พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [6. มหาโควินทสูตร] การสนทนากับพระพรหม
ความระอาท้อแท้ว่า เราได้สดับคำนี้ของพราหมณ์ผู้แก่ ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์ และ
ผู้เป็นปาจารย์พูดกันว่า บุคคลผู้หลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่ตลอด 4 เดือนใน
ฤดูฝน เขาจะเห็นพระพรหมได้ สนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ แต่เรายัง
ไม่เห็นพระพรหม ทั้งไม่ได้สนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมเลย
การสนทนากับพระพรหม
[318] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เวลานั้น สนังกุมารพรหมทราบความคิดคำนึง
ของท่านมหาโควินทพราหมณ์ด้วยใจ ทรงหายไปจากพรหมโลกมาปรากฏเฉพาะหน้า
ท่านมหาโควินทพราหมณ์ เหมือนบุรุษมีกำลังเหยียดแขนออกหรือคู้แขนเข้าฉะนั้น
ท่านมหาโควินทพราหมณ์เกิดความหวาดกลัวขนพองสยองเกล้า เพราะเห็นรูปที่
ไม่เคยเห็น ครั้นมหาโควินทพราหมณ์เกิดความหวาดสะดุ้งขนพองสยองเกล้าแล้ว
ได้กราบทูลสนังกุมารพรหมด้วยคาถาว่า
ท่านผู้นิรทุกข์ ท่านเป็นใคร
จึงมีวรรณะ ยศ และสิริ
ข้าพเจ้าไม่รู้จักท่านจึงขอถามว่า
ข้าพเจ้าจะรู้จักท่านได้อย่างไร
สนังกุมารพรหมตรัสตอบด้วยคาถาว่า
เทพทั้งปวงรู้จักเราดีว่า
เป็นกุมารตลอดกาลอยู่ในพรหมโลก
ท่านจงรู้อย่างนี้เถิด โควินทะ
ท่านโควินทพราหมณ์กราบทูลด้วยคาถาว่า
ข้าพเจ้าถวายของมีค่าเหล่านี้
คือ อาสนะ น้ำดื่ม น้ำมันทาเท้า
น้ำตาลเคี่ยว แด่พระพรหม
ขอท่านผู้เจริญจงรับของมีค่าของข้าพเจ้าเถิด1
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [6. มหาโควินทสูตร] การสนทนากับพระพรหม
สนังกุมารพรหมตรัสตอบด้วยคาถาว่า
ท่านโควินทะ เรายอมรับของมีค่าของท่าน
ที่ท่านพูดถึง เราให้โอกาสท่านแล้ว
จงถามเรื่องใด ๆ ก็ได้ที่ท่านปรารถนาจะถาม
เพื่อประโยชน์เกื้อกูลในปัจจุบันและเพื่อสุขในอนาคต
[319] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ท่านมหาโควินทพราหมณ์มีความคิดดังนี้ว่า
สนังกุมารพรหมให้โอกาสแล้ว เราควรถามประโยชน์ในปัจจุบันหรือประโยชน์ใน
อนาคตกับท่านอย่างไหนหนอ คิดต่อไปอีกว่า เราเป็นผู้ฉลาดเรื่องประโยชน์ใน
ปัจจุบัน แม้ชนเหล่าอื่นก็ถามประโยชน์ในปัจจุบันกับเรา ทางที่ดี เราควรถามถึง
ประโยชน์ในอนาคตกับสนังกุมารพรหม จึงกราบทูลสนังกุมารพรหมด้วยพระคาถาว่า
ข้าพเจ้ามีความสงสัยจะขอถามท่านสนังกุมารพรหม
ผู้ไม่มีความสงสัยในปัญหาที่ผู้อื่นสงสัยว่า
สัตว์ผู้ตั้งอยู่ในธรรมอะไร ศึกษาอยู่ในธรรมอะไร
จึงจะถึงพรหมโลกอันเป็นอมตะได้
สนังกุมารพรหมตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า
พราหมณ์ ในหมู่มนุษย์
สัตว์ผู้ละความยึดถือว่าเป็นของเรา
เป็นผู้อยู่ผู้เดียว ผู้น้อมใจไปในกรุณา
ผู้ไม่มีกลิ่นชั่วร้าย เว้นจากเมถุน
สัตว์ผู้ตั้งอยู่ในธรรมนี้ และศึกษาอยู่ในธรรมนี้
จึงจะถึงพรหมโลกอันเป็นอมตะได้
[320] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย มหาโควินทพราหมณ์กราบทูลว่า คำของท่าน
ที่ว่า ละความยึดถือว่าเป็นของเรา ข้าพเจ้าเข้าใจว่า บุคคลบางคนในโลกนี้ละทิ้ง
กองโภคสมบัติน้อยใหญ่ และละเครือญาติน้อยใหญ่ โกนผมและหนวดนุ่งห่มผ้า
กาสาวพัสตร์ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต คำของท่านที่ว่า ละความยึดถือว่า
เป็นของเรา ข้าพเจ้าเข้าใจดังว่ามานี้