เมนู

5. พาลวคฺโค

1. อญฺญตรปุริสวตฺถุ

ทีฆา ชาครโต รตฺตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปเสนทิโกสลญฺเจว อญฺญตรญฺจ ปุริสํ อารพฺภ กเถสิฯ

ราชา กิร ปเสนทิ โกสโล เอกสฺมิํ ฉณทิวเส อลงฺกตปฏิยตฺตํ สพฺพเสตํ เอกํ ปุณฺฑรีกํ นาม หตฺถิํ อภิรุยฺห มหนฺเตน ราชานุภาเวน นครํ ปทกฺขิณํ กโรติฯ อุสฺสารณาย วตฺตมานาย เลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ โปถิยมาโน มหาชโน ปลายนฺโต คีวํ ปริวฏฺเฏตฺวาปิ โอโลเกติเยวฯ ราชูนํ กิร สุทินฺนทานสฺเสตํ ผลํฯ อญฺญตรสฺสาปิ ทุคฺคตปุริสสฺส ภริยา สตฺตภูมิกสฺส ปาสาทสฺส อุปริตเล ฐิตา เอกํ วาตปานกวาฏํ วิวริตฺวา ราชานํ โอโลเกตฺวาว อปคจฺฉิฯ รญฺโญ ปุณฺณจนฺโท วลาหกนฺตรํ ปวิฏฺโฐ วิย อุปฏฺฐาสิฯ โส ตสฺสา ปฏิพทฺธจิตฺโต หตฺถิกฺขนฺธโต ปตนาการปฺปตฺโต วิย หุตฺวา ขิปฺปํ นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อนฺเตปุรํ ปวิสิตฺวา เอกํ วิสฺสาสกํ อมจฺจํ อาห – ‘‘อสุกฏฺฐาเน เต มยา โอโลกิตปาสาโท ทิฏฺโฐ’’ติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติฯ ‘‘ตตฺเถกํ อิตฺถิํ อทฺทสา’’ติ? ‘‘อทฺทสํ, เทวา’’ติฯ ‘‘คจฺฉ, ตสฺสา สสามิกอสามิกภาวํ ชานาหี’’ติฯ โส คนฺตฺวา ตสฺสา สสามิกภาวํ ญตฺวา อาคนฺตฺวา รญฺโญ ‘‘สสามิกา’’ติ อาโรเจสิฯ อถ รญฺญา ‘‘เตน หิ ตสฺสา สามิกํ ปกฺโกสาหี’’ติ วุตฺเต โส คนฺตฺวา, ‘‘เอหิ, โภ, ราชา ตํ ปกฺโกสตี’’ติ อาหฯ โส ‘‘ภริยํ เม นิสฺสาย ภเยน อุปฺปนฺเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา รญฺโญ อาณํ ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺโต คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อฏฺฐาสิฯ อถ นํ ราชา ‘‘มํ อิโต ปฏฺฐาย อุปฏฺฐาหี’’ติ อาหฯ ‘‘อลํ, เทว, อหํ อตฺตโน กมฺมํ กตฺวา ตุมฺหากํ สุงฺกํ ททามิ, ฆเรเยว เม ชีวิกา โหตู’’ติฯ ‘‘ตว สุงฺเกน มยฺหํ อตฺโถ นตฺถิ, อชฺชโต ปฏฺฐาย มํ อุปฏฺฐาหี’’ติ ตสฺส ผลกญฺจ อาวุธญฺจ ทาเปสิฯ เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘กญฺจิเทวสฺส โทสํ อาโรเปตฺวา ฆาเตตฺวา ภริยํ คณฺหิสฺสามี’’ติฯ อถ นํ โส มรณภยภีโต อปฺปมตฺโต หุตฺวา อุปฏฺฐาสิฯ

