เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [เสทโมจนคาถา] 2. ปาราชิกาทิปัญหา
ภิกษุ 4 รูป ชวนกันไปลักครุภัณฑ์ 3 รูป ต้องอาบัติปาราชิก
อีก 1 รูป ไม่ต้องอาบัติปาราชิก
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว

2. ปาราชิกาทิปัญหา
ปัญหาว่าด้วยอาบัติปาราชิก เป็นต้น
[480] สตรีอยู่ข้างในและภิกษุอยู่ข้างนอก ช่องในเรือนนั้นก็ไม่มี
ภิกษุจะพึงต้องอาบัติปาราชิกเพราะเมถุนธรรมเป็นปัจจัยได้อย่างไร
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
เมื่อภิกษุรับประเคนน้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อยและเนยใส
ด้วยตนเองแล้วเก็บไว้ เมื่อยังไม่ล่วง 7 วัน
เมื่อปัจจัยมีอยู่จึงฉัน ต้องอาบัติ
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
อาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ อาบัติสุทธิกปาจิตตีย์
ภิกษุต้องพร้อมกัน
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
ภิกษุ 20 รูป มาประชุมกัน สำคัญว่าพร้อมเพรียงจึงทำกรรม
ภิกษุอยู่ไกล 12 โยชน์ พึงยังกรรมนั้นให้เสียได้
เพราะการแบ่งพวกเป็นปัจจัย
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
ภิกษุต้องครุกาบัติที่ทำคืนได้ทั้งหมด 64 คราวเดียวกัน
ด้วยอาการเพียงย่างเท้า และด้วยกล่าววาจา
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
ภิกษุนุ่งผ้าอันตรวาสก ห่มผ้าสังฆาฏิ 2 ชั้น
ผ้าทั้งหมดนั้นเป็นนิสสัคคีย์
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :696 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [เสทโมจนคาถา] 2. ปาราชิกาทิปัญหา
ญัตติก็ไม่ได้สวด กรรมวาจาก็ไม่ได้สวด
พระชินเจ้าก็มิได้รับสั่งว่า เธอจงมาเป็นภิกษุเถิด
ไตรสรณคมณ์เขาก็ไม่ได้รับ
แต่อุปสัมปทกรรมของบุคคลนั้นไม่เสีย
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
บุคคลผู้โง่เขลาฆ่าสตรีซึ่งมิใช่มารดา และฆ่าบุรุษซึ่งมิใช่บิดา
ฆ่าบุคคลผู้มิใช่อริยะ แต่ต้องอนันตริยกรรมเพราะโทษนั้น
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
บุคคลผู้โง่เขลาฆ่าสตรีผู้เป็นมารดา และฆ่าบุรุษผู้เป็นบิดา
ครั้นฆ่ามารดาบิดาแล้ว ไม่ต้องอนันตริยกรรมเพราะโทษนั้น
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
ภิกษุไม่โจท ไม่สอบสวน แล้วทำกรรมแก่บุคคลผู้อยู่ลับหลัง
และกรรมที่ทำแล้ว เป็นอันทำชอบแล้ว
ทั้งการกสงฆ์ก็ไม่ต้องอาบัติ
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
ภิกษุโจท สอบสวนแล้ว พึงทำกรรมแก่บุคคลผู้อยู่ต่อหน้า
และกรรมที่ทำแล้ว ไม่เป็นอันทำ ทั้งการกสงฆ์ก็ต้องอาบัติ
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
ภิกษุตัดต้องอาบัติก็มี ไม่ต้องอาบัติก็มี
ภิกษุปกปิดต้องอาบัติก็มี ไม่ต้องอาบัติก็มี
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว
ภิกษุพูดจริงต้องอาบัติหนัก พูดเท็จต้องอาบัติเบา
พูดเท็จต้องอาบัติหนัก และพูดจริงต้องอาบัติเบา
ปัญหาข้อนี้ ท่านผู้ฉลาดทั้งหลายคิดกันแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :697 }