เมนู

2. มหากสฺสปตฺเถรสทฺธิวิหาริกวตฺถุ

จรญฺเจ นาธิคจฺเฉยฺยาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สาวตฺถิยํ เชตวเน วิหรนฺโต มหากสฺสปตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อารพฺภ กเถสิฯ เทสนา ราชคเห สมุฏฺฐิตาฯ

เถรํ กิร ราชคหํ นิสฺสาย ปิปฺปลิคุหายํ วสนฺตํ ทฺเว สทฺธิวิหาริกา อุปฏฺฐหิํสุฯ เตสุ เอโก สกฺกจฺจํ วตฺตํ กโรติ, เอโก เตน กตํ กตํ อตฺตนา กตํ วิย ทสฺเสนฺโต มุโขทกทนฺตกฏฺฐานํ ปฏิยาทิตภาวํ ญตฺวา, ‘‘ภนฺเต, มุโขทกทนฺตกฏฺฐานิ เม ปฏิยาทิตานิ, มุขํ โธวถา’’ติ วทติ, ปาทโธวนนฺหานาทิกาเลปิ เอวเมว วทติฯ อิตโร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ นิจฺจกาลํ มยา กตํ กตํ อตฺตนา กตํ วิย กตฺวา ทสฺเสติ, โหตุ, กตฺตพฺพยุตฺตกมสฺส กริสฺสามี’’ติฯ ตสฺส ภุญฺชิตฺวา สุปนฺตสฺเสว นฺหาโนทกํ ตาเปตฺวา เอกสฺมิํ ฆเฏ กตฺวา ปิฏฺฐิโกฏฺฐเก ฐเปสิ, อุทกตาปนภาชเน ปน นาฬิมตฺตํ อุทกํ เสเสตฺวา อุสุมํ มุญฺจนฺตํ ฐเปสิฯ ตํ อิตโร สายนฺหสมเย ปพุชฺฌิตฺวา อุสุมํ นิกฺขนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อุทกํ ตาเปตฺวา โกฏฺฐเก ฐปิตํ ภวิสฺสตี’’ติ เวเคน คนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, โกฏฺฐเก อุทกํ ฐปิตํ, นฺหายถา’’ติ วตฺวา เถเรน สทฺธิํเยว โกฏฺฐกํ ปาวิสิฯ เถโร อุทกํ อปสฺสนฺโต ‘‘กหํ อุทกํ, อาวุโส’’ติ อาหฯ ทหโร อคฺคิสาลํ คนฺตฺวา ภาชเน อุฬุงฺกํ โอตาเรตฺวา ตุจฺฉภาวํ ญตฺวา ‘‘ปสฺสถ ทุฏฺฐสฺส กมฺมํ ตุจฺฉภาชนํ อุทฺธเน อาโรเปตฺวา กุหิํ คโต, อหํ ‘โกฏฺฐเก อุทก’นฺติ สญฺญาย อาโรเจสิ’’นฺติ อุชฺฌายนฺโต ฆฏํ อาทาย ติตฺถํ อคมาสิฯ อิตโรปิ ปิฏฺฐิโกฏฺฐกโต อุทกํ อาหริตฺวา โกฏฺฐเก ฐเปสิฯ

เถโร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ทหโร ‘อุทกํ เม ตาเปตฺวา โกฏฺฐเก ฐปิตํ, เอถ, ภนฺเต, นฺหายถา’ติ วตฺวา อิทานิ อุชฺฌายนฺโต ฆฏํ อาทาย ติตฺถํ คจฺฉติ, กิํ นุ โข เอต’’นฺติ อุปธาเรนฺโต ‘‘เอตฺตกํ กาลํ เอส ทหโร อิมินา กตํ วตฺตํ อตฺตนาว กตํ วิย ปกาเสตี’’ติ ญตฺวา สายํ อาคนฺตฺวา นิสินฺนสฺส โอวาทมทาสิ, ‘‘อาวุโส, ภิกฺขุนา นาม ‘อตฺตนา กตเมว กต’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, โน อกตํ, ตฺวํ อิทาเนว ‘โกฏฺฐเก อุทกํ ฐปิตํ, นฺหายถ, ภนฺเต’ติ วตฺวา มยิ ปวิสิตฺวา ฐิเต ฆฏํ อาทาย อุชฺฌายนฺโต คจฺฉสิ, ปพฺพชิตสฺส นาม เอวํ กาตุํ น วฏฺฏตี’’ติฯ โส ‘‘ปสฺสถ เถรสฺส กมฺมํ, อุทกมตฺตกํ นาม นิสฺสาย มํ เอวํ วเทสี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ปุนทิวเส เถเรน สทฺธิํ ปิณฺฑาย น ปาวิสิฯ เถโร อิตเรน สทฺธิํ เอกํ ปเทสํ อคมาสิฯ โส ตสฺมิํ คเต เถรสฺส อุปฏฺฐากกุลํ คนฺตฺวา ‘‘เถโร กหํ, ภนฺเต’’ติ ปุฏฺโฐ ‘‘เถรสฺส อผาสุกํ ชาตํ, วิหาเรเยว นิสินฺโน’’ติ อาหฯ ‘‘กิํ ปน, ภนฺเต, ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เอวรูปํ กิร นาม อาหารํ เทถา’’ติ วุตฺเต เตน วุตฺตนิยาเมเนว สมฺปาเทตฺวา อทํสุฯ โส อนฺตรามคฺเคว ตํ ภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา วิหารํ คโตฯ เถโรปิ คตฏฺฐาเน มหนฺตํ สุขุมวตฺถํ ลภิตฺวา อตฺตนา สทฺธิํ คตทหรสฺส อทาสิฯ โส ตํ รชิตฺวา อตฺตโน นิวาสนปารุปนํ อกาสิฯ

