ ปฏิจฺจ มญฺญนลกฺขณสฺส มานสฺส สุกตการณวินาสนลกฺขณสฺส มกฺขสฺส จ โอทหนตฺถาย นครํ กตํฯ เอวรูโป เอว หิ เอตฺถ กายิกเจตสิโก อาพาโธ โอหิโต, อิโต อุทฺธํ กิญฺจิ คยฺหูปคํ นตฺถีติฯ

เทสนาวสาเน สา เถรี อรหตฺตํ ปาปุณิ, มหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติฯ

ชนปทกลฺยาณี รูปนนฺทาเถรีวตฺถุ ปญฺจมํฯ

6. มลฺลิกาเทวีวตฺถุ

ชีรนฺติ เวติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มลฺลิกํ เทวิํ อารพฺภ กเถสิฯ

สา กิร เอกทิวสํ นฺหานโกฏฺฐกํ ปวิฏฺฐา มุขํ โธวิตฺวา โอนตสรีรา ชงฺฆํ โธวิตุํ อารภิฯ ตาย จ สทฺธิํเยว ปวิฏฺโฐ เอโก วลฺลภสุนโข อตฺถิฯ โส ตํ ตถา โอนตํ ทิสฺวา อสทฺธมฺมสนฺถวํ กาตุํ อารภิฯ สา ผสฺสํ สาทิยนฺตี อฏฺฐาสิฯ ราชาปิ อุปริปาสาเท วาตปาเนน โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ตโต อาคตกาเล ‘‘นสฺส, วสลิ, กสฺมา เอวรูปมกาสี’’ติ อาหฯ กิํ มยา กตํ, เทวาติฯ สุนเขน สทฺธิํ สนฺถโวติฯ นตฺเถตํ, เทวาติฯ มยา สามํ ทิฏฺฐํ, นาหํ ตว สทฺทหิสฺสามิ, นสฺส, วสลีติฯ ‘‘มหาราช, โย โกจิ อิมํ โกฏฺฐกํ ปวิฏฺโฐ อิมินา วาตปาเนน โอโลเกนฺตสฺส เอโกว ทฺวิธา ปญฺญายตี’’ติ อภูตํ กเถสิฯ เทว, สเจ เม สทฺทหสิ, เอตํ โกฏฺฐกํ ปวิส, อหํ ตํ อิมินา วาตปาเนน โอโลเกสฺสามีติฯ ราชา มูฬฺหธาตุโก ตสฺสา วจนํ สทฺทหิตฺวา โกฏฺฐกํ ปาวิสิฯ สาปิ โข เทวี วาตปาเน ฐตฺวา โอโลเกนฺตี ‘‘อนฺธพาล, มหาราช, กิํ นาเมตํ, อชิกาย สทฺธิํ สนฺถวํ กโรสี’’ติ อาหฯ ‘‘นาหํ, ภทฺเท, เอวรูปํ กโรมี’’ติ จ วุตฺเตปิ ‘‘มยา สามํ ทิฏฺฐํ, นาหํ ตว สทฺทหิสฺสามี’’ติ อาหฯ

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อทฺธา อิมํ โกฏฺฐกํ ปวิฏฺโฐ เอโกว ทฺวิธา ปญฺญายตี’’ติ สทฺทหิฯ มลฺลิกา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา อนฺธพาลตาย มยา วญฺจิโต, ปาปํ เม กตํ, อยญฺจ เม อภูเตน อพฺภาจิกฺขิโต, อิทํ เม กมฺมํ สตฺถาปิ ชานิสฺสติ, ทฺเว อคฺคสาวกาปิ อสีติ มหาสาวกาปิ ชานิสฺสนฺติ, อโห วต เม ภาริยํ กมฺมํ กต’’นฺติฯ อยํ กิร รญฺโญ อสทิสทาเน สหายิกา อโหสิฯ ตตฺถ จ เอกทิวสํ กตปริจฺจาโค ธนสฺส จุทฺทสโกฏิอคฺฆนโก อโหสิฯ ตถาคตสฺส เสตจฺฉตฺตํ นิสีทนปลฺลงฺโก อาธารโก ปาทปีฐนฺติ อิมานิ ปน จตฺตาริ อนคฺฆาเนว อเหสุํฯ สา มรณกาเล เอวรูปํ มหาปริจฺจาคํ นานุสฺสริตฺวา ตเทว ปาปกมฺมํ อนุสฺสรนฺตี กาลํ กตฺวา อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติฯ รญฺโญ ปน สา อติวิย ปิยา อโหสิฯ โส พลวโสกาภิภูโต ตสฺสา สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา ‘‘นิพฺพตฺตฏฺฐานมสฺสา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ อคมาสิฯ สตฺถา ยถา โส อาคตการณํ น สรติ, ตถา อกาสิฯ โส สตฺถุ สนฺติเก สารณียธมฺมกถํ สุตฺวา เคหํ ปวิฏฺฐกาเล สริตฺวา ‘‘อหํ ภเณ มลฺลิกาย นิพฺพตฺตฏฺฐานํ ปุจฺฉิสฺสามีติ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปมุฏฺโฐ, สฺเว ปุน ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ปุนทิวเสปิ อคมาสิฯ สตฺถาปิ ปฏิปาฏิยา สตฺต ทิวสานิ ยถา โส น สรติ , ตถา อกาสิฯ สาปิ สตฺตาหเมว นิรเย ปจฺจิตฺวา อฏฺฐเม ทิวเส ตโต จุตา ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติฯ กสฺมา ปนสฺส สตฺถา อสรณภาวํ อกาสีติ? สา กิร ตสฺส อติวิย ปิยา อโหสิ มนาปา, ตสฺมา ตสฺสา นิรเย นิพฺพตฺตภาวํ สุตฺวา ‘‘สเจ เอวรูปา สทฺธาสมฺปนฺนา นิรเย นิพฺพตฺตา, ทานํ ทตฺวา กิํ กริสฺสามี’’ติ มิจฺฉาทิฏฺฐิํ คเหตฺวา ปญฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ เคเห ปวตฺตํ นิจฺจภตฺตํ หราเปตฺวา นิรเย นิพฺพตฺเตยฺย, เตนสฺส สตฺถา สตฺตาหํ อสรณภาวํ กตฺวา อฏฺฐเม ทิวเส ปิณฺฑาย จรนฺโต สยเมว ราชกุลทฺวารํ อคมาสิฯ

