พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [6. มหาโควินทสูตร]
กิตติคุณของมหาโควินทพราหมณ์
พระพรหมได้ แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นพระพรหม ทั้งไม่เคยสนทนาปราศรัยกับ
พระพรหมเลย แต่ข้าพเจ้าได้สดับคำนี้ของพราหมณ์ผู้แก่ ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์
และผู้เป็นปาจารย์พูดกันว่า บุคคลผู้หลีกเร้นอยู่ เพ่งกรุณาฌานตลอด 4 เดือนใน
ฤดูฝน เขาจะเห็นพระพรหมได้สนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ ถ้าอย่างนั้น
พวกท่านจงสาธยายมนตร์ตามที่ได้สดับมาแล้ว ตามที่ได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร
และจงบอกมนตร์แก่กันและกัน ข้าพเจ้าปรารถนาจะหลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่
ตลอด 4 เดือนในฤดูฝน ใคร ๆ ไม่พึงเข้าไปหาข้าพเจ้า ยกเว้นคนที่นำอาหารไปให้
คนเดียวเท่านั้น
พวกพราหมณมหาศาลและพวกพราหมณ์นหาดกกล่าวว่า ท่านโควินทะ
ขอท่านจงกำหนดเวลาที่สมควร ณ บัดนี้เถิด
[316] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย จากนั้น ท่านมหาโควินทพราหมณ์เข้าไปหา
ภรรยาผู้มีฐานะเท่ากัน 40 คน ถึงที่อยู่ได้กล่าวดังนี้ว่า นางผู้เจริญ ฉันมีกิตติศัพท์
อันงามขจรไปอย่างนี้ว่า มหาโควินทพราหมณ์ สามารถมองเห็นพระพรหมได้
สามารถสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ ฉันไม่เคยเห็นพระพรหม ทั้งไม่
เคยสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมเลย แต่ฉันได้สดับคำนี้ของพราหมณ์ผู้แก่
ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์ และผู้เป็นปาจารย์พูดกันว่า บุคคลผู้หลีกเร้น เพ่งกรุณาฌาน
ตลอด 4 เดือนในฤดูฝน เขาจะเห็นพระพรหมได้ สนทนาปราศรัยปรึกษากับ
พระพรหมได้ ฉันปรารถนาจะหลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่ตลอด 4 เดือนในฤดูฝน
ใคร ๆ ไม่พึงเข้าไปหาฉัน ยกเว้นคนที่นำอาหารไปให้คนเดียวเท่านั้น
ภรรยาเหล่านั้นกล่าวว่า ท่านโควินทะ ขอท่านจงกำหนดเวลาที่สมควร
ณ บัดนี้เถิด
[317] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย จากนั้น ท่านโควินทพราหมณ์จึงให้สร้าง
สัณฐาคารหลังใหม่ทางทิศตะวันออกแห่งเมืองแล้วหลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่
ตลอด 4 เดือนในฤดูฝน ไม่มีใคร ๆ เข้าไปหา นอกจากคนนำอาหารไปให้
คนเดียวเท่านั้น ครั้นเวลาล่วงไป 4 เดือนแล้ว ท่านมหาโควินทพราหมณ์เกิด
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [6. มหาโควินทสูตร] การสนทนากับพระพรหม
ความระอาท้อแท้ว่า เราได้สดับคำนี้ของพราหมณ์ผู้แก่ ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์ และ
ผู้เป็นปาจารย์พูดกันว่า บุคคลผู้หลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานอยู่ตลอด 4 เดือนใน
ฤดูฝน เขาจะเห็นพระพรหมได้ สนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ แต่เรายัง
ไม่เห็นพระพรหม ทั้งไม่ได้สนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมเลย
การสนทนากับพระพรหม
[318] ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เวลานั้น สนังกุมารพรหมทราบความคิดคำนึง
ของท่านมหาโควินทพราหมณ์ด้วยใจ ทรงหายไปจากพรหมโลกมาปรากฏเฉพาะหน้า
ท่านมหาโควินทพราหมณ์ เหมือนบุรุษมีกำลังเหยียดแขนออกหรือคู้แขนเข้าฉะนั้น
ท่านมหาโควินทพราหมณ์เกิดความหวาดกลัวขนพองสยองเกล้า เพราะเห็นรูปที่
ไม่เคยเห็น ครั้นมหาโควินทพราหมณ์เกิดความหวาดสะดุ้งขนพองสยองเกล้าแล้ว
ได้กราบทูลสนังกุมารพรหมด้วยคาถาว่า
ท่านผู้นิรทุกข์ ท่านเป็นใคร
จึงมีวรรณะ ยศ และสิริ
ข้าพเจ้าไม่รู้จักท่านจึงขอถามว่า
ข้าพเจ้าจะรู้จักท่านได้อย่างไร
สนังกุมารพรหมตรัสตอบด้วยคาถาว่า
เทพทั้งปวงรู้จักเราดีว่า
เป็นกุมารตลอดกาลอยู่ในพรหมโลก
ท่านจงรู้อย่างนี้เถิด โควินทะ
ท่านโควินทพราหมณ์กราบทูลด้วยคาถาว่า
ข้าพเจ้าถวายของมีค่าเหล่านี้
คือ อาสนะ น้ำดื่ม น้ำมันทาเท้า
น้ำตาลเคี่ยว แด่พระพรหม
ขอท่านผู้เจริญจงรับของมีค่าของข้าพเจ้าเถิด1