ราชา ตสฺส โทสํ อปสฺสนฺโต กามปริฬาเห วฑฺฒนฺเต ‘‘เอกมสฺส โทสํ อาโรเปตฺวา ราชาณํ กริสฺสามี’’ติ ปกฺโกสาเปตฺวา เอวมาห – ‘‘อมฺโภ อิโต โยชนมตฺถเก นทิยา อสุกฏฺฐานํ นาม คนฺตฺวา สายํ มม นฺหานเวลาย กุมุทุปฺปลานิ เจว อรุณวตีมตฺติกญฺจ อาหรฯ สเจ ตสฺมิํ ขเณ นาคจฺฉสิ, อาณํ เต กริสฺสามี’’ติฯ เสวโก กิร จตูหิปิ ทาเสหิ ปติกิฏฺฐตโรฯ ธนกฺกีตาทโย หิ ทาสา ‘‘สีสํ เม รุชฺชติ, ปิฏฺฐิ เม รุชฺชตี’’ติ วตฺวา อจฺฉิตุํ ลภนฺติเยวฯ เสวกสฺเสตํ นตฺถิ, อาณตฺตกมฺมํ กาตุเมว วฏฺฏติฯ ตสฺมา โส ‘‘อวสฺสํ มยา คนฺตพฺพํ, กุมุทุปฺปเลหิ สทฺธิํ อรุณวตีมตฺติกา นาม นาคภวเน อุปฺปชฺชติ, อหํ กุหิํ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตนฺโต มรณภยภีโต เวเคน เคหํ คนฺตฺวา, ‘‘ภทฺเท, นิฏฺฐิตํ เม ภตฺต’’นฺติ อาหฯ ‘‘อุทฺธนมตฺถเก, สามี’’ติฯ โส ยาว ภตฺตํ โอตรติ, ตาว สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต อุฬุงฺเกน กญฺชิกํ หราเปตฺวา ยถาลทฺเธน พฺยญฺชเนน สทฺธิํ อลฺลเมว ภตฺตํ ปจฺฉิยํ โอปีเฬตฺวา อาทาย โยชนิกํ มคฺคํ ปกฺขนฺโท, ตสฺส คจฺฉนฺตสฺเสว ภตฺตํ ปกฺกํ อโหสิฯ โส อนุจฺฉิฏฺฐํ กตฺวาว โถกํ ภตฺตํ อปเนตฺวา ภุญฺชนฺโต เอกํ อทฺธิกํ ทิสฺวา มยา อปเนตฺวา ฐปิตํ โถกํ อนุจฺฉิฏฺฐํ ภตฺตเมว อตฺถิ คเหตฺวา ภุญฺช สามีติฯ โส คณฺหิตฺวา ภุญฺชิฯ อิตโรปิ ภุญฺชิตฺวา เอกํ ภตฺตมุฏฺฐิํ อุทเก ขิปิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา มหนฺเตน สทฺเทน ‘‘อิมสฺมิํ นทีปเทเส อธิวตฺถา นาคา สุปณฺณา เทวตา จ วจนํ เม สุณนฺตุ, ราชา มยฺหํ อาณํ กาตุกาโม ‘กุมุทุปฺปเลหิ สทฺธิํ อรุณวตีมตฺติกํ อาหรา’ติ มํ อาณาเปสิ, อทฺธิกมนุสฺสสฺส จ เม ภตฺตํ ทินฺนํ, ตํ สหสฺสานิสํสํ, อุทเก มจฺฉานํ ทินฺนํ, ตํ สตานิสํสํฯ เอตฺตกํ ปุญฺญผลํ ตุมฺหากํ ปตฺติํ กตฺวา ทมฺมิ, มยฺหํ กุมุทุปฺปเลหิ สทฺธิํ อรุณวตีมตฺติกํ อาหรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ อนุสฺสาเวสิฯ ตตฺถ อธิวตฺโถ นาคราชา ตํ สทฺทํ สุตฺวา มหลฺลกเวเสน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กิํ วเทสี’’ติ อาหฯ โส ปุนปิ ตเถว วตฺวา ‘‘มยฺหํ ตํ ปตฺติํ เทหี’’ติ วุตฺเต, ‘‘เทมี’’ติ อาหฯ ปุนปิ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต, ‘‘เทมิ, สามี’’ติ อาหฯ เอวํ โส ทฺเว ตโย วาเร ปตฺติํ อาหราเปตฺวา กุมุทุปฺปเลหิ สทฺธิํ อรุณวตีมตฺติกํ อทาสิฯ

ราชา ปน จินฺเตสิ – ‘‘มนุสฺสา นาม พหุมายา, สเจ โส เกนจิ อุปาเยน ลเภยฺย, กิจฺจํ เม น นิปฺผชฺเชยฺยา’’ติฯ โส กาลสฺเสว ทฺวารํ ปิทหาเปตฺวา มุทฺทิกํ อตฺตโน สนฺติกํ อาหราเปสิฯ อิตโรปิ ปุริโส รญฺโญ นฺหานเวลายเมวาคนฺตฺวา ทฺวารํ อลภนฺโต ทฺวารปาลํ ปกฺโกเสตฺวา ‘‘ทฺวารํ วิวรา’’ติ อาหฯ ‘‘น สกฺกา วิวริตุํ, ราชา กาลสฺเสว มุทฺทิกํ ทตฺวา ราชเคหํ อาหราเปสี’’ติฯ โส ‘‘ราชทูโต อหํ, ทฺวารํ วิวรา’’ติ วตฺวาปิ ‘‘ทฺวารํ อลภนฺโต นตฺถิ เม อิทานิ ชีวิตํฯ กิํ นุ โข กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทฺวารสฺส อุปริอุมฺมาเร มตฺติกาปิณฺฑํ ขิปิตฺวา ตสฺสูปริ ปุปฺผานิ ลคฺเคตฺวา มหาสทฺทํ กโรนฺโต, ‘‘อมฺโภ, นครวาสิโน รญฺโญ มยา อาณตฺติยา คตภาวํ ชานาถ, ราชา มํ อการเณน วินาเสตุกาโม’’ติ ติกฺขตฺตุํ วิรวิตฺวา ‘‘กตฺถ นุ โข คจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ภิกฺขู นาม มุทุหทยา, วิหารํ คนฺตฺวา นิปชฺชิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺฐานมกาสิฯ อิเม หิ นาม สตฺตา สุขิตกาเล ภิกฺขูนํ อตฺถิภาวมฺปิ อชานิตฺวา ทุกฺขาภิภูตกาเล วิหารํ คนฺตุกามา โหนฺติ, ตสฺมา โสปิ ‘‘เม อญฺญํ ตาณํ นตฺถี’’ติ วิหารํ คนฺตฺวา เอกสฺมิํ ผาสุกฏฺฐาเน นิปชฺชิฯ อถ รญฺโญปิ ตํ รตฺติํ นิทฺทํ อลภนฺตสฺส ตํ อิตฺถิํ อนุสฺสรนฺตสฺส กามปริฬาโห อุปฺปชฺชิฯ โส จินฺเตสิ – ‘‘วิภาตกฺขเณเยว ตํ ปุริสํ ฆาตาเปตฺวา ตํ อิตฺถิํ อาเนสฺสามี’’ติฯ

ตสฺมิํ ขเณเยว สฏฺฐิโยชนิกาย โลหกุมฺภิยา นิพฺพตฺตา จตฺตาโร ปุริสา ปกฺกุถิตาย อุกฺขลิยา ตณฺฑุลา วิย สมฺปริวตฺตกํ ปจฺจมานา ติํสาย วสฺสสหสฺเสหิ เหฏฺฐิมตลํ ปตฺวา อปเรหิ ติํสาย วสฺสสหสฺเสหิ ปุน มุขวฏฺฏิยํ ปาปุณิํสุฯ เต สีสํ อุกฺขิปิตฺวา อญฺญมญฺญํ โอโลเกตฺวา เอเกกํ คาถํ วตฺตุกามา วตฺตุํ อสกฺโกนฺตา เอเกกํ อกฺขรํ วตฺวา ปริวตฺติตฺวา โลหกุมฺภิเมว ปวิฏฺฐาฯ ราชา นิทฺทํ อลภนฺโต มชฺฌิมยามสมนนฺตเร ตํ สทฺทํ สุตฺวา ภีโต อุตฺรสฺตมานโส ‘‘กิํ นุ โข มยฺหํ ชีวิตนฺตราโย ภวิสฺสติ, อุทาหุ เม อคฺคมเหสิยา, อุทาหุ เม รชฺชํ วินสฺสิสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต สกลรตฺติํ อกฺขีนิ นิมีเลตุํ นาสกฺขิฯ

