เมนู

อตฺตโนว อเวกฺเขยฺยาติ ‘‘กถํ ภูตสฺส เม รตฺตินฺทิวา วีติวตฺตนฺตีติ ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพ’’นฺติ (อ. นิ. 10.48) อิมํ โอวาทํ อนุสฺสรนฺโต สทฺธาปพฺพชิโต กุลปุตฺโต ‘‘กิํ นุ โข อหํ ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา โยเค กมฺมํ กาตุํ สกฺขิํ , นาสกฺขิ’’นฺติ เอวํ อตฺตโน กตากตานิ โอโลเกยฺยาติฯ

เทสนาวสาเน สา อุปาสิกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐิตา, เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา ชาตาติฯ

ปาเวยฺยกาชีวกวตฺถุ ฉฏฺฐํฯ

7. ฉตฺตปาณิอุปาสกวตฺถุ

ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สาวตฺถิยํ วิหรนฺโต ฉตฺตปาณิอุปาสกํ อารพฺภ กเถสิฯ

สาวตฺถิยญฺหิ ฉตฺตปาณิ นาม อุปาสโก ติปิฏกธโร อนาคามีฯ โส ปาโตว อุโปสถิโก หุตฺวา สตฺถุ อุปฏฺฐานํ อคมาสิฯ อนาคามิอริยสาวกานญฺหิ สมาทานวเสน อุโปสถกมฺมํ นาม นตฺถิ, มคฺเคเนว เตสํ พฺรหฺมจริยญฺจ เอกภตฺติกญฺจ อาคตํฯ เตเนวาห – ‘‘ฆฏิกาโร โข, มหาราช, กุมฺภกาโร เอกภตฺติโก พฺรหฺมจารี สีลวา กลฺยาณธมฺโม’’ติ (ม. นิ. 2.288)ฯ เอวํ อนาคามิโน ปกติยาว เอกภตฺติกา จ พฺรหฺมจาริโน จ โหนฺติฯ โสปิ ตเถว อุโปสถิโก หุตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ธมฺมกถํ สุณนฺโต นิสีทิฯ ตสฺมิํ สมเย ราชา ปเสนทิ โกสโล สตฺถุ อุปฏฺฐานํ อคมาสิฯ ฉตฺตปาณิ อุปาสโก ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อุฏฺฐาตพฺพํ นุ โข, โน’’ติ จินฺเตตฺวา – ‘‘อหํ อคฺคราชสฺส สนฺติเก นิสินฺโน, ตสฺส เม ปเทสราชานํ ทิสฺวา อุฏฺฐาตุํ น ยุตฺตํ, ราชา โข ปน เม อนุฏฺฐหนฺตสฺส กุชฺฌิสฺสติ, เอตสฺมิํ กุชฺฌนฺเตปิ เนว อุฏฺฐหิสฺสามิ ฯ ราชานํ ทิสฺวา อุฏฺฐหนฺเตน หิ ราชา ครุกโต โหติ, โน สตฺถา, ตสฺมา เนว อุฏฺฐหิสฺสามี’’ติ น อุฏฺฐหิฯ ปณฺฑิตปุริสา นาม ครุตรานํ สนฺติเก นิสีทิตฺวา อนุฏฺฐหนฺตํ ทิสฺวา น กุชฺฌนฺติฯ ราชา ปน ตํ อนุฏฺฐหนฺตํ ทิสฺวา กุปิตมานโส สตฺถารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ สตฺถา กุปิตภาวํ ญตฺวา, ‘‘มหาราช, อยํ ฉตฺตปาณิ อุปาสโก ปณฺฑิโต ทิฏฺฐธมฺโม ติปิฏกธโร อตฺถานตฺถกุสโล’’ติ อุปาสกสฺส คุณํ กเถสิฯ รญฺโญ ตสฺส คุณกถํ สุณนฺตสฺเสว จิตฺตํ มุทุกํ ชาตํฯ

อเถกทิวสํ ราชา อุปริปาสาเท ฐิโต ฉตฺตปาณิํ อุปาสกํ กตภตฺตกิจฺจํ ฉตฺตมาทาย อุปาหนมารุยฺห ราชงฺคเณน คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปกฺโกสาเปสิฯ โส ฉตฺตุปาหนํ อปเนตฺวา ราชานมุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ อถ นํ ราชา อาห – ‘‘โภ อุปาสก, กินฺเต ฉตฺตุปาหนํ อปนีต’’นฺติฯ ‘‘‘ราชา ปกฺโกสตี’ติ สุตฺวา อปเนตฺวา อาคโตมฺหี’’ติฯ ‘‘อชฺช อมฺหากํ ราชภาโว ตุมฺเหหิ ญาโต ภวิสฺสตี’’ติฯ ‘‘สทาปิ มยํ, เทว, ตุมฺหากํ ราชภาวํ ชานามา’’ติฯ ‘‘ยทิ เอวํ กสฺมา ปุริมทิวเส สตฺถุ สนฺติเก นิสินฺโน มํ ทิสฺวา น อุฏฺฐหี’’ติ? ‘‘มหาราช, อหํ อคฺคราชสฺส สนฺติเก นิสินฺโน, ปเทสราชานํ ทิสฺวา อุฏฺฐหนฺโต สตฺถริ อคารวํ ปเวเทยฺยํ, ตสฺมา น อุฏฺฐหิ’’นฺติฯ ‘‘โหตุ, โภ, ติฏฺฐเตตํ’’ฯ ‘‘ตุมฺเห กิร ทิฏฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกานํ อตฺถานตฺถานํ กุสลา ติปิฏกธรา อมฺหากํ อนฺเตปุเร ธมฺมํ วาเจถา’’ติฯ ‘‘น สกฺโกมิ, เทวา’’ติฯ ‘‘กิํ การณา’’ติ? ‘‘ราชเคหํ นาม มหาสาวชฺชํ, ทุยุตฺตสุยุตฺตกานิ ครุกาเนตฺถ, เทวา’’ติฯ ‘‘มา เอวํ วเทถ, ‘ปุริมทิวเส มํ ทิสฺวา น อุฏฺฐิโตมฺหี’ติ มา กุกฺกุจฺจํ กโรถา’’ติฯ ‘‘เทว, คิหีนํ วิจรณฏฺฐานํ นาม มหาสาวชฺชํ, เอกํ ปพฺพชิตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ธมฺมํ วาจาเปถา’’ติฯ ราชา ‘‘สาธุ, โภ, คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถารํ ยาจิ, ‘‘ภนฺเต, มลฺลิกา จ เทวี วาสภขตฺติยา จ ธมฺมํ ปริยาปุณิสฺสามาติ วทนฺติ, ปญฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธิํ นิพทฺธํ มม เคหํ คนฺตฺวา ตาสํ ธมฺมํ อุทฺทิสถา’’ติฯ ‘‘พุทฺธานํ นิพทฺธํ เอกฏฺฐานคมนํ นาม นตฺถิ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภนฺเต, อญฺญํ เอกํ ภิกฺขุํ เทถา’’ติฯ สตฺถา อานนฺทตฺเถรสฺส ภารมกาสิฯ เถโร นิพทฺธํ คนฺตฺวา ตาสํ อุทฺเทสํ อุทฺทิสติฯ ตาสุ มลฺลิกา สกฺกจฺจํ คเหตฺวา สชฺฌายิตฺวา อุทฺเทสํ ปฏิจฺฉาเปสิฯ วาสภขตฺติยา ปน เนว สกฺกจฺจํ คณฺหาติ, น สชฺฌายติ, น อุทฺเทสํ ปฏิจฺฉาเปตุํ สกฺโกติฯ

