เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค [5. ชนวนสภสูตร]
คำกราบทูลเลียบเคียงของพระอานนท์

ในแว่นแคว้นของพระองค์ผู้ทรงธรรม ครองราชย์โดยธรรม อนึ่ง พระเจ้าแผ่นดิน
พระองค์นั้น ทรงเลื่อมใสในพระพุทธ เลื่อมใสในพระธรรม เลื่อมใสในพระสงฆ์
และทรงรักษาศีลให้บริบูรณ์’ และทราบว่าชาวบ้านพูดกันอย่างนี้ว่า ‘แม้จนกระทั่ง
เวลาจะสวรรคต พระเจ้าพิมพิสาร จอมทัพแห่งแคว้นมคธก็ยังทรงสรรเสริญพระผู้มี
พระภาคอยู่จนสวรรคต’ พระผู้มีพระภาคไม่ทรงพยากรณ์ท้าวเธอ ผู้สวรรคตไปแล้ว
การพยากรณ์ท้าวเธอพึงให้สำเร็จประโยชน์ได้ คือ คนจำนวนมากพึงเลื่อมใส
จากนั้นจะไปสู่สุคติภูมิ พระผู้มีพระภาคตรัสรู้ในแคว้นมคธ ทำไมพระองค์จึงไม่ทรง
พยากรณ์ชาวมคธผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัยที่ล่วงลับดับชีพไปแล้วในเรื่องการอุบัติที่
พระองค์ได้ตรัสรู้ ถ้าพระผู้มีพระภาคไม่ทรงพยากรณ์ชาวมคธผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัย
ที่ล่วงลับดับชีพไปแล้วในเรื่องการอุบัติ พวกชาวมคธจะพึงน้อยใจว่า ‘ไฉน พระผู้มี
พระภาคจึงไม่ทรงพยากรณ์ชาวมคธเหล่านั้น”
ท่านพระอานนท์ กราบทูลเลียบเคียงปรารภชาวมคธผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัย
ณ เบื้องพระพักตร์พระผู้มีพระภาคแล้ว ลุกจากอาสนะถวายอภิวาทแล้ว กระทำ
ประทักษิณจากไป
[278] เมื่อท่านพระอานนท์จากไปไม่นาน ครั้นในเวลาเช้า พระผู้มีพระภาค
ทรงครองอันตรวาสกถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปยังนาทิกคามเพื่อบิณฑบาต
เมื่อเสด็จกลับจากบิณฑบาต ภายหลังเสวยพระกระยาหารเสร็จแล้ว ทรงล้างพระบาท
เสด็จเข้าไปในตำหนักอิฐ ประทับนั่งบนพุทธอาสน์ที่ปูลาดไว้แล้ว ทรงตั้งพระทัย
เพ่งพิจารณาเหตุการณ์ทุกอย่าง ปรารภชาวมคธผู้เคยบำรุงพระรัตนตรัย ด้วยพระ
ดำริว่า “เราจะรู้คติและอภิสัมปรายภพของชาวมคธเหล่านั้นว่า ‘ผู้เจริญเหล่านั้น
มีคติเป็นอย่างไร และมีอภิสัมปรายภพเป็นอย่างไร” แล้วได้ทรงเห็นชาวมคธผู้เคย
บำรุงพระรัตนตรัยว่า “ผู้เจริญเหล่านั้น มีคติเป็นอย่างไร และมีอภิสัมปรายภพเป็น
อย่างไร” ครั้นในเวลาเย็น เสด็จออกจากการหลีกเร้น ออกจากตำหนักอิฐ ประทับ
นั่งบนพุทธอาสน์ที่ปูลาดไว้แล้วในร่มเงาพระวิหาร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 10 หน้า :209 }