โส อรุณุคฺคมนเวลาย เอว ปุโรหิตํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘อาจริย, มยา มชฺฌิมยามสมนนฺตเร มหนฺตา เภรวสทฺทา สุตา, ‘รชฺชสฺส วา อคฺคมเหสิยา วา มยฺหํ วา กสฺส อนฺตราโย ภวิสฺสตี’ติ น ชานามิ, เตน เม ตฺวํ ปกฺโกสาปิโต’’ติ อาหฯ มหาราช, กิํ เต สทฺทา สุตาติ? ‘‘อาจริย, ทุ-อิติ -อิติ -อิติ โส-อิตีติ อิเม สทฺเท อสฺโสสิํ, อิเมสํ นิปฺผตฺติํ อุปธาเรหี’’ติฯ พฺราหฺมณสฺส มหาอนฺธการํ ปวิฏฺฐสฺส วิย น กิญฺจิ ปญฺญายติ, ‘‘น ชานามี’’ติ วุตฺเต ‘‘ปน ลาภสกฺกาโร เม ปริหายิสฺสตี’’ติ ภายิตฺวา ‘‘ภาริยํ, มหาราชา’’ติ อาหฯ ‘‘กิํ, อาจริยา’’ติ? ‘‘ชีวิตนฺตราโย เต ปญฺญายตี’’ติฯ โส ทฺวิคุณํ ภีโต, ‘‘อาจริย, อตฺถิ กิญฺจิ ปน ปฏิฆาตการณ’’นฺติ อาหฯ ‘‘อตฺถิ, มหาราช, มา ภายิ, อหํ ตโย เวเท ชานามี’’ติฯ ‘‘กิํ ปน ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘สพฺพสตยญฺญํ ยชิตฺวา ชีวิตํ ลภิสฺสสิ, เทวา’’ติฯ ‘‘กิํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? หตฺถิสตํ อสฺสสตํ อุสภสตํ เธนุสตํ อชสตํ อุรพฺภสตํ กุกฺกุฏสตํ สูกรสตํ ทารกสตํ ทาริกาสตนฺติ เอวํ เอเกกํ ปาณชาติํ สตํ สตํ กตฺวา คณฺหาเปนฺโต ‘‘สเจ มิคชาติเมว คณฺหาเปสฺสามิ, ‘อตฺตโน ขาทนียเมว คณฺหาเปตี’ติ วกฺขนฺตี’’ติ หตฺถิอสฺสมนุสฺเสปิ คณฺหาเปติฯ ราชา ‘‘มม ชีวิตเมว มยฺหํ ลาโภ’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สพฺพปาเณ สีฆํ คณฺหถา’’ติ อาหฯ อาณตฺตมนุสฺสา อธิกตรํ คณฺหิํสุฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ โกสลสํยุตฺเต –

‘‘เตน โข ปน สมเยน รญฺโญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส มหายญฺโญ ปจฺจุปฏฺฐิโต โหติ, ปญฺจ จ อุสภสตานิ ปญฺจ จ วจฺฉตรสตานิ ปญฺจ จ วจฺฉตริสตานิ ปญฺจ จ อชสตานิ ปญฺจ จ อุรพฺภสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยญฺญตฺถายฯ เยปิสฺส เต โหนฺติ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ ทณฺฑตชฺชิตา ภยตชฺชิตา อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ กโรนฺตี’’ติ (สํ. นิ. 1.120)ฯ

มหาชโน อตฺตโน อตฺตโน ปุตฺตธีตุญาตีนํ อตฺถาย ปริเทวมาโน มหาสทฺทมกาสิ, มหาปถวีอุนฺทฺริยนสทฺโท วิย อโหสิฯ อถ มลฺลิกา เทวี ตํ สทฺทํ สุตฺวา รญฺโญ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กิํ นุ โข เต, มหาราช, อินฺทฺริยานิ อปากติกานิ, กิลนฺตรูปานิ วิย ปญฺญายนฺตี’’ติ ปุจฺฉิฯ

‘‘กิํ ตุยฺหํ , มลฺลิเก, ตฺวํ มม กณฺณมูเลน อาสิวิสมฺปิ คจฺฉนฺตํ น ชานาสี’’ติ? ‘‘กิํ ปเนตํ, เทวา’’ติ? ‘‘รตฺติภาเค เม เอวรูโป นาม สทฺโท สุโต , สฺวาหํ ปุโรหิตํ ปุจฺฉิตฺวา ชีวิตนฺตราโย เต ปญฺญายติ, สพฺพสตยญฺญํ ยชิตฺวา ชีวิตํ ลภิสฺสสี’’ติ สุตฺวา ‘‘มม ชีวิตเมว มยฺหํ ลาโภ’’ติ อิเม ปาเณ คณฺหาเปสินฺติฯ มลฺลิกา เทวี, ‘‘อนฺธพาโลสิ, มหาราช, กิญฺจาปิ มหาภกฺโขสิ, อเนกสูปพฺยญฺชนวิกติกํ โทณปากํ โภชนํ ภุญฺชสิ, ทฺวีสุ รฏฺเฐสุ รชฺชํ กาเรสิ, ปญฺญา ปน เต มนฺทา’’ติ อาหฯ ‘‘กสฺมา เอวํ วเทสิ, เทวี’’ติ? ‘‘กหํ ตยา อญฺญสฺส มรเณน อญฺญสฺส ชีวิตลาโภ ทิฏฺฐปุพฺโพ, อนฺธพาลสฺส พฺราหฺมณสฺส กถํ คเหตฺวา กสฺมา มหาชนสฺส อุปริ ทุกฺขํ ขิปสิ, ธุรวิหาเร สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคปุคฺคโล อตีตาทีสุ อปฺปฏิหตญาโณ สตฺถา วสติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา ตสฺโสวาทํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ราชา สลฺลหุเกหิ ยาเนหิ มลฺลิกาย สทฺธิํ วิหารํ คนฺตฺวา มรณภยตชฺชิโต กิญฺจิ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ

อถ นํ สตฺถา ‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, มหาราช, อาคจฺฉสิ ทิวา ทิวสฺสา’’ติ ปฐมตรํ อาลปิฯ โส ตุณฺหีเยว นิสีทิฯ ตโต มลฺลิกา ภควโต อาโรเจสิ – ‘‘ภนฺเต, รญฺญา กิร มชฺฌิมยามสมนนฺตเร สทฺโท สุโตฯ อถ นํ ปุโรหิตสฺส อาโรเจสิฯ ปุโรหิโต ‘ชีวิตนฺตราโย เต ภวิสฺสติ, ตสฺส ปฏิฆาตตฺถาย สพฺพสเต ปาเณ คเหตฺวา เตสํ คลโลหิเตน ยญฺเญ ยชิเต ชีวิตํ ลภิสฺสสี’ติ อาหฯ ราชา ปาเณ คณฺหาเปสิ, เตนายํ มยา อิธานีโต’’ติฯ ‘‘เอวํ กิร, มหาราชา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กินฺติ เต สทฺโท สุโต’’ติ? โส อตฺตนา สุตนิยาเมเนว อาจิกฺขิฯ ตถาคตสฺส ตํ สุตฺวาว เอโกภาโส อโหสิฯ อถ นํ สตฺตา อาห – ‘‘มา ภายิ, มหาราช, ตว อนฺตราโย นตฺถิ, ปาปกมฺมิโน สตฺถา อตฺตโน ทุกฺขํ อาวีกโรนฺตา เอวมาหํสู’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, ภนฺเต, เตหิ กต’’นฺติ? อถ โข ภควา เตสํ กมฺมํ อาจิกฺขิตุํ ‘‘เตน หิ, มหาราช, สุณาหี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ –

อตีเต วีสติวสฺสสหสฺสายุเกสุ มนุสฺเสสุ กสฺสโป ภควา โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา วีสติยา ขีณาสวสหสฺเสหิ สทฺธิํ จาริกํ จรมาโน พาราณสิมคมาสิฯ

พาราณสิวาสิโน ทฺเวปิ ตโยปิ พหุตราปิ เอกโต หุตฺวา อาคนฺตุกทานํ ปวตฺตยิํสุฯ ตทา พาราณสิยํ จตฺตาลีสโกฏิวิภวา จตฺตาโร เสฏฺฐิปุตฺตา สหายกา อเหสุํฯ เต มนฺตยิํสุ – ‘‘อมฺหากํ เคเห พหุธนํ, เตน กิํ กโรมา’’ติ? ‘‘เอวรูเป พุทฺเธ จาริกํ จรมาเน ทานํ ทสฺสาม, สีลํ รกฺขิสฺสาม, ปูชํ กริสฺสามา’’ติ เอโกปิ อวตฺวา เตสุ เอโก ตาว เอวมาห – ‘‘ติขิณสุรํ ปิวนฺตา มธุรมํสํ ขาทนฺตา วิจริสฺสาม, อิทํ อมฺหากํ ชีวิตผล’’นฺติฯ อปโรปิ เอวมาห – ‘‘เทวสิกํ ติวสฺสิกคนฺธสาลิภตฺตํ นานคฺครเสหิ ภุญฺชนฺตา วิจริสฺสามา’’ติฯ อปโรปิ เอวมาห – ‘‘นานปฺปการํ ปูวขชฺชกวิกติํ ปจาเปตฺวา ขาทนฺตา วิจริสฺสามา’’ติฯ อปโรปิ เอวมาห – ‘‘สมฺมา มยํ อญฺญํ กิญฺจิ น กริสฺสาม, ‘ธนํ ทสฺสามา’ติ วุตฺเต อนิจฺฉมานา อิตฺถี นาม นตฺถิ, ตสฺมา ธเนน ปโลเภตฺวา ปารทาริกกมฺมํ กริสฺสามา’’ติฯ ‘‘สาธุ, สาธู’’ติ สพฺเพว ตสฺส กถาย อฏฺฐํสุฯ

เต ตโต ปฏฺฐาย อภิรูปานํ อิตฺถีนํ ธนํ เปเสตฺวา วีสติวสฺสสหสฺสานิ ปารทาริกกมฺมํ กตฺวา กาลํ กตฺวา อวีจินิรเย นิพฺพตฺตาฯ เต เอกํ พุทฺธนฺตรํ นิรเย ปจฺจิตฺวา ตตฺถ กาลํ กตฺวา ปกฺกาวเสเสน สฏฺฐิโยชนิกาย โลหกุมฺภิยา นิพฺพตฺติตฺวา ติํสาย วสฺสสหสฺเสหิ เหฏฺฐิมตลํ ปตฺวา ปุนปิ ติํสาย วสฺสสหสฺเสหิ โลหกุมฺภิมุขํ ปตฺวา เอเกกํ คาถํ วตฺตุกามา หุตฺวา วตฺตุํ อสกฺโกนฺตา เอเกกํ อกฺขรํ วตฺวา ปุน ปริวตฺติตฺวา, โลหกุมฺภิเมว ปวิฏฺฐาฯ ‘‘วเทหิ, มหาราช, ปฐมํ เต กิํ สทฺโท นาม สุโต’’ติ? ‘‘ทุ-อิติ, ภนฺเต’’ติฯ สตฺถา เตน อปริปุณฺณํ กตฺวา วุตฺตํ คาถํ ปริปุณฺณํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต เอวมาห –

