พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [6. มหาโควินทสูตร]
ถวายบังคมลากษัตริย์ 6 พระองค์
กษัตริย์ทั้ง 6 พระองค์ตรัสว่า ถ้าเช่นนั้น ท่านโควินทะขอจงรอคอยสัก
6 ปี ฯลฯ ขอจงรอคอยสัก 5 ปี ฯลฯ ขอจงรอคอยสัก 4 ปี ฯลฯ ขอจงรอคอย
สัก 3 ปี ฯลฯ ขอจงรอคอยสัก 2 ปี ฯลฯ ขอจงรอคอยสัก 1 ปี เมื่อเวลาล่วงไป
1 ปี พวกเราจะออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ท่านมีคติใด พวกเราก็จะมีคติ
นั้นด้วย
ท่านโควินทพราหมณ์กราบทูลว่า ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เวลา
1 ปีนานเกินไป ข้าพระองค์ไม่อาจรอคอยพระองค์อยู่ได้ถึง 1 ปี ก็ใครจะรู้ชีวิต
ได้เล่า บุคคลต้องไปปรโลก บัณฑิตจึงควรกำหนดรู้ด้วยปัญญา ควรทำกุศล
ควรประพฤติพรหมจรรย์ ผู้เกิดมาแล้วไม่ตายไม่มี ข้าพระองค์ได้ฟังเรื่องกลิ่นชั่วร้าย
ที่พระพรหมตรัสบอก กลิ่นชั่วร้ายเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้อยู่ครองเรือนจะกำจัดได้
ง่ายนัก ข้าพระองค์จะออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต พระเจ้าข้า
กษัตริย์ทั้ง 6 พระองค์ตรัสว่า ถ้าเช่นนั้น ท่านโควินทะขอจงรอคอยสัก
7 เดือน เมื่อเวลาล่วง 7 เดือน พวกเราจะออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ท่านมี
คติใด พวกเราก็จะมีคตินั้นด้วย
ท่านโควินทพราหมณ์กราบทูลว่า ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เวลา 7 เดือน
นานเกินไป ข้าพระองค์ไม่อาจรอคอยพระองค์อยู่ได้ถึง 7 เดือน ก็ใครจะรู้ชีวิต
ได้เล่า บุคคลต้องไปปรโลก บัณฑิตจึงควรกำหนดรู้ด้วยปัญญา ควรทำกุศล
ควรประพฤติพรหมจรรย์ ผู้เกิดมาแล้วไม่ตายไม่มี ข้าพระองค์ได้ฟังเรื่องกลิ่น
ชั่วร้ายที่พระพรหมตรัสบอก กลิ่นชั่วร้ายเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้อยู่ครองเรือนจะกำจัด
ได้ง่ายนัก ข้าพระองค์จะออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต พระเจ้าข้า
กษัตริย์ทั้ง 6 พระองค์ตรัสว่า ถ้าเช่นนั้น ท่านโควินทะขอจงรอคอยสัก
6 เดือน ฯลฯ ขอจงรอคอยสัก 5 เดือน ฯลฯ ขอจงรอคอยสัก 4 เดือน ฯลฯ
ขอจงรอคอยสัก 3 เดือน ฯลฯ ขอจงรอคอยสัก 2 เดือน ฯลฯ ขอจงรอคอยสัก
1 เดือน ฯลฯ ขอจงรอคอยสักกึ่งเดือน เมื่อเวลาล่วงไปกึ่งเดือน พวกเราจะออก
จากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ท่านมีคติใด พวกเราก็จะมีคตินั้นด้วย