พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [3.อัมพัฏฐสูตร]
พราหมณ์โปกขรสาติเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค
ขับยานพาหนะตรงไปยังราวป่าอิจฉานังคลวัน เมื่อเข้าไปจนสุดทางยานพาหนะจึง
ลงเดินเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ สนทนากับพระผู้มีพระภาคพอคุ้นเคย
แล้ว จึงนั่งลง ณ ที่สมควร
[293] พราหมณ์โปกขรสาตินั่งเรียบร้อยแล้วได้ทูลถามว่า ท่านพระโคดม
อัมพัฏฐมาณพศิษย์ของข้าพเจ้าได้มาที่นี่หรือ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า เขามาที่นี่ พราหมณ์
เขาทูลถามว่า พระองค์ได้สนทนากับเขาบ้างหรือไม่
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า เราได้สนทนากับเขา พราหมณ์
เขาทูลถามว่า พระองค์ได้สนทนากับเขาว่าอย่างไรบ้าง
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเล่าเรื่องเท่าที่พระองค์ทรงสนทนากับอัมพัฏฐมาณพให้
พราหมณ์โปกขรสาติทราบทุกประการ
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้ พราหมณ์โปกขรสาติได้กราบทูลว่า ท่าน
พระโคดม อัมพัฏฐมาณพเป็นคนโง่ โปรดยกโทษให้เขาเถิด
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ขอให้อัมพัฏฐมาณพจงมีความสุขเถิด พราหมณ์
[294] ครั้งนั้น พราหมณ์โปกขรสาติได้สังเกตดูลักษณะมหาบุรุษ 32
ประการในพระวรกายของพระผู้มีพระภาค ได้เห็นลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ
โดยส่วนมาก เว้นอยู่ 2 ประการ คือ พระคุยหฐานซึ่งเร้นอยู่ในฝักกับพระชิวหาใหญ่
จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่เชื่อสนิทใจ
[295] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพระดำริว่า พราหมณ์โปกขรสาตินี้
เห็นลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการของเราโดยส่วนมาก เว้นอยู่ 2 ประการ คือ
คุยหฐานซึ่งเร้นอยู่ในฝักกับชิวหาใหญ่ จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่เชื่อสนิทใจ ทันใด
นั้น พระผู้มีพระภาคทรงบันดาลอิทธาภิสังขารให้เขามองเห็นพระคุยหฐานซึ่งเร้นอยู่
ในฝัก และทรงแลบพระชิวหาสอดเข้าช่องพระกรรณทั้ง 2 ข้างกลับไปมา สอดเข้า
ช่องพระนาสิกทั้ง 2 ข้างกลับไปมาแผ่ปิดจนมิดมณฑลพระนลาฏ