‘‘ทุชฺชีวิตมชีวิมฺห , เย สนฺเต น ททมฺหเส;

วิชฺชมาเนสุ โภเคสุ, ทีปํ นากมฺห อตฺตโน’’ติฯ (ชา. 1.4.53; เป. ว. 804);

อถ รญฺโญ อิมิสฺสา คาถาย อตฺถํ ปกาเสตฺวา, ‘‘กิํ เต, มหาราช, ทุติยสทฺโท ตติยสทฺโท จตุตฺถสทฺโท สุโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอวํ นามา’’ติ วุตฺเต อวเสสํ ปริปูเรนฺโต –

‘‘สฏฺฐิวสฺสสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ สพฺพโส;

นิรเย ปจฺจมานานํ, กทา อนฺโต ภวิสฺสติฯ

‘‘นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต, น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ;

ตทา หิ ปกตํ ปาปํ, มม ตุยฺหญฺจ มาริสาฯ

‘‘โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา, โยนิํ ลทฺธาน มานุสิํ;

วทญฺญู สีลสมฺปนฺโน, กาหามิ กุสลํ พหุ’’นฺติฯ (ชา. 1.4.54-56; เป. ว. 802, 803, 805) –

ปฏิปาฏิยา อิมา คาถา วตฺวา ตาสํ อตฺถํ ปกาเสตฺวา ‘‘อิติ โข, มหาราช, เต จตฺตาโร ชนา เอเกกํ คาถํ วตฺตุกามาปิ วตฺตุํ อสกฺโกนฺตา เอกกเมว อกฺขรํ วตฺวา ปุน โลหกุมฺภิเมว ปวิฏฺฐา’’ติ อาหฯ

รญฺญา กิร ปเสนทิโกสเลน ตสฺส สทฺทสฺส สุตกาลโต ปฏฺฐาย เต เหฏฺฐา ภสฺสนฺติ เอว, อชฺชาปิ เอกํ วสฺสสหสฺสํ นาติกฺกมนฺติฯ รญฺโญ ตํ เทสนํ สุตฺวา มหาสํเวโค อุปฺปชฺชิฯ โส ‘‘ภาริยํ วติทํ ปารทาริกกมฺมํ นาม, เอกํ กิร พุทฺธนฺตรํ นิรเย ปจฺจิตฺวา ตโต จุตา สฏฺฐิโยชนิกาย โลหกุมฺภิยา นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ สฏฺฐิวสฺสสหสฺสานิ ปจฺจิตฺวา เอวมฺปิ เนสํ ทุกฺขา มุจฺจนกาโล น ปญฺญายติ, อหมฺปิ ปรทาเร สิเนหํ กตฺวา สพฺพรตฺติํ นิทฺทํ น ลภิํ, อิทานิ อิโต ปฏฺฐาย ปรทาเร มานสํ น พนฺธิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตถาคตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, อชฺช เม รตฺติยา ทีฆภาโว ญาโต’’ติฯ โสปิ ปุริโส ตตฺเถว นิสินฺโน ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘ลทฺโธ เม พลวปฺปจฺจโย’’ติ สตฺถารํ อาห – ‘‘ภนฺเต, รญฺญา ตาว อชฺช รตฺติยา ทีฆภาโว ญาโต, อหํ ปน หิยฺโย สยเมว โยชนสฺส ทีฆภาวํ อญฺญาสิ’’นฺติฯ สตฺถา ทฺวินฺนมฺปิ กถํ สํสนฺทิตฺวา ‘‘เอกจฺจสฺส รตฺติ ทีฆา โหติ, เอกจฺจสฺส โยชนํ ทีฆํ โหติ, พาลสฺส ปน สํสาโร ทีโฆ โหตี’’ติ วตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมํ คาถมาห –

[60]

‘‘ทีฆา ชาครโต รตฺติ, ทีฆํ สนฺตสฺส โยชนํ;

ทีโฆ พาลาน สํสาโร, สทฺธมฺมํ อวิชานต’’นฺติฯ

ตตฺถ ทีฆาติ รตฺติ นาเมสา ติยามมตฺตาว, ชาครนฺตสฺส ปน ทีฆา โหติ, ทฺวิคุณติคุณา วิย หุตฺวา ขายติฯ

ตสฺสา ทีฆภาวํ อตฺตานํ มงฺกุณสงฺฆสฺส ภตฺตํ กตฺวา ยาว สูริยุคฺคมนา สมฺปริวตฺตกํ เสมาโน มหากุสีโตปิ, สุโภชนํ ภุญฺชิตฺวา สิริสยเน สยมาโน กามโภคีปิ น ชานาติ, สพฺพรตฺติํ ปน ปธานํ ปทหนฺโต โยคาวจโร จ, ธมฺมกถํ กเถนฺโต ธมฺมกถิโก จ, อาสนสมีเป ฐตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต จ, สีสโรคาทิผุฏฺโฐ วา หตฺถปาทจฺเฉทนาทิํ ปตฺโต วา เวทนาภิภูโต จ, รตฺติํ มคฺคปฏิปนฺโน อทฺธิโก จ ชานาติฯ โยชนนฺติ โยชนมฺปิ จตุคาวุตมตฺตเมว, สนฺตสฺส ปน กิลนฺตสฺส ทีฆํ โหติ, ทฺวิคุณติคุณํ วิย ขายติฯ สกลทิวสญฺหิ มคฺคํ คนฺตฺวา กิลนฺโต ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ปุรโต คาโม กีวทูโร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โยชน’’นฺติ วุตฺเต โถกํ คนฺตฺวา อปรมฺปิ ปุจฺฉิตฺวา เตนาปิ ‘‘โยชน’’นฺติ วุตฺเต ปุน โถกํ คนฺตฺวา อปรมฺปิ ปุจฺฉติฯ โสปิ ‘‘โยชน’’นฺติ วทติฯ โส ปุจฺฉิตปุจฺฉิตา โยชนนฺเตว วทนฺติ, ทีฆํ วติทํ โยชนํ, เอกโยชนํ ทฺเว ตีณิ โยชนานิ วิย มญฺเญติฯ พาลานนฺติ อิธโลกปรโลกตฺถํ ปน อชานนฺตานํ พาลานํ สํสารวฏฺฏสฺส ปริยนฺตํ กาตุํ อสกฺโกนฺตานํ ยํ สตฺตติํสโพธิปกฺขิยเภทํ สทฺธมฺมํ ญตฺวา สํสารสฺส อนฺตํ กโรนฺติ, ตํ สทฺธมฺมํ อวิชานตํ สํสาโร ทีโฆ นาม โหติฯ โส หิ อตฺตโน ธมฺมตาย เอว ทีโฆ นามฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘อนมตคฺโคยํ, ภิกฺขเว, สํสาโร, ปุพฺพา โกฏิ น ปญฺญายตี’’ติ (สํ. นิ. 2.124)ฯ พาลานํ ปน ปริยนฺตํ กาตุํ อสกฺโกนฺตานํ อติทีโฆเยวาติฯ

