เมนู

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [3.อัมพัฏฐสูตร]
อัมพัฏมาณพกลับไปรายงานพราหมณ์โปกขรสาติ

ทรงแสดงลักษณะมหาบุรุษ 2 ประการ

[287] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากพระวิหารทรงจงกรมอยู่ แม้
อัมพัฏฐมาณพก็ออกจากพระวิหารเดินจงกรมอยู่เหมือนกัน ขณะที่เขาเดินตามพระ
ผู้มีพระภาคอยู่ ได้สังเกตดูลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ ในพระวรกายของพระ
ผู้มีพระภาค ได้เห็นลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการโดยส่วนมาก เว้นอยู่ 2 ประการ
คือ พระคุยหฐานซึ่งเร้นอยู่ในฝัก กับพระชิวหาใหญ่ จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่เชื่อ
สนิทใจ
[288] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพระดำริว่า ‘อัมพัฏฐมาณพนี้เห็น
ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการของเราโดยส่วนมาก เว้นอยู่ 2 ประการคือ คุยหฐาน
ซึ่งเร้นอยู่ในฝัก กับชิวหาใหญ่ จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่เชื่อสนิทใจ’ ทันใดนั้น
พระผู้มีพระภาคทรงบันดาลอิทธาภิสังขารให้เขามองเห็นพระคุยหฐานซึ่งเร้นอยู่ในฝัก
และทรงแลบพระชิวหาสอดเข้าช่องพระกรรณทั้ง 2 ข้างกลับไปมา สอดเข้าช่องพระ
นาสิกทั้ง 2 ข้างกลับไปมาแผ่ปิดจนมิดมณฑลพระนลาฏ
อัมพัฏฐมาณพคิดว่า ‘พระสมณโคดมทรงประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษ 32
ประการครบถ้วน ไม่ใช่ไม่ครบถ้วน’ จึงได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า “ท่านพระ
โคดม บัดนี้ ข้าพเจ้าขอลากลับ เพราะมีกิจมีหน้าที่ที่จะต้องทำอีกมาก”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ขอเธอจงกำหนดเวลาที่สมควร ณ บัดนี้เถิด อัมพัฏฐะ”
ทีนั้น อัมพัฏฐมาณพได้ขึ้นรถเทียมม้าจากไป

อัมพัฏฐมาณพกลับไปรายงานพราหมณ์โปกขรสาติ

[289] สมัยนั้น พราหมณ์โปกขรสาติลุกออกมานั่งคอยอัมพัฏฐมาณพอยู่ ณ
อารามของตนพร้อมกับคณะพราหมณ์หมู่ใหญ่ ฝ่ายอัมพัฏฐมาณพขับยานพาหนะ
ไปทางอารามของตนจนสุดทางที่ยานพาหนะจะเข้าไปได้ จึงลงเดินเข้าไปหา
พราหมณ์โปกขรสาติ กราบแล้วนั่งอยู่ ณ ที่สมควร
[290] พราหมณ์โปกขรสาติถามอัมพัฏฐมาณพว่า “พ่ออัมพัฏฐะ เธอได้เห็น
ท่านพระโคดมพระองค์นั้นแล้วหรือ”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 9 หน้า :106 }


พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค [3.อัมพัฏฐสูตร]
พราหมณ์โปกขรสาติเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค

เขาตอบว่า “ได้เห็นแล้ว ขอรับ”
“กิตติศัพท์ของท่านพระโคดมที่ขจรไปเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่นเลยหรือ
ท่านพระโคดมทรงเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่นเลยหรือ”
“ขอรับ กิตติศัพท์ของท่านพระโคดมที่ขจรไปเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่น
เลย ท่านพระโคดมทรงเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เป็นอย่างอื่นเลย ทั้งยังทรงประกอบด้วย
ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการครบถ้วน ไม่ใช่ไม่ครบถ้วน”
“เธอได้สนทนากับพระสมณโคดมบ้างหรือไม่”
“ได้สนทนา ขอรับ”
พราหมณ์โปกขรสาติถามว่า “เธอได้สนทนากับพระสมณโคดมว่าอย่างไรบ้าง”
อัมพัฏฐมาณพจึงได้เล่าเรื่องเท่าที่ตนสนทนากับพระผู้มีพระภาคให้พราหมณ์
โปกขรสาติทราบทุกประการ
[291] เมื่ออัมพัฏฐมาณพเล่าให้ฟังอย่างนี้ พราหมณ์โปกขรสาติกล่าวว่า
“โธ่เอ๋ย พ่อบัณฑิตผู้พหูสูตทรงไตรเพทของเรา หลังจากตายแล้วคนจะไปบังเกิดใน
อบาย ทุคติ วินิบาต นรก ก็เพราะคนผู้ประพฤติประโยชน์เช่นนี้ เธอพูดกระทบ
ท่านพระโคดมอย่างนี้ ๆ แต่กลับถูกท่านพระโคดมยกเอาพวกเราเป็นตัวอย่าง
เปรียบเทียบอย่างนี้ ๆ โธ่เอ๋ย พ่อบัณฑิตผู้พหูสูตทรงไตรเพทของเรา หลังจากตาย
แล้วคนจะไปบังเกิดในอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ก็เพราะคนผู้ประพฤติประโยชน์
เช่นนี้” โกรธเคือง ไม่พอใจ จึงเตะอัมพัฏฐมาณพจนล้มกลิ้ง ทั้งอยากเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคในเวลานั้นทีเดียว

พราหมณ์โปกขรสาติเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค

[292] พราหมณ์เหล่านั้นได้กล่าวกับพราหมณ์โปกขรสาติว่า “วันนี้เกินเวลา
ที่จะไปเข้าเฝ้าพระสมณโคดมเสียแล้ว รอพรุ่งนี้ค่อยไปเถิดท่านโปกขรสาติ”
ต่อมา พราหมณ์โปกขรสาติสั่งให้จัดเตรียมของขบฉันอันประณีตไว้ในนิเวศน์
ของตน แล้วขึ้นยานพาหนะเดินทางออกจากเมืองอุกกัฏฐะ เมื่อยังตามคบเพลิงอยู่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 9 หน้า :107 }