พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [5.กูฏทันตสูตร]
ยัญที่สืบตระกูลกันมาคือนิตยทาน
เขาทูลถามว่า ท่านพระโคดม ยัญนั้นเป็นอย่างไร
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ยัญของบุคคลผู้สร้างวิหารอุทิศพระสงฆ์ผู้มา
จากทิศทั้ง 4 นี้เป็นยัญซึ่งใช้ทุนทรัพย์และมีการตระเตรียมน้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์
มากกว่ายัญสมบัติ 3 ประการ มีองค์ประกอบ 16 และกว่านิตยทานที่ทำสืบกัน
มานี้
[351] เขาทูลถามว่า ท่านพระโคดม มียัญอย่างอื่นอีกหรือไม่ ที่ใช้
ทุนทรัพย์และมีการตระเตรียมน้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์มากกว่ายัญสมบัติ 3 ประการ
มีองค์ประกอบ 16 กว่านิตยทานที่ทำสืบกันมาและกว่าวิหารทานนี้
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า มีอยู่ พราหมณ์
เขาทูลถามว่า ท่านพระโคดม ยัญนั้นเป็นอย่างไร
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ยัญของบุคคลผู้มีจิตเลื่อมใส ถึงพระพุทธเจ้า
พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ นี้เป็นยัญซึ่งใช้ทุนทรัพย์และมีการ
ตระเตรียมน้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์มากกว่ายัญสมบัติ 3 ประการ มีองค์ประกอบ
16 กว่านิตยทานที่ทำสืบกันมา และกว่าวิหารทานนี้
[352] เขาทูลถามว่า ท่านพระโคดม มียัญอย่างอื่นอีกหรือไม่ ที่ใช้ทุนทรัพย์
และมีการตระเตรียมน้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์มากกว่ายัญสมบัติ 3 ประการ มีองค์
ประกอบ 16 กว่านิตยทานที่ทำสืบกันมา กว่าวิหารทาน และกว่าสรณคมน์นี้
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า มีอยู่ พราหมณ์
เขาทูลถามว่า ท่านพระโคดม ยัญนั้นเป็นอย่างไร
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า การที่บุคคลผู้มีจิตเลื่อมใสสมาทานสิกขาบท
ทั้งหลาย คือ เจตนาเป็นเหตุเว้นจากการฆ่าสัตว์ เจตนาเป็นเหตุเว้นจากการถือเอา
สิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ เจตนาเป็นเหตุเว้นจากการประพฤติผิดในกาม เจตนา
เป็นเหตุเว้นจากการพูดเท็จ เจตนาเป็นเหตุเว้นจากการเสพของมึนเมาคือสุราและ
เมรัยอันเป็นเหตุแห่งความประมาท นี้เป็นยัญซึ่งใช้ทุนทรัพย์และมีการตระเตรียม
น้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์มากกว่ายัญสมบัติ 3 ประการมี องค์ประกอบ 16 กว่า
นิตยทานที่ทำสืบกันมา กว่าวิหารทาน และกว่าสรณคมน์นี้
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [5.กูฏทันตสูตร]
พราหมณ์กูฏทันตะประกาศตนเป็นอุบาสก
[353] เขาทูลถามว่า ท่านพระโคดม มียัญอย่างอื่นอีกหรือไม่ ที่ใช้ทุนทรัพย์
และมีการตระเตรียมน้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์มากกว่ายัญสมบัติ 3 ประการ มีองค์
ประกอบ 16 กว่านิตยทานที่ทำสืบกันมา กว่าวิหารทาน กว่าสรณคมน์ และกว่า
สิกขาบทเหล่านี้
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า มีอยู่ พราหมณ์
เขาทูลถามว่า ท่านพระโคดม ยัญนั้นเป็นอย่างไร
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า พราหมณ์ ตถาคตอุบัติขึ้นมาในโลกนี้ เป็น
พระอรหันต์ ตรัสรู้ด้วยตนเองโดยชอบ ฯลฯ (พึงนำข้อความเต็มในสามัญญผลสูตร
มาใส่ไว้ในที่นี้) ภิกษุชื่อว่าสมบูรณ์ด้วยศีลเป็นอย่างนี้แล ฯลฯ บรรลุปฐมฌานอยู่
นี้เป็นยัญซึ่งใช้ทุนทรัพย์และมีการตระเตรียมน้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์มากกว่ายัญ
ที่กล่าวมาแล้วก่อน ๆ ฯลฯ บรรลุทุติยฌานอยู่ บรรลุตติยฌานอยู่ บรรลุจตุตถฌาน
อยู่ นี้เป็นยัญซึ่งใช้ทุนทรัพย์และมีการตระเตรียมน้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์มากกว่า
ยัญที่กล่าวมาแล้วก่อน ๆ ฯลฯ น้อมจิตไปเพื่อญาณทัสสนะ ฯลฯ นี้เป็นยัญซึ่งใช้
ทุนทรัพย์และมีการตระเตรียมน้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์มากกว่ายัญที่กล่าวมาแล้ว
ก่อน ๆ ฯลฯ รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว
ไม่มีกิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป1 นี้แลเป็นยัญซึ่งใช้ทุนทรัพย์และมีการ
ตระเตรียมน้อยกว่า แต่มีผลานิสงส์มากกว่ายัญที่กล่าวมาแล้วก่อน ๆ พราหมณ์
ไม่มียัญสมบัติอื่น ๆ ที่จะดียิ่งกว่าหรือประณีตกว่ายัญสมบัตินี้อีกแล้ว
พราหมณ์กูฏทันตะประกาศตนเป็นอุบาสก
[354] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้ พราหมณ์กูฏทันตะได้กราบทูลว่า
ข้าแต่ท่านพระโคดม ภาษิตของท่านพระโคดมชัดเจนไพเราะยิ่งนัก ข้าแต่ท่านพระโคดม
ภาษิตของท่านพระโคดมชัดเจนไพเราะยิ่งนัก ท่านพระโคดมทรงประกาศธรรมแจ่ม
แจ้งโดยประการต่าง ๆ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทาง