พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [10. ปายาสิสูตร] อุปมาด้วยโจร
อุปมาด้วยโจร1
[413] บพิตร ถ้าอย่างนั้น อาตมภาพขอถวายพระพรถามพระองค์ในเรื่องนี้
โปรดตรัสตอบตามที่พอพระทัย พระองค์เข้าพระทัยเรื่องนั้นว่าอย่างไร พวกราชบุรุษ
ของพระองค์ในโลกนี้จับโจรผู้ก่อกรรมชั่วมาแสดงแก่พระองค์ว่า ฝ่าพระบาท นี้เป็น
โจรผู้ก่อกรรมชั่วต่อพระองค์ พระองค์โปรดลงพระอาชญาแก่โจรนี้ตามพระประสงค์เถิด
ถ้าพระองค์จะพึงรับสั่งอย่างนี้ว่า ถ้าเช่นนั้น พวกท่านจงใช้เชือกเหนียวมัดบุรุษนี้
เอาแขนไพล่หลังอย่างแน่นหนาแล้วโกนศีรษะ นำตระเวนจากถนนหนึ่งไปสู่ถนนหนึ่ง
จากสี่แยกหนึ่งไปสู่สี่แยกหนึ่ง พร้อมกับแกว่งบัณเฑาะว์เสียงดัง น่ากลัวนำออกทาง
ประตูด้านทิศใต้ตัดศีรษะที่ตะแลงแกงทางทิศใต้แห่งเมือง ราชบุรุษทูลรับสนอง
พระดำรัสแล้ว ใช้เชือกเหนียวมัดบุรุษนั้นเอาแขนไพล่หลังอย่างแน่นหนาแล้วโกนศีรษะ
นำตระเวนจากถนนหนึ่งไปสู่ถนนหนึ่ง จากสี่แยกหนึ่งไปสู่สี่แยกหนึ่ง พร้อมกับ
แกว่งบัณเฑาะว์เสียงดังน่ากลัว นำออกไปทางประตูด้านทิศใต้แล้วให้นั่งที่ตะแลงแกง
ทางทิศใต้แห่งเมือง โจรจะได้รับการผ่อนผันจากเพชฌฆาตตามคำขอที่ว่า ขอให้
ท่านเพชฌฆาตโปรดรอจนกว่าข้าพเจ้าจะได้ไปแจ้งแก่มิตรอำมาตย์ หรือญาติสาโลหิตใน
บ้านโน้นหรือนิคมโน้น แล้วจะกลับมา กระนั้นหรือ หรือว่าเพชฌฆาตจะพึงตัดศีรษะ
โจรผู้กำลังอ้อนวอนอยู่เล่า
ท่านกัสสปะ โจรไม่ควรได้รับการผ่อนผันจากเพชฌฆาตตามคำขอที่ว่า ขอให้
ท่านเพชฌฆาตโปรดรอจนกว่าข้าพเจ้าจะได้ไปแจ้งแก่มิตรอำมาตย์ หรือญาติสาโลหิต
ในบ้านโน้นหรือนิคมโน้นแล้วจะกลับมา ที่แท้ เพชฌฆาตพึงตัดศีรษะโจรผู้กำลังอ้อนวอน
อยู่นั่นแหละ
บพิตร โจรนั้นเป็นมนุษย์ยังไม่ได้รับการผ่อนผันจากเพชฌฆาตที่เป็นมนุษย์
ตามคำขอที่ว่า ขอให้ท่านเพชฌฆาตโปรดรอจนกว่าข้าพเจ้าจะได้ไปแจ้งแก่มิตรอำมาตย์
หรือญาติสาโลหิตในบ้านโน้นหรือนิคมโน้นแล้วจะกลับมา มิตรอำมาตย์ ญาติสาโลหิต
ของพระองค์ เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ ประพฤติผิดในกาม