เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [อธิกรณเภท] 4. อธิกรณปัจจยาทิปัตติ
บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐานเกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร ระงับด้วยอธิกรณ์เท่าไร
ในฐานะเท่าไร ด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่างจัดเป็นวิบัติ 2 อย่าง คือ
(1) สีลวิบัติ (2) อาจารวิบัติ บรรดาอธิกรณ์ 4 เป็นอาปัตตาธิกรณ์ บรรดา
กองอาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติ 3 กอง คือ (1) กองอาบัติสังฆาทิเสส
(2) กองอาบัติปาจิตตีย์ (3) กองอาบัติทุกกฏ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6
สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 สมุฏฐาน อาบัติหนักระงับด้วยอธิกรณ์ 1 คือ
กิจจาธิกรณ์ ระงับใน 1 ฐานะ คือ ท่ามกลางสงฆ์ ระงับด้วยสมถะ 2 คือ
(1) สัมมุขาวินัย (2) ปฏิญญาตกรณะ อาบัติเบาระงับด้วยอธิกรณ์ 1 คือ
กิจจาธิกรณ์ ระงับใน 3 ฐานะ คือ ในท่ามกลางสงฆ์ ในท่ามกลางคณะ ในสำนัก
บุคคล ระงับด้วยสมถะ 3 คือ (1) สัมมุขาวินัย (2) ปฏิญญาตกรณะ
(3) สัมมุขาวินัยและติณวัตถารกะ

ว่าด้วยอาปัตตาธิกรณ์เป็นอาบัติหรืออนาบัติ เป็นต้น
[346] ถาม : อาปัตตาธิกรณ์ เป็นอาบัติหรืออนาบัติ
ตอบ : อาปัตตาธิกรณ์ เป็นอนาบัติ
ถาม : ก็เพราะอาปัตตาธิกรณ์เป็นปัจจัย จึงต้องอาบัติหรือ
ตอบ : ถูกแล้ว เพราะอาปัตตาธิกรณ์เป็นปัจจัย จึงต้องอาบัติ
ถาม : เพราะอาปัตตาธิกรณ์เป็นปัจจัย ภิกษุจึงต้องอาบัติเท่าไร
ตอบ : เพราะอาปัตตาธิกรณ์เป็นปัจจัย จึงต้องอาบัติ 4 อย่าง คือ
1. ภิกษุณี รู้อยู่ ปกปิดภิกษุณีผู้ต้องอาบัติปาราชิก ต้องอาบัติปาราชิก
2. สงสัยปกปิดไว้ ต้องอาบัติถุลลัจจัย
3. ภิกษุปกปิดอาบัติสังฆาทิเสส ต้องอาบัติปาจิตตีย์
4. ปกปิดอาจารวิบัติ ต้องอาบัติทุกกฏ
เพราะอาปัตตาธิกรณ์เป็นปัจจัย จึงต้องอาบัติ 4 อย่างนี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :525 }