เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [อธิกรณเภท] หัวข้อประจำเรื่อง
ในข้อนั้น อธิกรณ์อย่างไหน ไม่เป็นกิจ
วิวาทาธิกรณ์ อนุวาทาธิกรณ์ อาปัตตาธิกรณ์ อธิกรณ์นี้ไม่เป็นกิจ
ในข้อนั้น กิจอย่างไหนเป็นอธิกรณ์ด้วย เป็นกิจด้วย
กิจจาธิกรณ์เป็นอธิกรณ์ด้วย เป็นกิจด้วย
อธิกรณเภท จบ

หัวข้อประจำเรื่อง
การรื้อฟื้น อธิกรณ์ รื้อฟื้นด้วยอาการเท่าไร
บุคคลรื้อฟื้น มีอะไรเป็นนิทาน
เหตุ ปัจจัย มูล สมุฏฐาน เป็นอาบัติ
มีอธิกรณ์ ในที่ใด แยกจากกัน มีนิทาน เหตุ ปัจจัย
มูล สมุฏฐาน มีพยัญชนะ วิวาท อธิกรณ์
ดังที่กล่าวมานี้ จัดลงในประเภทอธิกรณ์ ด้วยประการฉะนี้แล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :538 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [อปรคาถาสังคณิกะ] 1. โจทนาทิปุจฉาวิสัชชนา
อปรคาถาสังคณิกะ
ว่าด้วยกลุ่มคาถาอีกกลุ่มหนึ่ง
1. โจทนาทิปุจฉาวิสัชชนา
ว่าด้วยคำถาม และคำตอบการโจท เป็นต้น
[359] ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า
“การโจทเพื่อประโยชน์อะไร การสอบสวนเพื่อเหตุอะไร
สงฆ์เพื่อประโยชน์อะไร ส่วนการลงมติเพื่อเหตุอะไร”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
“การโจทเพื่อประโยชน์ให้ระลึก การสอบสวนเพื่อประโยชน์จะข่ม
สงฆ์เพื่อประโยชน์จะช่วยกันพิจารณา
ส่วนการลงมติเพื่อช่วยกันวินิจฉัยแต่ละเรื่อง
ถ้าเธอเป็นผู้วินิจฉัยอธิกรณ์ อย่าด่วนพูด
อย่าพูดด้วยความเกรี้ยวกราด
อย่ายั่วความโกรธ อย่าพูดโดยผลุนผลัน
อย่ากล่าวถ้อยคำชวนวิวาทไม่ประกอบด้วยประโยชน์
วัตรคือการซักถามอันอนุโลมแก่สิกขาบท
ที่พระพุทธเจ้าผู้เฉียบแหลมมีพระปัญญาทรงวางไว้
ตรัสไว้ดีแล้วในพระสูตร ในพระวินัย
ในอนุโลม ในพระบัญญัติ และอนุโลมิกะ1
เธอจงพิจารณาวัตรคือการซักถามนั้น
อย่าให้เสียคติที่เป็นไปในสัมปรายภพ เป็นผู้ไฝ่หาประโยชน์
จงซักถามถ้อยคำที่ประกอบด้วยประโยชน์โดยกาล

เชิงอรรถ :
1 พระสูตร คืออุภโตวิภังค์ พระวินัย คือขันธกะ อนุโลม คือปริวาร พระบัญญัติ คือพระวินัยปิฎก
อนุโลมิกะ คือมหาปเทส (วิ.อ. 3/359/495)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :539 }