ราชา ‘‘สตฺถา อาคโต’’ติ สุตฺวา นิกฺขมิตฺวา ปตฺตํ อาทาย ปาสาทํ อภิรุหิตุํ อารภิฯ สตฺถา ปน รถสาลาย นิสีทิตุํ อาการํ ทสฺเสสิฯ ราชา สตฺถารํ ตตฺเถว นิสีทาเปตฺวา ยาคุขชฺชเกน ปฏิมาเนตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺโนว อหํ, ภนฺเต, มลฺลิกาย เทวิยา นิพฺพตฺตฏฺฐานํ ปุจฺฉิสฺสามีติ คนฺตฺวา ปมุฏฺโฐ, กตฺถ นุ โข สา, ภนฺเต, นิพฺพตฺตาติฯ

ตุสิตภวเน, มหาราชาติ, ภนฺเต, ตาย ตุสิตภวเน อนิพฺพตฺตนฺติยา โก อญฺโญ นิพฺพตฺติสฺสติ , ภนฺเต, นตฺถิ ตาย สทิสา อิตฺถีฯ ตสฺสา หิ นิสินฺนฏฺฐานาทีสุ ‘‘สฺเว ตถาคตสฺส อิทํ ทสฺสามิ, อิทํ กริสฺสามี’’ติ ทานสํวิธานํ ฐเปตฺวา อญฺญํ กิจฺจเมว นตฺถิ, ภนฺเต, ตสฺสา ปรโลกํ คตกาลโต ปฏฺฐาย สรีรํ เม น วหตีติฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘มา จินฺตยิ, มหาราช, สพฺเพสํ ธุวธมฺโม อย’’นฺติ วตฺวา ‘‘อยํ, มหาราช, รโถ กสฺสา’’ติ ปุจฺฉิฯ ตํ สุตฺวา ราชา สิรสฺมิํ อญฺชลิํ ปติฏฺฐาเปตฺวา ‘‘ปิตามหสฺส เม, ภนฺเต’’ติ อาหฯ ‘‘อยํ กสฺสา’’ติ? ‘‘ปิตุ เม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘อยํ ปน รโถ กสฺสา’’ติ? ‘‘มม, ภนฺเต’’ติฯ เอวํ วุตฺเต สตฺถา, ‘‘มหาราช, ตว ปิตามหสฺส รโถ เตเนวากาเรน ตว ปิตุ รถํ น ปาปุณิ, ตว ปิตุ รโถ ตว รถํ น ปาปุณิ, เอวรูปสฺส นาม กฏฺฐกลิงฺครสฺสาปิ ชรา อาคจฺฉติ, กิมงฺคํ ปน อตฺตภาวสฺสฯ มหาราช, สปฺปุริสธมฺมสฺเสว หิ ชรา นตฺถิ, สตฺตา ปน อชีรกา นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[151]

‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา,

อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;

สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ,

สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺตี’’ติฯ

ตตฺถ เวติ นิปาโตฯ สุจิตฺตาติ สตฺตหิ รตเนหิ อปเรหิ จ รถาลงฺกาเรหิ สุฏฺฐุ จิตฺติตา ราชูนํ รถาปิ ชีรนฺติฯ สรีรมฺปีติ น เกวลํ รถา เอว, อิทํ สุปฺปฏิชคฺคิตํ สรีรมฺปิ ขณฺฑิจฺจาทีนิ ปาปุณนฺตํ ชรํ อุเปติฯ สตญฺจาติ พุทฺธาทีนํ ปน สนฺตานํ นววิโธ โลกุตฺตรธมฺโม จ กิญฺจิ อุปฆาตํ น อุเปตีติ น ชรํ อุเปติ นามฯ ปเวทยนฺตีติ เอวํ สนฺโต พุทฺธาทโย สพฺภิ ปณฺฑิเตหิ สทฺธิํ กเถนฺตีติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ

มลฺลิกาเทวีวตฺถุ ฉฏฺฐํฯ

7. ลาฬุทายิตฺเถรวตฺถุ

อปฺปสฺสุตายนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ลาฬุทายิตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิฯ