พระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย มหาวรรค [2. มหานิทานสูตร] ปฏิจจสมุปบาท
[108] อานนท์ ข้อที่เรากล่าวไว้เช่นนี้ว่า เพราะอาศัยฉันทราคะ อัชโฌสานะ
จึงมี เธอพึงทราบเหตุผลที่อาศัยฉันทราคะ อัชโฌสานะจึงมี ดังต่อไปนี้ ก็ถ้า
ฉันทราคะไม่ได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วทุกแห่ง เมื่อฉันทราคะไม่มีโดยประการ
ทั้งปวง เพราะฉันทราคะดับไป อัชโฌสานะจะปรากฏได้หรือ
ท่านพระอานนท์ทูลตอบว่า ปรากฏไม่ได้เลย พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า อานนท์ เพราะเหตุนั้น เหตุ ต้นเหตุ เหตุเกิด
และปัจจัยแห่งอัชโฌสานะ ก็คือฉันทราคะนั่นเอง
[109] อานนท์ ข้อที่เรากล่าวเช่นนี้ว่า เพราะอาศัยวินิจฉยะ ฉันทราคะจึงมี
เธอพึงทราบเหตุผลที่อาศัยวินิจฉยะ ฉันทราคะจึงมี ดังต่อไปนี้ ก็ถ้าวินิจฉยะไม่ได้
มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วทุกแห่ง เมื่อวินิจฉยะไม่มีโดยประการทั้งปวง เพราะ
วินิจฉยะดับไป ฉันทราคะจะปรากฏได้หรือ''
ท่านพระอานนท์ทูลตอบว่า ปรากฏไม่ได้เลย พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า อานนท์ เพราะเหตุนั้น เหตุ ต้นเหตุ เหตุเกิด
และปัจจัยแห่งฉันทราคะ ก็คือวินิจฉยะนั่นเอง
[110] อานนท์ ข้อที่เรากล่าวเช่นนี้ว่า เพราะอาศัยลาภะ วินิจฉยะจึงมี
เธอพึงทราบเหตุผลที่อาศัยลาภะ วินิจฉยะจึงมี ดังต่อไปนี้ ก็ถ้าลาภะไม่ได้มีแก่
ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วทุกแห่ง เมื่อลาภะไม่มีโดยประการทั้งปวง เพราะลาภะ
หมดไป วินิจฉยะจะปรากฏได้หรือ
ท่านพระอานนท์ทูลตอบว่า ปรากฏไม่ได้เลย พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า อานนท์ เพราะเหตุนั้น เหตุ ต้นเหตุ เหตุเกิด
และปัจจัยแห่งวินิจฉยะ ก็คือลาภะนั่นเอง
[111] อานนท์ ข้อที่เรากล่าวเช่นนี้ว่า เพราะอาศัยปริเยสนา ลาภะจึงมี
เธอพึงทราบเหตุผลที่อาศัยปริเยสนา ลาภะจึงมี ดังต่อไปนี้ ก็ถ้าปริเยสนาไม่ได้
มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วทุกแห่ง เมื่อปริเยสนาไม่มีโดยประการทั้งปวง เพราะ
ปริเยสนาดับไป ลาภะจะปรากฏได้หรือ