เถโร ปุนทิวเส ตํ อุปฏฺฐากกุลํ คนฺตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ‘ตุมฺหากํ กิร อผาสุกํ ชาต’นฺติ อมฺเหหิ ทหเรน วุตฺตนิยาเมเนว ปฏิยาเทตฺวา อาหาโร เปสิโต, ปริภุญฺชิตฺวา โว ผาสุกํ ชาต’’นฺติ วุตฺเต ตุณฺหี อโหสิฯ วิหารํ ปน คนฺตฺวา ตํ ทหรํ วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ เอวมาห – ‘‘อาวุโส, ตยา กิร หิยฺโย, อิทํ นาม กตํ, อิทํ ปพฺพชิตานํ น อนุจฺฉวิกํ, วิญฺญตฺติํ กตฺวา ภุญฺชิตุํ น วฏฺฏตี’’ติฯ โส กุชฺฌิตฺวา เถเร อาฆาตํ พนฺธิตฺวา ‘‘ปุริมทิวเส อุทกมตฺตํ นิสฺสาย มํ มุสาวาทิํ กตฺวา อชฺช อตฺตโน อุปฏฺฐากกุเล ภตฺตมุฏฺฐิยา ภุตฺตการณา มํ ‘วิญฺญตฺติํ กตฺวา ภุญฺชิตุํ น วฏฺฏตี’ติ วทติ, วตฺถมฺปิ เตน อตฺตโน อุปฏฺฐากสฺเสว ทินฺนํ, อโห เถรสฺส ภาริยํ กมฺมํ, ชานิสฺสามิสฺส กตฺตพฺพยุตฺตก’’นฺติ ปุนทิวเส เถเร คามํ ปวิสนฺเต สยํ วิหาเร โอหียิตฺวา ทณฺฑํ คเหตฺวา ปริโภคภาชนานิ ภินฺทิตฺวา เถรสฺส ปณฺณสาลาย อคฺคิํ ทตฺวา ยํ น ฌายติ, ตํ มุคฺคเรน ปหรนฺโต ภินฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา ปลาโตฯ โส กาลํ กตฺวา อวีจิมหานิรเย นิพฺพตฺติฯ

มหาชโน กถํ สมุฏฺฐาเปสิ – ‘‘เถรสฺส กิร สทฺธิวิหาริโก โอวาทมตฺตํ อสหนฺโต กุชฺฌิตฺวา ปณฺณสาลํ ฌาเปตฺวา ปลาโต’’ติฯ อเถโก ภิกฺขุ อปรภาเค ราชคหา นิกฺขมิตฺวา สตฺถารํ ทฏฺฐุกาโม เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา สตฺถารา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘กุโต อาคโตสี’’ติ ปุฏฺโฐ ‘‘ราชคหโต, ภนฺเต’’ติ อาหฯ

‘‘มม ปุตฺตสฺส มหากสฺสปสฺส ขมนีย’’นฺติ? ‘‘ขมนียํ, ภนฺเต, เอโก ปน สทฺธิวิหาริโก โอวาทมตฺเตน กุชฺฌิตฺวา ปณฺณสาลํ ฌาเปตฺวา ปลาโต’’ติฯ สตฺถา ‘‘น โส อิทาเนว โอวาทํ สุตฺวา กุชฺฌติ, ปุพฺเพปิ กุชฺฌิเยวฯ น อิทาเนว กุฏิํ ทูเสติ, ปุพฺเพปิ ทูเสสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ –

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต หิมวนฺตปเทเส เอโก สิงฺคิลสกุโณ กุลาวกํ กตฺวา วสิฯ อเถกทิวสํ เทเว วสฺสนฺเต เอโก มกฺกโฏ สีเตน กมฺปมาโน ตํ ปเทสํ อคมาสิฯ สิงฺคิโล ตํ ทิสฺวา คาถมาห –