เทสนาวสาเน โส ปุริโส โสตาปตฺติผลํ ปตฺโต, อญฺเญปิ พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปตฺตาฯ มหาชนสฺส สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา ชาตาติฯ

ราชา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา คจฺฉนฺโตเยว เต สตฺเต พนฺธนา โมเจสิฯ ตตฺถ อิตฺถิปุริสา พนฺธนา มุตฺตา สีสํ นฺหตฺวา สกานิ เคหานิ คจฺฉนฺตา ‘‘จิรํ ชีวตุ โน, อยฺยา, มลฺลิกา เทวี, ตํ นิสฺสาย ชีวิตํ ลภิมฺหา’’ติ มลฺลิกาย คุณกถํ กถยิํสุฯ สายนฺหสมเย ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺฐาเปสุํ – ‘‘อโห ปณฺฑิตา วตายํ, มลฺลิกา, อตฺตโน ปญฺญํ นิสฺสาย เอตฺตกสฺส ชนสฺส ชีวิตทานํ อทาสี’’ติฯ

สตฺถา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว เตสํ ภิกฺขูนํ กถํ สุตฺวา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา ธมฺมสภํ ปวิสิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘น, ภิกฺขเว, มลฺลิกา, อิทาเนว อตฺตโน ปญฺญํ นิสฺสาย มหาชนสฺส ชีวิตทานํ เทติ, ปุพฺเพปิ อทาสิเยวา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ ปกาสนฺโต อตีตํ อาหริ –

อตีเต พาราณสิยํ รญฺโญ ปุตฺโต เอกํ นิคฺโรธรุกฺขํ อุปสงฺกมิตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺตาย เทวตาย อายาจิ – ‘‘สามิ เทวราช, อิมสฺมิํ ชมฺพุทีเป เอกสตราชาโน เอกสตอคฺคมเหสิโย, สจาหํ ปิตุ อจฺจเยน รชฺชํ ลภิสฺสามี, เอเตสํ คลโลหิเตน พลิํ กริสฺสามี’’ติฯ โส ปิตริ กาลกเต รชฺชํ ปตฺวา ‘‘เทวตาย เม อานุภาเวน รชฺชํ ปตฺตํ, พลิมสฺสา กริสฺสามี’’ติ มหติยา เสนาย นิกฺขมิตฺวา เอกํ ราชานํ อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา เตน สทฺธิํ อปรมฺปิ อปรมฺปีติ สพฺเพ ราชาโน อตฺตโน วเส กตฺวา สทฺธิํ อคฺคมเหสีหิ อาทาย คจฺฉนฺโต อุคฺคเสนสฺส นาม สพฺพกนิฏฺฐสฺส รญฺโญ ธมฺมทินฺนา นาม อคฺคมเหสี ครุคพฺภา, ตํ โอหาย อาคนฺตฺวา ‘‘เอตฺตกชนํ วิสปานกํ ปาเยตฺวา มาเรสฺสามี’’ติ รุกฺขมูลํ โสธาเปสิฯ เทวตา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา เอตฺตเก ราชาโน คณฺหนฺโต ‘มํ นิสฺสาย คหิตา อิเม’ติ จินฺเตตฺวา เตสํ คลโลหิเตน มยฺหํ พลิํ กาตุกาโม, สเจ ปนายํ เอเต ฆาเตสฺสติ, ชมฺพุทีเป ราชวํโส อุปจฺฉิชฺชิสฺสติ, รุกฺขมูเลปิ, เม อสุจิ ภวิสฺสติ, สกฺขิสฺสามิ นุ โข เอตํ นิวาเรตุ’’นฺติฯ สา อุปธาเรนฺตี ‘‘นาหํ สกฺขิสฺสามี’’ติ ญตฺวา อญฺญมฺปิ เทวตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตฺวํ สกฺขิสฺสสี’’ติ อาหฯ ตายปิ ปฏิกฺขิตฺตา อญฺญมฺปิ อญฺญมฺปีติ เอวํ สกลจกฺกวาฬเทวตาโย อุปสงฺกมิตฺวา ตาหิปิ ปฏิกฺขิตฺตา จตุนฺนํ มหาราชูนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มยํ น สกฺโกม, อมฺหากํ ปน ราชา อมฺเหหิ ปุญฺเญน จ ปญฺญาย จ วิสิฏฺโฐ, ตํ ปุจฺฉา’’ติ เตหิปิ ปฏิกฺขิตฺตกาเล สกฺกํ อุปสงฺกมิตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา, ‘‘เทว, ตุมฺเหสุ อปฺโปสฺสุกฺกตํ อาปนฺเนสุ ขตฺติยวํโส อุปจฺฉิชฺชิสฺสติ, ตสฺส ปฏิสรณํ โหถา’’ติ อาหฯ สกฺโก ‘‘อหมฺปิ นํ ปฏิพาหิตุํ น สกฺขิสฺสามิ, อุปายํ ปน เต วกฺขามี’’ติ วตฺวา อุปายํ อาจิกฺขิ – ‘‘คจฺฉ, ตฺวํ รญฺโญ ปสฺสนฺตสฺเสว รตฺตวตฺถํ นิวาเสตฺวา อตฺตโน รุกฺขโต นิกฺขมิตฺวา คมนาการํ ทสฺเสหิฯ อถ ตํ ราชา ‘เทวตา คจฺฉติ, นิวตฺตาเปสฺสามิ น’นฺติ นานปฺปกาเรน ยาจิสฺสติฯ

