เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [เอกุตตริกนัย] 3. ติกวาร
ว่าด้วยอุโบสถ เป็นต้น
อุโบสถมี 3 อย่าง คือ
1. อุโบสถในวัน 14 ค่ำ 2. อุโบสถในวัน 15 ค่ำ
3. อุโบสถสามัคคี
อุโบสถแม้อื่นอีกมี 3 อย่าง คือ
1. สังฆอุโบสถ 2. คณอุโบสถ
3. บุคคลอุโบสถ
อุโบสถแม้อื่นอีกมี 3 อย่าง คือ
1. สัตตุทเทสอุโบสถ 2. ปาริสุทธิอุโบสถ
3. อธิฐานอุโบสถ
ปวารณามี 3 อย่าง คือ
1. ปวารณาในวัน 14 ค่ำ 2. ปวารณาในวัน 15 ค่ำ
3. สามัคคีปวารณา
ปวารณาแม้อื่นอีกมี 3 อย่าง คือ
1. สังฆปวารณา 2. คณปวารณา
3. บุคคลปวารณา
ปวารณาแม้อื่นอีกมี 3 อย่าง คือ
1. ปวารณา 3 หน 2. ปวารณา 2 หน
3. ปวารณามีพรรษาเท่ากัน
บุคคลต้องไปเกิดในอบาย ต้องไปเกิดในนรกมี 3 จำพวก คือ1
1. บุคคลที่ไม่เป็นพรหมจารี แต่ปฏิญญาว่าเป็นพรหมจารี
2. บุคคลผู้ใส่ความพรหมจารีผู้บริสุทธิ์ ผู้ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์
ด้วยอพรหมจรรย์ไม่มีมูล
3. บุคคลผู้มีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า โทษในกามไม่มีแล้วถึง
ความเป็นผู้หมกมุ่นในกามทั้งหลาย

เชิงอรรถ :
1 องฺ.ติก (แปล) 20/114/357

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :448 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [เอกุตตริกนัย] 3. ติกวาร
อกุศลมูลมี 3 อย่าง คือ
1. อกุศลมูลคือโลภะ 2. อกุศลมูลคือโทสะ
3. อกุศลมูลคือโมหะ
กุศลมูลมี 3 อย่าง คือ
1. กุศลมูลคืออโลภะ 2. กุศลมูลคืออโทสะ
3. กุศลมูลคืออโมหะ
ทุจริตมี 3 อย่าง คือ
1. กายทุจริต 2. วจีทุจริต
3. มโนทุจริต
สุจริตมี 3 อย่าง คือ
1. กายสุจริต 2. วจีสุจริต
3. มโนสุจริต
พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติติกโภชนะในตระกูล โดยอาศัยอำนาจประโยชน์ 3
ประการ คือ
1. เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก
2. เพื่ออยู่ผาสุกแห่งเหล่าภิกษุผู้มีศีลดีงาม ด้วยประสงค์ว่า “พวกมัก
มากอย่าอาศัยฝักฝ่ายทำลายสงฆ์”
3. เพื่อทรงอนุเคราะห์ตระกูล
พระเทวทัตมีจิตถูกอสัทธรรม 3 อย่าง คือ
1. ความปรารถนาชั่ว 2. ความมีมิตรชั่ว
3. การได้บรรลุคุณวิเศษขั้นต่ำแล้วเลิกเสียกลางคัน
ครอบงำย่ำยี จึงไปเกิดในอบาย ไปเกิดในนรก ดำรงอยู่ชั่วกัป แก้ไขไม่ได้
สมมติมี 3 อย่าง คือ
1. สมมติไม้เท้า 2. สมมติสาแหรก
3. สมมติไม้เท้าและสาแหรก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :449 }