พระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย มหาวรรค [1. มหาปทานสูตร] คนตาย
นายสารถีทูลตอบว่า ขอเดชะ ผู้นี้ชื่อว่าคนตาย
พระวิปัสสีราชกุมารรับสั่งว่า สหายสารถี ถ้าเช่นนั้น เธอจงขับรถไปทาง
คนตายนั้น
นายสารถีทูลรับพระบัญชาแล้วขับราชรถไปทางคนตายนั้น
พระราชกุมารทอดพระเนตรคนตาย จึงตรัสถามนายสารถีว่า ทำไม เขาจึง
ชื่อว่าคนตาย
นายสารถีทูลตอบว่า ผู้นี้ชื่อว่าคนตาย เพราะเวลานี้มารดาบิดาหรือ
ญาติสาโลหิตอื่น ๆ จะไม่ได้พบเห็นเขาอีก ตัวเขาก็จะไม่ได้พบเห็นมารดาบิดาหรือ
ญาติสาโลหิตอื่น ๆ อีก พระเจ้าข้า
ถึงเราเองก็จะต้องตายเป็นธรรมดา หนีไม่พ้น พระมารดา พระบิดา หรือพระ
ประยูรญาติอื่น ๆ จะไม่ได้พบเห็นเรา แม้เราก็จะไม่ได้พบเห็นพระมารดา พระบิดา
หรือพระประยูรญาติอื่น ๆ กระนั้นหรือ
ทั้งพระองค์และข้าพระองค์ล้วนแต่ต้องตายเป็นธรรมดา หนีไม่พ้น พระเจ้าข้า
พระเจ้าแผ่นดิน พระราชินี หรือพระประยูรญาติอื่น ๆ จะไม่ทรงพบเห็นพระองค์
แม้พระองค์ก็จะไม่ทรงพบเห็นพระเจ้าแผ่นดิน พระราชินี หรือพระประยูรญาติอื่น ๆ
สหายสารถี ถ้าเช่นนั้น วันนี้ชมอุทยานพอแล้ว เธอจงขับรถกลับเข้าเมืองเถิด
นายสารถีทูลรับพระบัญชาแล้วขับราชรถกลับเข้าเมืองทันที
พระวิปัสสีราชกุมารเสด็จถึงพระราชฐานชั้นใน ทรงมีทุกข์ มีพระทัยไม่ยินดี
ทรงพระดำริว่า ขึ้นชื่อว่าความเกิดช่างน่ารังเกียจนัก เพราะเมื่อมีความเกิดก็มี
ความแก่ ความเจ็บ ความตาย
[51] ต่อมา พระเจ้าพันธุมารับสั่งให้เรียกนายสารถีมาแล้วตรัสถามว่า
พ่อสารถีคนดี ราชกุมารยินดีในอุทยานหรือไม่ พอใจในอุทยานหรือไม่
นายสารถีทูลตอบว่า ขอเดชะ พระราชกุมารไม่ทรงยินดีในพระอุทยาน
ไม่ทรงพอพระทัยในพระอุทยานครั้งนี้เลย
ท้าวเธอตรัสถามว่า ขณะที่เที่ยวชมอุทยาน ราชกุมารพบเห็นอะไรหรือ
พระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย มหาวรรค [1. มหาปทานสูตร] คนตาย
นายสารถีทูลตอบว่า ขณะที่เสด็จประพาสพระอุทยาน พระราชกุมาร ได้ทอด
พระเนตรเห็นหมู่ชนประชุมกันและกำลังประดับคานหามด้วยผ้าหลากสี จึงตรัสถาม
ข้าพระองค์ว่า สหายสารถี หมู่ชนประชุมกันและกำลังประดับคานหามด้วยผ้า
หลากสีไว้ทำไม
ข้าพระองค์ทูลตอบว่า ขอเดชะ ผู้นี้ชื่อว่าคนตาย
พระราชกุมารรับสั่งว่า สหายสารถี ถ้าเช่นนั้น เธอจงขับรถไปทางคนตายนั้น
ข้าพระองค์ทูลรับพระบัญชาแล้วขับราชรถไปทางคนตายนั้น
พระราชกุมารทอดพระเนตรคนตาย จึงตรัสถามข้าพระองค์ว่า ทำไม เขาจึง
ชื่อว่าคนตาย
ข้าพระองค์ทูลตอบว่า ผู้นี้ชื่อว่าคนตาย เพราะเวลานี้มารดาบิดาหรือ
ญาติสาโลหิตอื่น ๆ จะไม่ได้พบเห็นเขาอีก ตัวเขาก็จะไม่ได้พบเห็นมารดาบิดาหรือ
ญาติสาโลหิตอื่น ๆ อีก พระเจ้าข้า
ถึงเราเองก็จะต้องตายเป็นธรรมดา หนีไม่พ้น พระมารดา พระบิดา หรือ
พระประยูรญาติอื่น ๆ จะไม่ได้พบเห็นเรา แม้เราก็จะไม่ได้พบเห็นพระมารดา
พระบิดา หรือพระประยูรญาติอื่น ๆ กระนั้นหรือ
ทั้งพระองค์และข้าพระองค์ล้วนแต่ต้องตายเป็นธรรมดา หนีไม่พ้น พระเจ้าข้า
พระเจ้าแผ่นดิน พระราชินี หรือพระประยูรญาติอื่น ๆ จะไม่ทรงพบเห็นพระองค์
แม้พระองค์ก็จะไม่ทรงพบเห็นพระเจ้าแผ่นดิน พระราชินี หรือพระประยูรญาติอื่น ๆ
สหายสารถี ถ้าเช่นนั้น วันนี้ชมอุทยานพอแล้ว เธอจงขับรถกลับเข้าเมืองเถิด
ข้าพระองค์ทูลรับพระบัญชาแล้วขับราชรถกลับเข้าเมืองทันที พระราชกุมาร
เสด็จถึงพระราชฐานชั้นใน ทรงมีทุกข์ มีพระทัยไม่ยินดี ทรงพระดำริว่า ขึ้นชื่อว่า
ความเกิดช่างน่ารังเกียจนัก เพราะเมื่อมีความเกิดก็มีความแก่ ความเจ็บ ความตาย
พระเจ้าข้า