อถ นํ วเทยฺยาสิ ‘ตฺวํ เอกสตราชาโน สทฺธิํ อคฺคมเหสีหิ อาเนตฺวา เตสํ คลโลหิเตน พลิํ กริสฺสามี’ติ มยฺหํ อายาจิตฺวา อุคฺคเสนสฺส รญฺโญ เทวิํ โอหาย อาคโต, นาหํ ตาทิสสฺส มุสาวาทสฺส พลิํ สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ, ‘‘เอวํ กิร วุตฺเต ราชา ตํ อาณาเปสฺสติ, สา รญฺโญ ธมฺมํ เทเสตฺวา เอตฺตกสฺส ชนสฺส ชีวิตทานํ ทสฺสตี’’ติฯ อิมินา การเณน สกฺโก เทวตาย อิมํ อุปายํ อาจิกฺขิฯ เทวตา ตถา อกาสิฯ

ราชาปิ ตํ อาณาเปสิฯ สา อาคนฺตฺวา เตสํ ราชูนํ ปริยนฺเต นิสินฺนมฺปิ อตฺตโน ราชานเมว วนฺทิฯ ราชา ‘‘มยิ สพฺพราชเชฏฺฐเก ฐิเต สพฺพกนิฏฺฐํ อตฺตโน สามิกํ วนฺทตี’’ติ ตสฺสา กุชฺฌิฯ อถ นํ สา อาห – ‘‘กิํ มยฺหํ ตยิ ปฏิพทฺธํ, อยํ ปน เม สามิโก อิสฺสริยสฺส ทายโก, อิมํ อวนฺทิตฺวา กสฺมา ตํ วนฺทิสฺสามี’’ติ? รุกฺขเทวตา ปสฺสนฺตสฺเสว มหาชนสฺส ‘‘เอวํ, ภทฺเท, เอวํ, ภทฺเท’’ติ วตฺวา ตํ ปุปฺผมุฏฺฐินา ปูเชสิ ฯ ปุน ราชา อาห – ‘‘สเจ มํ น วนฺทสิ, มยฺหํ รชฺชสิริทายิกํ เอวํ มหานุภาวํ เทวตํ กสฺมา น วนฺทสี’’ติ? ‘‘มหาราช, ตยา อตฺตโน ปุญฺเญ ฐตฺวา ราชาโน คหิตา, น เทวตาย คเหตฺวา ทินฺนา’’ติฯ ปุนปิ ตํ เทวตา ‘‘เอวํ, ภทฺเท, เอวํ, ภทฺเท’’ติ วตฺวา ตเถว ปูเชสิฯ ปุน สา ราชานํ อาห – ‘‘ตฺวํ ‘เทวตาย เม เอตฺตกา ราชาโน คเหตฺวา ทินฺนา’ติ วเทสิ, อิทานิ เต เทวตาย อุปริ วามปสฺเส รุกฺโข อคฺคินา ทฑฺโฒ, สา ตํ อคฺคิํ นิพฺพาเปตุํ กสฺมา นาสกฺขิ, ยทิ เอวํ มหานุภาวา’’ติฯ ปุนปิ ตํ เทวตา ‘‘เอวํ, ภทฺเท, เอวํ, ภทฺเท’’ติ วตฺวา ตเถว ปูเชสิฯ

สา กถยมานา ฐิตา โรทิ เจว หสิ จฯ อถ นํ ราชา ‘‘กิํ อุมฺมตฺติกาสี’’ติ อาหฯ ‘‘กสฺมา เทว เอวํ วเทสิ’’? ‘‘น มาทิสิโย อุมฺมตฺติกา โหนฺตี’’ติฯ อถ ‘‘นํ กิํ การณา โรทสิ เจว หสสิ จา’’ติ? ‘‘สุณาหิ, มหาราช, อหญฺหิ อตีเต กุลธีตา หุตฺวา ปติกุเล วสนฺตี สามิกสฺส สหายกํ ปาหุนกํ อาคตํ ทิสฺวา ตสฺส ภตฺตํ ปจิตุกามา ‘มํสํ อาหรา’ติ ทาสิยา กหาปณํ ทตฺวา ตาย มํสํ อลภิตฺวา อาคตาย ‘นตฺถิ มํส’นฺติ วุตฺเต เคหสฺส ปจฺฉิมภาเค สยิตาย เอฬิกาย สีสํ ฉินฺทิตฺวา ภตฺตํ สมฺปาเทสิํฯ

สาหํ เอกิสฺสาย เอฬิกาย สีสํ ฉินฺทิตฺวา นิรเย ปจฺจิตฺวา ปกฺกาวเสเสน ตสฺสา โลมคณนาย สีสจฺเฉทํ ปาปุณิํ, ‘ตฺวํ เอตฺตกํ ชนํ วธิตฺวา กทา ทุกฺขา มุจฺจิสฺสสี’ติ เอวมหํ ตว ทุกฺขํ อนุสฺสรนฺตี โรทิ’’นฺติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

‘‘เอกิสฺสา กณฺฐํ เฉตฺวาน, โลมคณนาย ปจฺจิสํ;

พหูนํ กณฺเฐ เฉตฺวาน, กถํ กาหสิ ขตฺติยา’’ติฯ

อถ ‘‘กสฺมา ตฺวํ หสสี’’ติ? ‘‘‘เอตสฺมา ทุกฺขา มุตฺตามฺหี’ติ ตุสฺสิตฺวา, มหาราชา’’ติ ฯ ปุนปิ ตํ เทวตา ‘‘เอวํ, ภทฺเท, เอวํ, ภทฺเท’’ติ วตฺวา ปุปฺผมุฏฺฐินา ปูเชสิฯ ราชา ‘‘อโห เม ภาริยํ กตํ กมฺมํ, อยํ กิร เอกํ เอฬิกํ วธิตฺวา นิรเย ปกฺกาวเสเสน ตสฺสา โลมคณนาย สีสจฺเฉทํ ปาปุณิ, อหํ เอตฺตกํ ชนํ วธิตฺวา กทา โสตฺถิํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ สพฺเพ ราชาโน โมเจตฺวา อตฺตโน มหลฺลกตเร วนฺทิตฺวา ทหรทหรานํ อญฺชลิํ ปคฺคยฺห สพฺเพ ขมาเปตฺวา สกสกฏฺฐานเมว ปหิณิฯ

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, น อิทาเนว, มลฺลิกา เทวี, อตฺตโน ปญฺญํ นิสฺสาย มหาชนสฺส ชีวิตทานํ เทติ, ปุพฺเพปิ อทาสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา พาราณสิราชา ปเสนทิ โกสโล อโหสิ, ธมฺมทินฺนา, เทวี มลฺลิกา, รุกฺขเทวตา อหเมวา’’ติฯ เอวํ อตีตํ สโมธาเนตฺวา ปุน ธมฺมํ เทเสนฺโต, ‘‘ภิกฺขเว, ปาณาติปาโต นาม น กตฺตพฺพยุตฺตโกฯ ปาณาติปาติโน หิ ทีฆรตฺตํ โสจนฺตี’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อาห –

‘‘อิธ โสจติ เปจฺจ โสจติ,

ปาปการี อุภยตฺถ โสจติ;

โส โสจติ โส วิหญฺญติ,

ทิสฺวา กมฺมกิลิฏฺฐมตฺตโน’’ติฯ (ธ. ป. 15);

‘‘เอวํ เจ สตฺตา ชาเนยฺยุํ, ทุกฺขายํ ชาติสมฺภโว;

น ปาโณ ปาณินํ หญฺเญ, ปาณฆาตี หิ โสจตี’’ติฯ (ชา. 1.1.18);

อญฺญตรปุริสวตฺถุ ปฐมํฯ

2. มหากสฺสปตฺเถรสทฺธิวิหาริกวตฺถุ

จรญฺเจ นาธิคจฺเฉยฺยาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สาวตฺถิยํ เชตวเน วิหรนฺโต มหากสฺสปตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกํ อารพฺภ กเถสิฯ เทสนา ราชคเห สมุฏฺฐิตาฯ

เถรํ กิร ราชคหํ นิสฺสาย ปิปฺปลิคุหายํ วสนฺตํ ทฺเว สทฺธิวิหาริกา อุปฏฺฐหิํสุฯ เตสุ เอโก สกฺกจฺจํ วตฺตํ กโรติ, เอโก เตน กตํ กตํ อตฺตนา กตํ วิย ทสฺเสนฺโต มุโขทกทนฺตกฏฺฐานํ ปฏิยาทิตภาวํ ญตฺวา, ‘‘ภนฺเต, มุโขทกทนฺตกฏฺฐานิ เม ปฏิยาทิตานิ, มุขํ โธวถา’’ติ วทติ, ปาทโธวนนฺหานาทิกาเลปิ เอวเมว วทติฯ อิตโร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ นิจฺจกาลํ มยา กตํ กตํ อตฺตนา กตํ วิย กตฺวา ทสฺเสติ, โหตุ, กตฺตพฺพยุตฺตกมสฺส กริสฺสามี’’ติฯ ตสฺส ภุญฺชิตฺวา สุปนฺตสฺเสว นฺหาโนทกํ ตาเปตฺวา เอกสฺมิํ ฆเฏ กตฺวา ปิฏฺฐิโกฏฺฐเก ฐเปสิ, อุทกตาปนภาชเน ปน นาฬิมตฺตํ อุทกํ เสเสตฺวา อุสุมํ มุญฺจนฺตํ ฐเปสิฯ ตํ อิตโร สายนฺหสมเย ปพุชฺฌิตฺวา อุสุมํ นิกฺขนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อุทกํ ตาเปตฺวา โกฏฺฐเก ฐปิตํ ภวิสฺสตี’’ติ เวเคน คนฺตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, โกฏฺฐเก อุทกํ ฐปิตํ, นฺหายถา’’ติ วตฺวา เถเรน สทฺธิํเยว โกฏฺฐกํ ปาวิสิฯ เถโร อุทกํ อปสฺสนฺโต ‘‘กหํ อุทกํ, อาวุโส’’ติ อาหฯ ทหโร อคฺคิสาลํ คนฺตฺวา ภาชเน อุฬุงฺกํ โอตาเรตฺวา ตุจฺฉภาวํ ญตฺวา ‘‘ปสฺสถ ทุฏฺฐสฺส กมฺมํ ตุจฺฉภาชนํ อุทฺธเน อาโรเปตฺวา กุหิํ คโต, อหํ ‘โกฏฺฐเก อุทก’นฺติ สญฺญาย อาโรเจสิ’’นฺติ อุชฺฌายนฺโต ฆฏํ อาทาย ติตฺถํ อคมาสิฯ อิตโรปิ ปิฏฺฐิโกฏฺฐกโต อุทกํ อาหริตฺวา โกฏฺฐเก ฐเปสิฯ