เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [3.อัมพัฏฐสูตร]
อัมพัฏฐมาณพพูดกตศากยวงศ์ว่าเป็นคนรับใช้ครั้งที่ 1

แผ่นดินมีสาครเป็นขอบเขต (2) ถ้าเสด็จออกจากพระราชวังไปผนวชเป็นบรรพชิต
จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ไม่มีกิเลสในโลก เราเป็นผู้ให้มนตร์ แต่เธอ
เป็นผู้รับมนตร์”
[259] อัมพัฏฐมาณพรับคำแล้วลุกจากที่นั่ง ไหว้พราหมณ์โปกขรสาติ
กระทำประทักษิณแล้วขึ้นยานพาหนะเทียมลาไปพร้อมด้วยมาณพหลายคน ตรงไป
ยังราวป่าอิจฉานังคลวันจนสุดทางยานพาหนะ แล้วลงจากยานพาหนะเดินเข้าไปยัง
พระอาราม
เวลานั้น ภิกษุหลายรูปกำลังเดินจงกรมอยู่กลางแจ้ง อัมพัฏฐมาณพเข้าไปหา
ภิกษุเหล่านั้นถึงที่จงกรมแล้วถามว่า “ท่านขอรับ เวลานี้ท่านพระโคดมพระองค์นั้น
ประทับอยู่ที่ไหน พวกเรามาที่นี้ก็เพื่อจะเฝ้าท่านพระโคดมพระองค์นั้น”
[260] ภิกษุเหล่านั้นคิดว่า ‘อัมพัฏฐมาณพคนนี้เกิดในตระกูลที่มีชื่อเสียง ทั้ง
เป็นศิษย์ของพราหมณ์โปกขรสาติผู้โด่งดัง พระผู้มีพระภาคทรงสนทนากับกุลบุตร
เช่นนี้จะไม่หนักพระทัย’ จึงตอบว่า “อัมพัฏฐะ นั่นพระวิหารปิดประตูอยู่ ท่านจง
เข้าไปทางพระวิหารนั้นเงียบ ๆ ค่อย ๆ เข้าไปที่เฉลียงกระแอมก่อนจึงเคาะบานประตู
พระผู้มีพระภาคจักทรงเปิดประตูให้ท่าน”
[261] ต่อมา อัมพัฏฐมาณพเข้าไปทางพระวิหารนั้นเงียบ ๆ ค่อย ๆ เข้า
ไปที่เฉลียงกระแอมก่อนจึงเคาะบานประตู พระผู้มีพระภาคทรงเปิดประตูให้
อัมพัฏฐมาณพจึงเข้าไป ฝ่ายพวกมาณพก็พากันเข้าไปสนทนากับพระผู้มีพระภาค
ครั้นสนทนากันพอคุ้นเคยดีจึงนั่งลง ณ ที่สมควร
แต่อัมพัฏฐมาณพเดินบ้าง ยืนบ้าง สนทนากับพระผู้มีพระภาคผู้ประทับนั่งอยู่
[262] พระผู้มีพระภาคตรัสถามอัมพัฏฐมาณพว่า “อัมพัฏฐะ เธอเคย
สนทนากับพราหมณ์ผู้แก่ผู้เฒ่าผู้เป็นอาจารย์และปาจารย์ เหมือนดังที่เธอเดินบ้าง
ยืนบ้าง สนทนากับเราผู้นั่งอยู่เช่นนี้หรือ”

อัมพัฏฐมาณพพูดกดศากยวงศ์ว่าเป็นคนรับใช้ครั้งที่ 1

[263] อัมพัฏฐมาณพตอบว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น ท่านพระโคดม แท้จริง
พราหมณ์ผู้เดินก็ควรสนทนากับพราหมณ์ผู้เดิน พราหมณ์ผู้ยืนก็ควรสนทนากับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 9 หน้า :90 }