พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [9.โปฏฐปาทสูตร]
เปรียบด้วยชายหลงรักหญิงงามแห่งชนบท
[425] โปฏฐปาทะ มีสมณพราหมณ์ผู้มีวาทะมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า หลังจาก
ตายแล้ว อัตตามีสุขโดยส่วนเดียว ปลอดภัย เราเข้าไปหาสมณพราหมณ์เหล่านั้น
แล้วถามว่า ท่านมีวาทะมีทิฏฐิอย่างนี้ว่า หลังจากตายแล้ว อัตตามีสุขโดยส่วนเดียว
ปลอดภัยจริงหรือ
ถ้าสมณพราหมณ์เหล่านั้นถูกถามอย่างนี้ยังยืนยันว่า จริง เราจะถามว่า ก็
ท่านรู้ท่านเห็นโลกที่มีสุขโดยส่วนเดียวหรือ เมื่อถูกถามอย่างนี้ พวกเขาจะตอบว่า
ไม่รู้ไม่เห็น
เราจะถามว่า ท่านรู้อัตตาที่มีสุขโดยส่วนเดียว ตลอด 1 วัน ตลอด 1 คืน
หรือตลอดครึ่งวันตลอดครึ่งคืนหรือ เมื่อถูกถามอย่างนี้ พวกเขาจะตอบว่า ไม่รู้
เราจะถามว่า ก็ท่านรู้ว่า นี้เป็นทาง นี้เป็นข้อปฏิบัติเพื่อบรรลุโลกที่มีสุขโดย
ส่วนเดียวหรือ เมื่อถูกถามอย่างนี้ พวกเขาจะตอบว่า ไม่รู้
เราจะถามว่า ก็ท่านได้ยินเสียงพวกเทวดาผู้บังเกิดในโลกที่มีสุขโดยส่วนเดียว
ซึ่งกล่าวอยู่ว่า ท่านผู้นิรทุกข์ ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเพื่อบรรลุโลกที่มีสุขโดย
ส่วนเดียว ถึงข้าพเจ้าก็ปฏิบัติอย่างนี้จึงบังเกิดในโลกที่มีสุขโดยส่วนเดียวหรือ เมื่อ
ถูกถามอย่างนี้ พวกเขาจะตอบว่า ไม่ได้ยิน
โปฏฐปาทะ ท่านเข้าใจเรื่องนั้นว่าอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้ ภาษิตของสมณ-
พราหมณ์เหล่านั้นถือว่าเลื่อนลอย1 มิใช่หรือ
เขากราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า เมื่อเป็นเช่นนี้ ภาษิตของสมณพราหมณ์
เหล่านั้นถือว่าเลื่อนลอยแน่นอน
เปรียบด้วยชายหลงรักหญิงงามแห่งชนบท2
[426] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า โปฏฐปาทะ เปรียบเหมือนชายคนหนึ่ง
ปรารภถึงหญิงสาวอย่างนี้ว่า เราปรารถนารักใคร่หญิงงามแห่งชนบทนี้ คนจะถาม
เขาว่า พ่อคุณ เธอรู้จักหญิงคนนั้นหรือว่าเป็นนางกษัตริย์ นางพราหมณี นางแพศย์