เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [10. ปายาสิสูตร] อุปมาด้วยเทพชั้นดาวดึงส์

ก็ขอให้กลับมาบอกเราบ้างว่า ‘แม้เพราะเหตุนี้ โลกอื่นมี โอปปาติกสัตว์มี ผลวิบาก
แห่งกรรมที่ทำดีและทำชั่วมี’ พวกท่านเท่านั้นพอเป็นที่เชื่อถือไว้วางใจของเรา สิ่งที่
พวกท่านเห็นก็เช่นเดียวกับสิ่งที่เราเห็นเอง’ คนเหล่านั้นรับคำของโยมแล้ว แต่ไม่
กลับมาบอก ไม่ส่งข่าวมาบอก ท่านกัสสปะ นี้แลเป็นเหตุที่ทำให้โยมเข้าใจอย่างนี้ว่า
‘แม้เพราะเหตุนี้ โลกอื่นไม่มี โอปปาติกสัตว์ไม่มี ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและ
ทำชั่วไม่มี”

อุปมาด้วยเทพชั้นดาวดึงส์

[417] “บพิตร ถ้าอย่างนั้น อาตมภาพขอถวายพระพรถามพระองค์
ในเรื่องนี้ โปรดตรัสตอบตามที่พอพระทัย 100 ปีของมนุษย์เท่ากับคืนและวันหนึ่ง
ของพวกเทพชั้นดาวดึงส์ 30 ราตรีโดยราตรีนั้นเป็น 1 เดือน 12 เดือนโดยเดือนนั้น
เป็น 1 ปี 1,000 ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของพวกเทพชั้นดาวดึงส์ มิตร
อำมาตย์ ญาติสาโลหิตของพระองค์ ผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการถือ
เอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม เว้นขาดจากการ
พูดเท็จ เว้นขาดจากการเสพของมึนเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นเหตุแห่งความประมาท
หลังจากตายแล้วไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์อยู่ร่วมกับพวกเทพชั้นดาวดึงส์ หากพวก
เขาคิดอย่างนี้ว่า ‘รอเวลาให้พวกเราเอิบอิ่ม พรั่งพร้อม ได้รับการบำเรอด้วยกามคุณ
5 ที่เป็นทิพย์สัก 2-3 วันก่อน จึงค่อยไปกราบทูลเจ้าปายาสิว่า ‘แม้เพราะเหตุนี้
โลกอื่นมี โอปปาติกสัตว์มี ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีและทำชั่วมี’ พวกเขาพึงกลับ
มากราบทูลพระองค์ว่า ‘แม้เพราะเหตุนี้ โลกอื่นมี โอปปาติกสัตว์มี ผลวิบากแห่ง
กรรมที่ทำดีและทำชั่วมี‘ หรือ บพิตร”
“ไม่เป็นเช่นนั้น ท่านกัสสปะ ที่จริง พวกเราคงตายไปนานแล้ว แต่ใครเล่า
บอกท่านกัสสปะว่า ‘พวกเทพชั้นดาวดึงส์มีอยู่’ หรือว่า ‘พวกเทพชั้นดาวดึงส์มีอายุ
ยืนเท่านี้’ พวกเราไม่เชื่อท่านกัสสปะว่า ‘พวกเทพชั้นดาวดึงส์มีอยู่’ หรือว่า ‘พวกเทพ
ชั้นดาวดึงส์มีอายุยืนเท่านี้”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 10 หน้า :350 }