เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [อุปาลิปัญจกะ] 6. ธุดงควรรค
5. เพราะอาศัยความมักน้อย สันโดษ ขัดเกลา ความเงียบสงัดและ
เพราะอาศัยว่า การอยู่ป่ามีประโยชน์ด้วยการปฏิบัติอันงามนี้ จึงอยู่ป่า
อุบาลี ภิกษุผู้ถืออยู่ป่ามี 5 จำพวก นี้แล
ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า “ภิกษุผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตมีเท่าไรหนอแล พระ
พุทธเจ้าข้า ฯลฯ ภิกษุผู้ถือผ้าบังสุกุลมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า ฯลฯ ภิกษุ
ผู้ถืออยู่โคนไม้มีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า ฯลฯ ภิกษุผู้ถืออยู่ป่าช้ามีเท่าไรหนอแล
พระพุทธเจ้าข้า ฯลฯ ภิกษุผู้ถืออยู่กลางแจ้งมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า ฯลฯ
ภิกษุผู้ถือทรงผ้า 3 ผืนมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า ฯลฯ ภิกษุผู้ถือเที่ยวตาม
แถวมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า ฯลฯ ภิกษุผู้ถือการนั่งมีเท่าไรหนอแล พระ
พุทธเจ้าข้า ฯลฯ ภิกษุผู้ถืออยู่ในอาสนะตามที่จัดไว้มีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า
ฯลฯ ภิกษุผู้ถือนั่งฉัน ณ อาสนะแห่งเดียวมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า ฯลฯ
ภิกษุผู้ถือการห้ามภัตรที่เขานำมาถวายเมื่อภายหลังมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า
ฯลฯ ภิกษุผู้ถือการฉันเฉพาะในบาตรมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อุบาลี ภิกษุผู้ถือการฉันเฉพาะในบาตรนี้มี 5 จำพวก
5 จำพวก คือ
1. เพราะเป็นผู้โง่เขลา งมงาย จึงถือการฉันเฉพาะในบาตร
2. เป็นผู้มีความปรารถนาเลวทราม ถูกความอยากครอบงำ จึงถือ
การฉันเฉพาะในบาตร
3. เพราะมัวเมา จิตฟุ้งซ่าน จึงถือการฉันเฉพาะในบาตร
4. เพราะเข้าใจว่า พระพุทธเจ้า พระสาวกของพระพุทธเจ้าสรรเสริญ
จึงถือการฉันเฉพาะในบาตร
5. เพราะอาศัยความมักน้อย สันโดษ ขัดเกลา ความเงียบสงัดและ
เพราะอาศัยว่า การฉันเฉพาะในบาตร มีประโยชน์อันงามนี้ จึงถือ
การฉันเฉพาะในบาตร
อุบาลี ภิกษุผู้ถือการฉันเฉพาะในบาตรมี 5 จำพวก นี้แล”
ธุดงควรรคที่ 6 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :627 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [อุปาลิปัญจกะ] 7. มุสาวาทวรรค
หัวข้อประจำวรรค
ภิกษุถืออยู่ป่า ถือเที่ยวบิณฑบาต ถือผ้าบังสุกุล ถืออยู่โคนไม้
ถืออยู่ป่าช้า ถืออยู่ในที่กลางแจ้ง ถือทรงผ้า 3 ผืน
ถือเที่ยวตามแถว ถือการนั่ง ถืออยู่ในอาสนะตามที่จัดไว้
ถือนั่งฉัน ณ อาสนะแห่งเดียว ถือการห้ามภัตรที่เขานำมาถวาย
เมื่อภายหลัง ถือฉันเฉพาะในบาตร

7. มุสาวาทวรรค
หมวดว่าด้วยมุสาวาท
[444] ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า “มุสาวาทมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อุบาลี มุสาวาทนี้มี 5 อย่าง คือ
1. มุสาวาทที่ถึงขั้นอาบัติปาราชิกมีอยู่
2. มุสาวาทที่ถึงขั้นอาบัติสังฆาทิเสสมีอยู่
3. มุสาวาทที่ถึงขั้นอาบัติถุลลัจจัยมีอยู่
4. มุสาวาทที่ถึงขั้นอาบัติปาจิตตีย์มีอยู่
5. มุสาวาทที่ถึงขั้นอาบัติทุกกฏมีอยู่
อุบาลี มุสาวาทมี 5 อย่าง นี้แล”

งดอุโบสถหรือปวารณา
[445] ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า “ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล
งดอุโบสถหรือปวารณาในท่ามกลางสงฆ์ สงฆ์พึงกล่าวห้ามว่า ‘พอที ภิกษุ อย่า
ทุ่มเถียงกัน อย่าทะเลาะกัน อย่าแก่งแย่งกัน อย่าวิวาทกัน’ ดังนี้ แล้วจึงทำ
อุโบสถหรือปวารณา พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อุบาลี ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 งดอุโบสถหรือ
ปวารณาในท่ามกลางสงฆ์ สงฆ์พึงกล่าวห้ามว่า ‘พอที ภิกษุ อย่าทุ่มเถียงกัน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :628 }