อเถกทิวสํ สตฺถา เถรํ ปุจฺฉิ – ‘‘กิมานนฺท, อุปาสิกา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กา สกฺกจฺจํ คณฺหาตี’’ติ? ‘‘มลฺลิกา, ภนฺเต, สกฺกจฺจํ คณฺหาติ, สกฺกจฺจํ สชฺฌายติ, สกฺกจฺจํ อุทฺเทสํ ปฏิจฺฉาเปตุํ สกฺโกติฯ ตุมฺหากํ ปน ญาติธีตา เนว สกฺกจฺจํ คณฺหาติ, น สชฺฌายติ, น อุทฺเทสํ ปฏิจฺฉาเปตุํ สกฺโกตี’’ติฯ

สตฺถา เถรสฺส วจนํ สุตฺวา, ‘‘อานนฺท, มยา กถิตธมฺโม นาม สกฺกจฺจมสุณนฺตสฺส อคฺคณฺหนฺตสฺส อสชฺฌายนฺตสฺส อเทเสนฺตสฺส วณฺณสมฺปนฺนํ อคนฺธกปุปฺผํ วิย อผโล โหติ, สกฺกจฺจํ ปน สวนาทีนิ กโรนฺตสฺส มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส’’ติ วตฺวา อิมา ทฺเว คาถา อภาสิ –

[51]

‘‘ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ, วณฺณวนฺตํ อคนฺธกํ;

เอวํ สุภาสิตา วาจา, อผลา โหติ อกุพฺพโตฯ

[52]

‘‘ยถาปิ รุจิรํ ปุปฺผํ, วณฺณวนฺตํ สคนฺธกํ;

เอวํ สุภาสิตา วาจา, สผลา โหติ กุพฺพโต’’ติฯ

ตตฺถ รุจิรนฺติ โสภนํฯ วณฺณวนฺตนฺติ วณฺณสณฺฐานสมฺปนฺนํ, อคนฺธกนฺติ คนฺธวิรหิตํ ปาลิภทฺทกคิริกณฺณิกชยสุมนาทิเภทํฯ เอวํ สุภาสิตา วาจาติ สุภาสิตา วาจา นาม เตปิฏกํ พุทฺธวจนํฯ ตํ วณฺณสณฺฐานสมฺปนฺนํ อคนฺธกปุปฺผสทิสํฯ ยถา ปน อคนฺธกปุปฺผํ โย นํ ธาเรติ, ตสฺส สรีเร คนฺธํ น ผรติ, เอวํ เอตมฺปิ โย นํ สกฺกจฺจํ สวนาทีหิ น สมาจรติ, ตสฺส สกฺกจฺจํ อสมาจรนฺตสฺส ยํ ตตฺถ กตฺตพฺพํ, ตํ อกุพฺพโต สุตคนฺธญฺจ วาจาคนฺธญฺจ ปฏิปตฺติคนฺธญฺจ น อาวหติ อผลา โหติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เอวํ สุภาสิตา วาจา, อผลา โหติ อกุพฺพโต’’ติฯ สคนฺธกนฺติ จมฺปกนีลุปฺปลาทิเภทํฯ เอวนฺติ ยถา ตํ ปุปฺผํ ธาเรนฺตสฺส สรีเร คนฺโธ ผรติ, เอวํ เตปิฏกพุทฺธวจนสงฺขาตา สุภาสิตา วาจาปิฯ กุพฺพโตติ โย สกฺกจฺจํ สวนาทีหิ ตตฺถ กตฺตพฺพํ กโรติ, สา อสฺส ปุคฺคลสฺส สผลา โหติ, สุตคนฺธวาจาคนฺธปฏิปตฺติคนฺธานํ อาวหนโต มหปฺผลา โหติ, มหานิสํสาติ อตฺโถฯ

เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปตฺตาฯ เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา ชาตาติฯ

ฉตฺตปาณิอุปาสกวตฺถุ สตฺตมํฯ

8. วิสาขาวตฺถุ

ยถาปิ ปุปฺผราสิมฺหาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สาวตฺถิยํ อุปนิสฺสาย ปุพฺพาราเม วิหรนฺโต วิสาขํ อุปาสิกํ อารพฺภ กเถสิฯ