‘‘มนุสฺสสฺเสว เต สีสํ, หตฺถปาทา จ วานร;

อถ เกน นุ วณฺเณน, อคารํ เต น วิชฺชตี’’ติฯ (ชา. 1.4.81);

มกฺกโฏ ‘‘กิญฺจาปิ เม หตฺถปาทา อตฺถิ, ยาย ปน ปญฺญาย วิจาเรตฺวา อคารํ กเรยฺยํ, สา เม ปญฺญา นตฺถี’’ติ จินฺเตตฺวา ตมตฺถํ วิญฺญาเปตุกาโม อิมํ คาถมาห –

‘‘มนุสฺสสฺเสว เม สีสํ, หตฺถปาทา จ สิงฺคิล;

ยาหุ เสฏฺฐา มนุสฺเสสุ, สา เม ปญฺญา น วิชฺชตี’’ติฯ (ชา. 1.4.82);

อถ นํ ‘‘เอวรูปสฺส ตว กถํ ฆราวาโส อิชฺฌิสฺสตี’’ติ ครหนฺโต สิงฺคิโล อิมํ คาถาทฺวยมาห –

‘‘อนวฏฺฐิตจิตฺตสฺส , ลหุจิตฺตสฺส ทุพฺภิโน;

นิจฺจํ อทฺธุวสีลสฺส, สุขภาโว น วิชฺชติฯ

‘‘โส กรสฺสุ อานุภาวํ, วีติวตฺตสฺสุ สีลิยํ;

สีตวาตปริตฺตาณํ, กรสฺสุ กุฏวํ กปี’’ติฯ (ชา. 1.4.83-84);

มกฺกโฏ ‘‘อยํ มํ อนวฏฺฐิตจิตฺตํ ลหุจิตฺตํ มิตฺตทุพฺภิํ อทฺธุวสีลํ กโรติ, อิทานิสฺส มิตฺตทุพฺภิภาวํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ กุลาวกํ วิทฺธํเสตฺวา วิปฺปกิริฯ สกุโณ ตสฺมิํ กุลาวกํ คณฺหนฺเต เอว เอเกน ปสฺเสน นิกฺขมิตฺวา ปลายิฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มกฺกโฏ กุฏิทูสกภิกฺขุ อโหสิ, สิงฺคิลสกุโณ กสฺสโป อโหสี’’ติ ฯ ชาตกํ สโมธาเนตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, น อิทาเนว, ปุพฺเพปิ โส โอวาทกฺขเณ กุชฺฌิตฺวา กุฏิํ ทูเสสิ, มม ปุตฺตสฺส กสฺสปสฺส เอวรูเปน พาเลน สทฺธิํ วสนโต เอกกสฺเสว นิวาโส เสยฺโย’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

[61]

‘‘จรญฺเจ นาธิคจฺเฉยฺย, เสยฺยํ สทิสมตฺตโน;

เอกจริยํ ทฬฺหํ กยิรา, นตฺถิ พาเล สหายตา’’ติฯ

ตตฺถ จรนฺติ อิริยาปถจารํ อคฺคเหตฺวา มนสาจาโร เวทิตพฺโพ, กลฺยาณมิตฺตํ ปริเยสนฺโตติ อตฺโถฯ เสยฺยํ สทิสมตฺตโนติ อตฺตโน สีลสมาธิปญฺญาคุเณหิ อธิกตรํ วา สทิสํ วา น ลเภยฺย เจฯ เอกจริยนฺติ เอเตสุ หิ เสยฺยํ ลภมาโน สีลาทีหิ วฑฺฒติ, สทิสํ ลภมาโน น ปริหายติ, หีเนน ปน สทฺธิํ เอกโต วสนฺโต เอกโต สํโภคปริโภคํ กโรนฺโต สีลาทีหิ ปริหายติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เอวรูโป ปุคฺคโล น เสวิตพฺโพ น ภชิตพฺโพ น ปยิรุปาสิตพฺโพ อญฺญตฺร อนุทฺทยา อญฺญตฺร อนุกมฺปา’’ติ (ปุ. ป. 121; อ. นิ. 3.26)ฯ ตสฺมา สเจ การุญฺญํ ปฏิจฺจ ‘‘อยํ มํ นิสฺสาย สีลาทีหิ วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ตมฺหา ปุคฺคลา กิญฺจิ อปจฺจาสีสนฺโต ตํ สงฺคณฺหิตุํ สกฺโกติ, อิจฺเจตํ กุสลํ ฯ โน เจ สกฺโกติ, เอกจริยํ ทฬฺหํ กยิรา เอกีภาวเมว ถิรํ กตฺวา สพฺพอิริยาปเถสุ เอกโกว วิหเรยฺยฯ กิํ การณา? นตฺถิ พาเล สหายตาติ สหายตา นาม จูฬสีลํ มชฺฌิมสีลํ มหาสีลํ ทส กถาวตฺถูนิ เตรส ธุตงฺคคุณา วิปสฺสนาคุณา จตฺตาโร มคฺคา จตฺตาริ ผลานิ ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิญฺญาฯ อยํ สหายตาคุโณ พาลํ นิสฺสาย นตฺถีติฯ

เทสนาวสาเน อาคนฺตุโก ภิกฺขุ โสตาปตฺติผลํ ปตฺโต, อญฺเญปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสุ, เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติฯ

มหากสฺสปตฺเถรสทฺธิวิหาริกวตฺถุ ทุติยํฯ

3. อานนฺทเสฏฺฐิวตฺถุ

ปุตฺตา มตฺถีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สาวตฺถิยํ วิหรนฺโต อานนฺทเสฏฺฐิํ อารพฺภ กเถสิฯ

สาวตฺถิยํ กิร อานนฺทเสฏฺฐิ นาม จตฺตาลีสโกฏิวิภโว มหามจฺฉรี อโหสิฯ โส อนฺวฑฺฒมาสํ ญาตเก สนฺนิปาเตตฺวา ปุตฺตํ มูลสิริํ นาม ตีสุ เวลาสุ เอวํ โอวทติ – ‘‘อิทํ จตฺตาลีสโกฏิธนํ ‘พหู’’’ติ มา สญฺญํ กริ, วิชฺชมานํ ธนํ น ทาตพฺพํ, นวํ ธนํ อุปฺปาเทตพฺพํฯ เอเกกมฺปิ หิ กหาปณํ วยํ กโรนฺตสฺส ปน ขียเตวฯ ตสฺมา –

‘‘อญฺชนานํ ขยํ ทิสฺวา, อุปจิกานญฺจ อาจยํ;

มธูนญฺจ สมาหารํ, ปณฺฑิโต ฆรมาวเส’’ติฯ

โส อปเรน สมเยน อตฺตโน ปญฺจ มหานิธิโย ปุตฺตสฺส อนาจิกฺขิตฺวา ธนนิสฺสิโต มจฺเฉรมลมลิโน กาลํ กตฺวา ตสฺเสว นครสฺส เอกสฺมิํ ทฺวารคามเก จณฺฑาลานํ กุลสหสฺสํ ปฏิวสติฯ ตตฺเถกิสฺสา จณฺฑาลิยา กุจฺฉิสฺมิํ ปฏิสนฺธิํ คณฺหิฯ ราชา ตสฺส กาลกิริยํ สุตฺวา ปุตฺตมสฺส มูลสิริํ ปกฺโกสาเปตฺวา เสฏฺฐิฏฺฐาเน ฐเปสิฯ ตมฺปิ จณฺฑาลกุลสหสฺสํ เอกโตว ภติยา กมฺมํ กตฺวา ชีวมานํ ตสฺส ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปฏฺฐาย เนว ภติํ ลภติ, น ยาปนมตฺตโต ปรํ ภตฺตปิณฺฑมฺปิฯ เต ‘‘มยํ เอตรหิ กมฺมํ กโรนฺตาปิ ปิณฺฑภตฺตมฺปิ น ลภาม, อมฺหากํ อนฺตเร กาฬกณฺณิยา ภวิตพฺพ’’นฺติ ทฺเว โกฏฺฐาสา หุตฺวา ยาว ตสฺส มาตาปิตโร วิสุํ โหนฺติ, ตาว วิภชิตฺวา ‘‘อิมสฺมิํ กุเล กาฬกณฺณี อุปฺปนฺนา’’ติ ตสฺส มาตรํ นีหริํสุฯ

สาปิ ยาวสฺสา โส กุจฺฉิคโต, ตาว ยาปนมตฺตมฺปิ กิจฺเฉน ลภิตฺวา ปุตฺตํ วิชายิฯ ตสฺส หตฺถา จ ปาทา จ อกฺขีนิ จ กณฺณา จ นาสา จ มุขญฺจ ยถาฐาเน น อเหสุํฯ โส เอวรูเปน องฺคเวกลฺเลน สมนฺนาคโต ปํสุปิสาจโก วิย อติวิรูโป อโหสิฯ เอวํ สนฺเตปิ ตํ มาตา น ปริจฺจชิฯ กุจฺฉิยํ วสิตปุตฺตสฺมิญฺหิ สิเนโห พลวา โหติฯ สา ตํ กิจฺเฉน โปสยมานา ตํ อาทาย คตทิวเส กิญฺจิ อลภิตฺวา เคเห กตฺวา สยเมว คตทิวเส ภติํ ลภติฯ